xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : “เสรีพิศุทธ์” อัด ก.ตร.อัปยศยื้อมติอุ้ม “ป๊อด” ท้าทายอำนาจ ป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง : “เสรีพิศุทธ์” กะซวก “ก.ตร.” อัปยศ ยื้อมติ ป.ป.ช. จงใจช่วย “พัชรวาท” ย้ำโทษ 3 นายพล คือ ปลดออกกับไล่ออก ล้างมติ ป.ป.ช.ไม่ได้ หลัง “พัชรวาท” พยายามดิ้นยื่นอุทธรณ์ ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคนใน ก.ตร. เผยนายกฯ มีสิทธิฟัน ทำตามอำนาจ กม.ป.ป.ช. ซึ่งตำรวจไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย จวก “สุเทพ” ปัดสวะไม่พ้น ส่อเจตนาช่วยฆาตกรชัดเจน



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”  

 
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันจันทร์ที่ 25 มกราคม มี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีวิทยากรรับเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ และนายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยในรายการถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรับมอบอำนาจดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี รอง ผบ.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติ และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุม ซึ่ง ก.ตร. ชุดนี้ยืนตามมติเดิม 9 เสียง ว่า 3 นายพล ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.จว.อุดรธานี ไม่ได้กระทำความผิด

ทั้งนี้ ในรายการได้มีการต่อสายโทรศัพท์เพื่อสัมภาษณ์สด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ถึงกรณีดังกล่าว โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คดีสั่งสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาฯ 2551 ในเมื่อ ป.ป.ช. มีมติแล้วว่า 3 นายตำรวจใหญ่มีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 158 ฐานความผิดร้ายแรง ซึ่งกรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.พัชรวาท ก็สามารถสั่งลงโทษได้ทันที คือมี 2 สถาน ไม่ไล่ออกก็ปลดออกเท่านั้น ทั้งนี้ เท่าที่ตนดูถือว่านายอภิสิทธิ์มีความเมตตากับ พล.ต.อ.พัชรวาท จึงพยายามใช้วิธีการขั้นเบาที่สุด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ ให้สิทธิ์ผู้ที่ถูกกล่าวหาสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่สามารถหักล้างมติ ป.ป.ช.เด็ดขาด โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กับพวก เมื่อทำผิดแล้ว ไม่สมควรจะโทษใคร ก็ยื่นอุทธรณ์ได้ตามสิทธิ์ที่พึ่งกระทำ แต่ฝ่ายปัญหาต่อไปมันอยู่ที่การพิจารณาเรื่องนี้อยู่ที่ ก.ตร. ซึ่งเรื่องที่น่าสนใจ คือ พล.ต.อ.พัชรวาท เคยดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. ต่อจากสมัยตน ทำให้สรุปแล้วก็จะรู้ทันทีว่า ก.ตร.ชุดนี้ ก็เป็นคนของ พล.ต.อ.พัชรวาท ทั้งนั้น เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ พล.ต.อ.พัชรวาท มีความสนิทสนมและพร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากตำหนิ ก.ตร.ชุดนี้ เนื่องจากเป็นอดีตราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเรื่องนี้ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยื่นอุทธรณ์กับ ก.ตร. แต่ไม่ยอมส่งเรื่องไปให้ศาลปกครองชี้มูล ดังนั้น การต่อสู้ที่เป็นอยู่ จึงเป็นเจตนาอุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท โดยตรง ทั้งนี้ ความจริงมันชัดเจน คือ นายกฯ มีสิทธิลงโทษว่าจะปลดออกหรือไล่ออก ตามอำนาจของกฏหมาย ป.ป.ช. ซึ่งไม่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ ก.ตร. เพราะไม่ได้ตัดสินตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉะนั้น การที่ ก.ตร. พยายามมีมติหักล้างคำชี้มูล ป.ป.ช. ถือว่าทำไม่ได้ โดยคนพวกนี้มักจะเล่นพรรคเล่นพวก รู้กฏหมายดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังจะช่วย ด้วยการนำกฏหมาย ป.ป.ช.มาเปรียบเทียบกับกฏหมายตำรวจ ทั้งที่ พ.ร.บ.ตำรวจ มันบังคับใช้แค่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ควบคุมกฎหมายหลัก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ ก.ตร.หลายคนที่ไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. และนายสมศักดิ์ บุญทอง ไม่เข้าร่วมประชุม โดยใช้ข้ออ้างต่างๆ ตนคิดว่าคนพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะรู้ว่ามันผิด ดังนั้น ในที่ประชุม ก.ตร.จึงมีแต่คนเห็นด้วยในการยืนมติเดิม ก.ตร. ช่วย พล.ต.อ.พัชรวาท โดยไม่มีเสียงค้าน ทั้งนี้ คนที่ไม่ร่วมประชุม คงไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

“ตอนนี้มีการย้ำให้เห็นถึงเจตนาว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยจะมาอ้างว่า ป.ป.ช.เป็นคู่กรณี ซึ่งถ้าทำแบบนี้คงไม่ได้ เพราะที่เห็นมีแต่อีกฝ่ายไปยุ่งกับ ป.ป.ช. โดยสรุปแล้วการไปยอมเอาเรื่องนี้ เข้าเป็นวาระประชุม ล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจของประธาน ก.ตร.นั่นคือนายสุเทพ ทั้งที่กรณีนี้เดิมเป็นวาระจร ไม่ได้เป็นวาระที่ต้องพิจารณาตั้งแต่แรก แต่มีความพยายามผลักดันเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อทำให้มีการลงมติพิจารณา จนนำมาสู่การยืนมติ 9 เสียง ว่า 3 นายพลไม่มีความผิด ซึ่งเรื่องนี้จริงๆ ความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท ฝ่ายนายอภิสิทธิ์ ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนอีก 2 นายพลที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. แต่ถ้าจะให้เดา พล.ต.อ.ปทีป ก็คงไม่กล้าตัดสินใจเรื่องนี้เหมือนกัน จึงเชื่อว่า จะยังคงคารังคาซังต่อไป” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า หากเป็นตนเรื่องนี้จะจัดการตามที่คำชี้มูลของ ป.ป.ช. ที่มีคำวินิจฉัยความผิดมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ นายสุเทพ ไม่อาจจะปัดความรับผิดได้ แม้จะไม่ได้ออกเสียงลงมติ แต่ก็ถือว่ามีความผิด เพราะเป็นคนผลักดันเรื่องนี้เป็นวาระการประชุม เสมือนว่าชงเรื่องนี้ เพื่อช่วย พล.ต.อ.พัชรวาท จะมาปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

จากนั้น นายประพันธ์กล่าวประเด็นนี้ว่า สมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร.ได้แต่งตั้งนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เป็นที่ปรึกษา และเป็นไปได้ว่ากำลังจะผลักดันให้เป็นหนึ่งใน ก.ตร. โดยล่าสุด นายเสรีได้ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นห่วงอำนาจนายกฯ ในการบริหารบ้านเมือง เพราะต้องมีภาวะผู้นำให้คนอื่นยอมรับ และอยู่บนความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญหาภายใน สตช.จะกลายเป็นปัญหาส่วนตัวของนายกฯ กับ ผบ.ตร.ไปแล้ว ดังนั้น จากคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงจุดยืนเวลานี้ของนายเสรีแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น