"มาร์ค"สั่งรื้อโผตร.ภาค 2 ให้เสร็จในวันนี้ (15 ก.พ.) พร้อมตั้งเลขาฯป.ป.ท.สอบการเรียกรับผลประโยชน์ กำชับ"ปทีป"ห้ามปล่อยให้การร้องเรียนเป็นหมัน ต้องชี้แจงทุกเรื่อง ย้ำ 3 นายพลคดี 7 ตุลาฯต้องร้องศาลปกครองเอง คาดเก้าอี้ผู้กำกับพัทยา-บางละมุง-บางปะกง ต้องปรับใหม่
วานนี้ (14 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ภายหลังพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) นำผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง.ผบก.) ของ บช.ภ.2 ที่มีพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รองอตร. เป็นประธาน ว่า คณะกรรมการมีข้อเสนอมา 2 ข้อ 1. การแต่งตั้ง ให้ออกมีการออกคำสั่งใหม่ ซึ่งตนได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับ พล.ต.อ.ปทีป ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีปจะนำข้อมูลไปใช้ประกอบในการออกคำสั่งใหม่ ซึ่งคาดว่าการดำเนินการน่าจะเสร็จในวันนี้ (15 ก.พ.)
2. การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นการเฉพาะ เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้กำลังดูองค์ประกอบ เพราะตนต้องการให้คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นดูกฎหมายตำรวจและกฎหมายบริหารราชการแผ่นดินควบคู่กันไป เพื่อทำให้การดำเนินงานเชื่อมต่อไปยังการดำเนินการได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งเลขาฯป.ป.ท. มาเป็นประธานคณะกรรมการสอบ จะทำให้เป็นจุดอับหรือไม่ เพราะป.ป.ท. ทำหน้าที่ตรวจสอบภาครัฐเพียงอย่างเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากตัวรายงานกรณีภาคที่ 2 ไม่มีเรื่องนักการเมืองทำให้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนคำร้องเรียนที่พาดพิงนักการเมือง เป็นคำร้องเรียนกรณีภาคอื่น ซึ่งคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.วสิษฐ จะเริ่มพิจารณาในสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่า คณะกรรมการที่มีเลขาฯป.ป.ท.เป็นประธานเข้าไปสอบเฉพาะภาค 2 ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง ซึ่งจะสอบประเด็นเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ส่วนภาค 1 , 4 , 6 ต้องรอรายงานของคณะกรรมการก่อน
เมื่อถามว่าขณะนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ ยังไม่มั่นใจในอำนาจหน้าที่ว่าสามารถเรียกนักการเมืองเข้ามาให้ปากคำได้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ กรณีภาค 2 พล.ต.อ.วสิษฐได้รายงานมาว่า ได้เชิญใครบ้าง ดูจากเอกสารบ้าง ถ้ามีปัญหาอุปสรรคอะไร พล.ต.อ.วสิษฐ สามารถรายงานเข้ามาได้ ตนจะสนับสนุนให้ทำงานได้
เมื่อถามว่า กรณีภาค 2 ที่มีการรื้อโผ ต้องใช้เวลาเท่าไรในการทำโผใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ใช้เวลาไม่นาน พรุ่งนี้ (วันที่ 15 ก.พ. ) ก็เสร็จ เพราะต้องการที่จะให้คำสั่งทั้งหมดมีผลพร้อมกันในวันที่ 16 ก.พ."
เมื่อถามว่า กลไกทั้งหมดเป็นไปตามที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมทำบัญชีรายชื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครับ แต่ต้องนำข้อมูลของคณะกรรมการชุดพล.ต.อ.วสิษฐ ไปประกอบด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ส่งข้อมูลไปให้แล้ว
"ผมได้เรียนให้ทราบว่า ภาคอื่นๆ ที่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่ไม่ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการชุดพล.ต.อ.วสิษฐ ผมก็บอก พล.ต.อ.ปทีปว่า ต้องมีคำตอบด้วย อย่ารับเรื่องไปแล้วหายไปเฉยๆ มีมูล หรือไม่มีมูลก็ขอให้ชี้แจง ไม่เช่นนั้นมันจะบั่นทอนความเชื่อมั่นในกลไกปกติ ซึ่งกรณีที่ส่งให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เป็นจะเป็นกรณีที่เห็นว่ามีการพาดพิงถึงคนที่อยู่ในสำนักงาน สตช.และนักการเมือง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการร้องเรียนเข้ามา จำเป็นต้องขยายเวลาการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.วสิษฐ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วแต่ พล.ต.อ.วสิษฐ ซึ่งพล.ต.อ.วสิษฐ บอกว่าในวันที่ 17-18 ก.พ. น่าจะรายงานได้ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการพยายามผลักดันให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่าตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. มีสาเหตุมาจากอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ก.ตร.พิจารณาอยู่ แต่ก็ทราบว่าพล.ต.อ.ปทีป ได้ถอนเรื่องออกไปแล้ว
