xs
xsm
sm
md
lg

ก.ตร.อุ้ม3ตำรวจชั่ว รับอุทธรณ์กลับเข้าทำงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ก.ตร.เมินป.ป.ช.อุ้ม 3 นายพลชั่ว "พัชรวาท-สุชาติ-เพิ่มศักดิ์" สั่งฆ่าผู้บริสุทธิ์ 7 ตุลา กลับเข้ารับราชการต่อรอ รรท.ผบ.ตร.เซ็นเท่านั้น ขณะที่โผโยกย้ายลงตัว "ปทีป" ไม่ต้องใช้ ม. 56 แก้ไขบัญชีแต่งตั้งนายตำรวจระดับ รอง ผบก.-สว. ตามที่เคยขออนุมัติจาก ก.ตร.ไว้ ด้านป.ป.ท.เตรียมรับลูกสอบต่อเรื่องเรียกรับผลประโยชน์ "เทพเทือก" ไม่พูดเรื่องหน้าห้องรมต.มีเอี่ยว

วานนี้(15 ก.พ.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ที่ประชุมก.ตร.ครั้งที่ผ่านมาได้มีการรับรองมติให้คำอุทธรณ์ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภาราดรศักดิ์ อดีตผบก.ภ.จว.อุดรธานี ฟังขึ้นให้กลับเข้ารับราชการ หลังจากนี้ขั้นตอนทางก.ตร.จะส่งเรื่องมายัง ตร.ให้ตนเองพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะพิจารณาให้ พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับเข้ารับราชการเลยหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า รอให้ได้รับเรื่องจากทางก.ตร.ก่อน ให้ทางก.ตร.ส่งเรื่องมาก่อนจะได้มาดูในรายละเอียดว่าจะรับกลับเข้ารับราชการหรือไม่รับ ซึ่งตนยังตอบตอนนี้ไม่ได้ ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้น ไม่ได้มีกรอบเวลากำหนดไว้

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ปทีป เป็นประธานการประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ(รองผบก.) โดยมีรองผบ.ตร.ร่วมประชุมครบทุกคน ทั้งนี้ มีรายงานว่าที่ประชุมวันนี้มีการหารือเรื่องปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามกฎ ก.ตร. หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งชุดพล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานตรวจสอบ และพบว่ามีหลายกองบัญชาการ (บช.) ที่ออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และแนวทางที่ตร.กำหนด ซึ่งตร.ได้สั่งการให้ บช.เหล่านั้นไปแก้ไขแล้ว ซึ่งที่ประชุมสำนักงานกำลังพล ได้รายงานผลการแก้ไขคำสั่งของแต่ละ บช.ให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งปรากฏว่าแต่ละ บช.ได้แก้ไขคำสั่งตามที่ชี้แนะไปเกือบครบสมบูรณ์แล้ว

รายงานข่าวระบุว่า มีเพียง บช.ภ.8 ที่ยังไม่แต่งตั้งผกก. ที่ได้รางวัลโรงพักเพื่อประชาชนดีเด่นของตร. ให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามที่ ตร.ชี้แนะไป โดยตัวแทนของ บช.ภ.8 ได้เข้าชี้แจงซึ่งที่ประชุมก็ยอมรับในเหตุผล

อย่างไรก็ตาม ยังมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ยังไม่แก้ไขเรื่องการแต่งตั้ง รองผกก.ขึ้นเป็น ผกก.โดยข้ามลำดับอาวุโส 2 ตำแหน่ง ตามที่ ตร.ชี้แนะไปก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ประชุมได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปถึงบช.น. โดยที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกหรือบอร์ดกลั่นกรองของบช.น.ได้พิจารณาถอนคำสั่งเดิม และให้รอง ผกก.อาวุโสสูงได้เลื่อนขึ้นแทนแล้วในวันนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้พล.ต.อ.ปทีป ไม่ต้องใช้อำนาจตาม มาตรา 56 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ตามที่ขออนุมัติ ก.ตร. มาแล้ว มาแก้ปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้แต่อย่างใด

รายงานข่าวระบุว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี และพวกรวม 3 นาย เข้าร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายในสังกัด บช.ภ.1 ในวันนี้ ที่ตร. นั้น ที่ประชุมมีมติว่า การร้องทุกข์ว่าการแต่งตั้งนี้ฟังไม่ขึ้น จึงให้ตกไป ขณะที่การทำคำสั่งบช.ภ.2 ที่มีการยกเลิกคำสั่งเก่า และทำใหม่นั้น ฝ่ายกำลังพล บช.ภ.2 ได้ทำบัญชีเสร็จแล้ว และรอส่งให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ภ.2 ลงนามเพื่อให้มีผลในวันที่ 16 ก.พ.
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ปทีป ยังเป็นประธานการประชุมพิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งในบช. ที่มีปัญหาการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามกระบวนการ และไม่ถูกต้องตามกฎ ก.ตร.และแนวทางการแต่งตั้งของ ตร. โดยมีรองผบ.ตร. ทุกนายร่วมประชุม โดยได้เรียกผู้บัญชาการหน่วยที่มีปัญหา อาทิ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 (ผบช.ภ.5) และ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 ฯลฯ รอเข้าชี้แจงด้วย

** 3 นายตำรวจยื่นเรื่องร้องเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการเริ่มประชุมมีนายตำรวจ 3 นาย มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ปทีป ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ประกอบด้วย พ.ต.อ.ปัญญา นาควิเชียร ผกก.สภ.เมืองชัยนาท โดยร้องเรียนว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 53 ผบช.ภ.1 ได้มีคำสั่ง บช.ภ.1ที่ 73/2553 ไปเป็น ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ต่อมาเมื่อมีการร้องเรียน และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ก็มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งโดยถอนคำสั่งเดิม และมีคำสั่งใหม่ให้ตนไปเป็น ผกก.สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเป็น สภ.กลุ่มที่ 2 ซึ่งมีปริมาณงานน้อย ทั้งที่ตนมีผลงานดีมาตลอด อีกราย พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.สระโบสถ์ จ.สระบุรี ร้องเรียนว่าในการแต่งตั้งครั้งนี้ เดิมที่มีคำสั่งให้เป็น ผกก.สภ.ปางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ต่อมาถอนคำสั่งให้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิม แต่กลับมีคำสั่งแต่งตั้งให้พ.ต.ท.ธนภณ โพธิสุข รองผกก.สภ.บางปะอิน นายตำรวจที่อยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัยฯ ขึ้นเป็นผกก.แทน
อีกราย พ.ต.ท.ธัชกร รอดเจียม รองผกก.สภ.เมืองชัยนาท เข้าร้องเรียนว่า ตนไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผกก. ทั้งที่ตนอยู่ในอาวุโสลำดับที่ 1 และอยู่ในลำดับที่ 21 ของตำรวจภูธร ภาค 1 โดย รรท.ผบ.ตร.ได้รับหนังสือร้องเรียนจาก ตร.ทั้ง 3 นายไว้ โดยนายตำรวจทั้ง 3 นายขอร้องให้ รรท.ผบ.ตร.เห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่ไม่กล้าเข้ามาร้องเรียน

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่าได้รับหนังสือร้องเรียนของตำรวจทั้ง 3 นาย ไว้พิจารณา และจะส่งให้คณะกรรมการทำการตรวจสอบ แต่ต้องดูรายละเอียดการร้องเรียนก่อน แม้วันนี้ (16 ก.พ.) ทุกคำสั่งจะมีผล แต่การร้องเรียนเข้ามาตนก็จะตรวจสอบดำเนินการไปตามขั้นตอน หากพบว่าการแต่งตั้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะทำการแก้ไขให้ถูกต้อง โดยต้องไปดูให้รู้เรื่องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน

“ครั้งนี้ถือว่า ผมได้รับร้องเรียนการแต่งตั้งไม่เป็นธรรมครั้งแรก และเปิดโอกาสให้ตำรวจที่เดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้ามาร้องเรียนได้ และยืนยันจะไม่มีการดำเนินการทางวินัยภายหลังแน่นอน" รรท.ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า กรณีที่มีการร้องเรียนถึงเรื่องทุจริตซื้อขายตำแหน่ง ความไม่ชอบมาพากลในการแต่งตั้งในหลาย บช.นั้น ก็มีคณะกรรมการสืบสวนชุด พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รองอธิบดีกรมตำรวจ สืบสวนสอบสวนอยู่ ที่ว่ามีนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง ตนก็ยังไม่รับทราบ เรื่องนี้คณะกรรมการชุดนั้นก็ดำเนินการไป
ในส่วนของตนนั้นตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการแต่งตั้งเท่านั้น โดยพิจารณาแต่งตั้งระดับสารวัตรในสังกัดสำนักงาน ผบ.ตร. ส่วนใน บช.อื่นก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการคัดเลือกแต่ละ บช.

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่มีการร้องเรียนการแต่งตั้งไม่ชอบธรรมในบช.น. บช.ก. บช.ภ.7 บช.ภ.8 และบช.ภ.9 พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตอบไม่ได้ แต่หากมีปัญหากระบวนการแต่งตั้ง คณะกรรมการของตร. ที่ตนตั้งก็ต้องตรวจสอบไป ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มี ทั้งนี้ตนยังไม่ได้ไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.วสิษฐ และก็ยังไม่มีการเรียกไปแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจทั้ง 3 นายที่ร้องเรียนของความเป็นธรรมต่อพล.ต.อ.ปทีป แล้ว ได้ไปร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย

**ป.ป.ท.พร้อมตรวจสอบทุจริต

ด้านนายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ป.ป.ท. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเรียกรับผลประโยชน์การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นป.ป.ท.จัดเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยได้เรียกประชุมระดับรองเลขาธิการป.ป.ท. และผู้อำนวยการสำนักในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเข้าไปตรวจสอบข้อมูล โดยตนในฐานะเลขาฯป.ป.ท. จะเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้งว่า ในคำสั่งดังกล่าวต้องการให้ตรวจสอบเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หรือให้ตรวจสอบการโยกย้ายในพื้นที่อื่นๆ ด้วย คาดว่าจะสามารถตรวจสอบได้เสร็จสิ้น ภายในระยะเวลา 30 วัน

“รอคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่กำหนดขอบเขตพื้นที่การทำงาน ถ้าท่านมอบหมายชัดเจนแล้ว ผมก็ปฏิบัติได้ทันที ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว” เลขาฯป.ป.ท.กล่าว
นายภิญโญ กล่าวต่อว่า ไม่หนักใจที่ ป.ป.ท.ได้รับคำสั่งให้เข้าไปตรวจสอบการเรียกรับผลประโยชน์ของกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวคล้ายกับภารกิจปกติ ของ ป.ป.ท. ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว

**"สุเทพ"ปัดพูดหน้าห้องรมต.มีเอี่ยว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งที่มี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็นประธาน และมีการระบุว่า มีหน้าห้องรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งว่า ปกติเวลามีการรายงานไปถึงนายกฯ ทางนายกฯ ก็จะสั่งให้มีการตรวจสอบให้ถึงที่สุด และคณะกรรมการชุดนี้ ก็จะรายงานไปที่นายกฯโดยตรง ไม่ได้รายงานมาที่ตน ดังนั้นเมื่อรายงานไป นายกฯก็จะสั่งการให้มีการตรวจสอบให้ถึงที่สุด

ส่วนที่มีการระบุมี ส.ส.ในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น ขอให้เกิดความชัดเจนของรายงานก่อนดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น