**ยัน 3 นายพลต้องไปร้องศาลปค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ก.ตร.ยังยืนยันมติ รับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลา 51 และอดีต พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดอุดรธานี ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กรณีปล่อยให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องส่งไปยังสตช. เขาเพิ่งรับรองมติ ซึ่งสตช. ต้องดูข้อกฎหมาย และเท่าที่ได้หารือกับ พล.ต.อ.ปทีป ก็ยืนยันว่าต้องดูข้อกฎหมาย เพราะมติใดที่ขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่สามารถใช้ได้ ส่วนความเห็นตนยังเหมือนเดิม เพราะตนเพิ่งมีเรื่องทำนองเดียวกันเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการ (ก.พ.) ซึ่งได้ยืนยันว่า ก.พ.ไม่สามารถกลับมติในเชิงข้อเท็จจริง หรือผลสอบสวนของป.ป.ช.ได้ และอยากให้คนที่เกี่ยวข้องไปใช้สิทธิทางศาลปกครองมากกว่า
เมื่อถามว่า ข้อขัดแย้งจะสามารถยุติได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูตัวมติว่ามีเหตุผลอย่างไร ส่วนที่อ้างว่า ต้องทำตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินั้น มันต้องไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น
**คาดรื้อผู้กำกับพัทยา-บางละมุง
รายงานข่าวแจ้งว่าการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร ใน บช.ภ. 2 ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ล่าสุด พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ภ. 2 ได้เดินทางไปยัง บช.ภ. 2 เพื่อประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายอีกรอบ ซึ่งตำแหน่งที่น่าจับตา และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.พัทยา, สภ.บางละมุง, สภ.บางปะกง คาดว่าบัญชีการแต่งตั้งจะแล้วเสร็จในวันนี้ และจะมีผลบังคับในวันที่ 16 ก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ใช้มาตรา 56 ให้อำนาจ ผบ.ตร.ในการแต่งตั้ง โดยจะพิจารณาเรื่องแต่งตั้งตำรวจที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ และการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกองบัญชาการต่างๆ ที่แต่ละกองบัญชาการยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข
ด้านพล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ยังไม่เข้าทำงานที่ สตช. พร้อมทำหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 14 ก.พ.53 ถึง รรท.ผบ.ตร. เพื่อขออนุญาตลาพักผ่อนประจำปี กำหนด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-19 ก.พ.53
**ปูดนักการเมือง"ส.-ศ."ล้วงโผ ตร.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การซื้อขายตำแหน่งของตำรวจนั้น จากการตรวจสอบของคณะทำงาน พบว่า มีนักการเมืองใหญ่ "ส." และ"ศ." เข้าไปเกี่ยวข้องเกือบทุกกองบัญชาการ โดยในวันที่ 16 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. ตนและทีมกฎหมายจะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
วานนี้ (14 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ภายหลังพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) นำผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเรื่องการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง.ผบก.) ของ บช.ภ.2 ที่มีพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รองอตร. เป็นประธาน ว่า คณะกรรมการมีข้อเสนอมา 2 ข้อ 1. การแต่งตั้ง ให้ออกมีการออกคำสั่งใหม่ ซึ่งตนได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับ พล.ต.อ.ปทีป ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.ปทีปจะนำข้อมูลไปใช้ประกอบในการออกคำสั่งใหม่ ซึ่งคาดว่าการดำเนินการน่าจะเสร็จในวันนี้ (15 ก.พ.)
2. การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นการเฉพาะ เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้กำลังดูองค์ประกอบ เพราะตนต้องการให้คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นดูกฎหมายตำรวจและกฎหมายบริหารราชการแผ่นดินควบคู่กันไป เพื่อทำให้การดำเนินงานเชื่อมต่อไปยังการดำเนินการได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งเลขาฯป.ป.ท. มาเป็นประธานคณะกรรมการสอบ จะทำให้เป็นจุดอับหรือไม่ เพราะป.ป.ท. ทำหน้าที่ตรวจสอบภาครัฐเพียงอย่างเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากตัวรายงานกรณีภาคที่ 2 ไม่มีเรื่องนักการเมืองทำให้ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนคำร้องเรียนที่พาดพิงนักการเมือง เป็นคำร้องเรียนกรณีภาคอื่น ซึ่งคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.วสิษฐ จะเริ่มพิจารณาในสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่า คณะกรรมการที่มีเลขาฯป.ป.ท.เป็นประธานเข้าไปสอบเฉพาะภาค 2 ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง ซึ่งจะสอบประเด็นเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ส่วนภาค 1 , 4 , 6 ต้องรอรายงานของคณะกรรมการก่อน
เมื่อถามว่าขณะนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ ยังไม่มั่นใจในอำนาจหน้าที่ว่าสามารถเรียกนักการเมืองเข้ามาให้ปากคำได้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ กรณีภาค 2 พล.ต.อ.วสิษฐได้รายงานมาว่า ได้เชิญใครบ้าง ดูจากเอกสารบ้าง ถ้ามีปัญหาอุปสรรคอะไร พล.ต.อ.วสิษฐ สามารถรายงานเข้ามาได้ ตนจะสนับสนุนให้ทำงานได้
เมื่อถามว่า กรณีภาค 2 ที่มีการรื้อโผ ต้องใช้เวลาเท่าไรในการทำโผใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ใช้เวลาไม่นาน พรุ่งนี้ (วันที่ 15 ก.พ. ) ก็เสร็จ เพราะต้องการที่จะให้คำสั่งทั้งหมดมีผลพร้อมกันในวันที่ 16 ก.พ."
เมื่อถามว่า กลไกทั้งหมดเป็นไปตามที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เตรียมทำบัญชีรายชื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครับ แต่ต้องนำข้อมูลของคณะกรรมการชุดพล.ต.อ.วสิษฐ ไปประกอบด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ส่งข้อมูลไปให้แล้ว
"ผมได้เรียนให้ทราบว่า ภาคอื่นๆ ที่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่ไม่ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการชุดพล.ต.อ.วสิษฐ ผมก็บอก พล.ต.อ.ปทีปว่า ต้องมีคำตอบด้วย อย่ารับเรื่องไปแล้วหายไปเฉยๆ มีมูล หรือไม่มีมูลก็ขอให้ชี้แจง ไม่เช่นนั้นมันจะบั่นทอนความเชื่อมั่นในกลไกปกติ ซึ่งกรณีที่ส่งให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เป็นจะเป็นกรณีที่เห็นว่ามีการพาดพิงถึงคนที่อยู่ในสำนักงาน สตช.และนักการเมือง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการร้องเรียนเข้ามา จำเป็นต้องขยายเวลาการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.วสิษฐ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วแต่ พล.ต.อ.วสิษฐ ซึ่งพล.ต.อ.วสิษฐ บอกว่าในวันที่ 17-18 ก.พ. น่าจะรายงานได้ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการพยายามผลักดันให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ.10) เทียบเท่าตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. มีสาเหตุมาจากอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ก.ตร.พิจารณาอยู่ แต่ก็ทราบว่าพล.ต.อ.ปทีป ได้ถอนเรื่องออกไปแล้ว
**ยัน 3 นายพลต้องไปร้องศาลปค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ก.ตร.ยังยืนยันมติ รับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ตุลา 51 และอดีต พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดอุดรธานี ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กรณีปล่อยให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องส่งไปยังสตช. เขาเพิ่งรับรองมติ ซึ่งสตช. ต้องดูข้อกฎหมาย และเท่าที่ได้หารือกับ พล.ต.อ.ปทีป ก็ยืนยันว่าต้องดูข้อกฎหมาย เพราะมติใดที่ขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่สามารถใช้ได้ ส่วนความเห็นตนยังเหมือนเดิม เพราะตนเพิ่งมีเรื่องทำนองเดียวกันเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการ (ก.พ.) ซึ่งได้ยืนยันว่า ก.พ.ไม่สามารถกลับมติในเชิงข้อเท็จจริง หรือผลสอบสวนของป.ป.ช.ได้ และอยากให้คนที่เกี่ยวข้องไปใช้สิทธิทางศาลปกครองมากกว่า
เมื่อถามว่า ข้อขัดแย้งจะสามารถยุติได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูตัวมติว่ามีเหตุผลอย่างไร ส่วนที่อ้างว่า ต้องทำตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาตินั้น มันต้องไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น
**คาดรื้อผู้กำกับพัทยา-บางละมุง
รายงานข่าวแจ้งว่าการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร ใน บช.ภ. 2 ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ล่าสุด พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ภ. 2 ได้เดินทางไปยัง บช.ภ. 2 เพื่อประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายอีกรอบ ซึ่งตำแหน่งที่น่าจับตา และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.พัทยา, สภ.บางละมุง, สภ.บางปะกง คาดว่าบัญชีการแต่งตั้งจะแล้วเสร็จในวันนี้ และจะมีผลบังคับในวันที่ 16 ก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ใช้มาตรา 56 ให้อำนาจ ผบ.ตร.ในการแต่งตั้ง โดยจะพิจารณาเรื่องแต่งตั้งตำรวจที่ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ และการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกองบัญชาการต่างๆ ที่แต่ละกองบัญชาการยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข
ด้านพล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 ยังไม่เข้าทำงานที่ สตช. พร้อมทำหนังสือบันทึกข้อความ ลงวันที่ 14 ก.พ.53 ถึง รรท.ผบ.ตร. เพื่อขออนุญาตลาพักผ่อนประจำปี กำหนด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-19 ก.พ.53
**ปูดนักการเมือง"ส.-ศ."ล้วงโผ ตร.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การซื้อขายตำแหน่งของตำรวจนั้น จากการตรวจสอบของคณะทำงาน พบว่า มีนักการเมืองใหญ่ "ส." และ"ศ." เข้าไปเกี่ยวข้องเกือบทุกกองบัญชาการ โดยในวันที่ 16 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. ตนและทีมกฎหมายจะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว