ปรากฏการณ์ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในกลุ่ม “สมุน” ของ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” ทั้งในกลุ่มคนเสื้อแดงที่เปิดศึกห้ำหั่นกันระหว่าง 3 เกลอหัวขวดกับ 1 นายพลชราและเสธ.ทหารนอกแถว รวมทั้งในพรรคเพื่อไทยระหว่าง “เป็ดเหลิม” กับ “หญิงหน่อย” นั้น ความจริงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรนัก
อย่างไรก็ตาม ในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็ส่งผลทำให้งานใหญ่ของนายใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าต้องชะงักลงไปไม่น้อย
ดังนั้น เพื่อความกระจ่างแจ้ง "ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์" จึงไปขอความรู้จาก “อาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ” นักวิชาการอิสระและอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะมาช่วยล้วงแคะแกะเกาและลากไส้ให้เห็นถึงความจริงที่ดำรงอยู่ทีละขด ชนิดที่อ่านแล้วจะต้องซี้ดปากตามเลยทีเดียว
**อาจารย์วิเคราะห์ปรากฏการณ์ความแตกแยกที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนเสื้อแดงและบริวารของทักษิณว่า มีเหตุและปัจจัยมาจากอะไร ?
ถึงทุกวันนี้ข่าวที่ปรากฏคือแดงแตกกัน ทั้งแดงรากหญ้า แดงต่างจังหวัด แดงหัวขวดสวย แดงหัวเกรียนเก่าทหารแตกกัน คนก็เดาต่างๆ นานา ว่าแตกกันเพราะอะไร บ้างก็ว่าแตกกันเพราะแย่งทรัพย์ บ้างก็ว่าแตกกันเพราะแย่งบทบาท บ้างก็ว่าแตกกันเพราะเงินมาไม่ถึง คนเก็บทอนไว้ก่อน ซึ่งคงมีความจริงอยู่ไม่น้อย คงจะครอบคลุมจำนวนบุคคลที่ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะเข้าใจไม่ไปหัวเราะเยาะเย้ยหรือประมาท เพราะในหมู่แดงนี้ น่าจะตั้งข้อสังเกตไว้ คือแกนนำปฏิบัติการของฝ่ายแดง ไม่ว่า 1.จะอยู่ในสภา 2.ในวิทยุชุมชน 3.มีในมวลชนรากหญ้า 4.มีในสื่อ 5.มีอยู่ในกลไกของรัฐบาล ล้วนแล้วแต่ปฏิบัติการคล้องจองตามยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของผู้บังคับบัญชาสูงสุดคนเดียวทั้งสิ้น
ทั้งๆ ที่พรรคแดงมีเสียงข้างมากในสภาตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ไม่ออกกฎหมายแม้แต่ฉบับเดียว ทำลายระบบประชาธิปไตย และนิติบัญญัติโดยสิ้นเชิง แต่ไปโฆษณาว่าเป็นพวกที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีของนิติบัญญัติ เป็นตัวแทนของประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องตรงกันข้ามเลย ฝ่ายแดงทุกฝ่ายประสานเสียงชนะอย่างเดียวกันหมด ไม่มีใครมองเลยว่าถ้าหัวหน้าใหญ่ไม่สั่ง มันก็จะไม่ทำลายสถาบันนิติบัญญัติอย่างนี้ ทีนี้ เมื่อถูกหักหลังเป็นรัฐบาลไม่ได้แล้ว มันจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญคือตั้งหัวหน้าฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ตั้ง ไม่รู้ใครเป็นหัวเป็นหาง
ส่วนพวกที่ป่วนอยู่ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่า กลุ่มบุคคลเดียวกันนี้เคยป่วนหน้าบ้านคุณเปรม(ติณสูลานนท์) จตุพร (พรหมพันธุ์) ก็อยู่ในนี้ พวกนี้ เมื่อ2-3 วันนี้ ผมได้ยินแว่วๆ ว่าทูตประเทศตะวันตกที่ใหญ่โตแห่งหนึ่งบอกว่า นี่ถ้าอยู่ประเทศเขาวันเดียว ถูกจับติกคุกหัวโตไปแล้ว เขาสงสัยว่าพวกนี้อยู่ได้อย่างไร มาทำงานต่อเนื่องทำลายประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ประทุษร้ายนายกฯ ลากคอเลขาธิการนายกฯ ลงมาทำร้าย เอาไปกักขังให้เสื่อมสิ้นอิสรภาพ ซูเอี๋ยปล่อยกันออกมา แล้วก็ก่อเหตุเมื่อเดือนเม.ย. เผารถ เข็นรถลงน้ำ เอาแก๊สมาขู่จะเผาเมือง หรืออย่างเสธ.แดง พวกนี้ถ้าอยู่ในประเทศประชาธิปไตยที่แท้จริง ติดคุกหัวโตหมด ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น ไม่รอดหรอก ติดคุกหัวโตนานแล้ว
แต่ที่ไม่ติดคุกหัวโตเพราะเมืองไทยเป็นเมืองที่ไม่มีขื่อมีแป ผู้มีอำนาจรัฐไม่มีอำนาจทางศีลธรรมและธรรมะที่ทำให้เกิดความกล้าหาญ ธรรมะ 5 อย่างที่ทำให้เกิดการกล้าหาญ เขาเรียกว่า เวสารัชชกรณธรรม5 พวกผู้นำไทยขาดอำนาจทางศีลธรรมก็เลยขาดเวสารัชชกรณธรรม 5 เมื่อทำอย่างนี้มันก็หมักหมมเป็นหางหมู เรียกว่าบานปลาย การรวบรวมตัวของสีแดงก็เติบใหญ่กล้าแข็งขึ้นทุกที แต่ว่ากาลเวลาอันยาวนาน มันทำให้คณะบุคคลซึ่งมีผลประโยชน์เหมือนกัน ไม่ใช่มีอุดมการณ์เหมือนกัน ต่างก็แย่งผลประโยชน์ ความหนักความเบาก็แล้วแต่ความคาดหมายว่า จะล้มฝ่ายหนึ่งได้เมื่อไหร่ แล้วถ้าล้มได้แล้วใครจะได้ดี พวกอยากสมัครผู้แทน ส.ส.เก่าก็มีผลประโยชน์อย่างหนึ่ง ก็รับระดมมวลชนมาแบบหนึ่งได้เงินด้วย แล้วถือว่ายังครองใจมวลชนด้วย พวกหัวขวด หัวสวยอะไรทั้งหลายก็อย่างหนึ่ง อย่างที่อุดรฯ ที่เห็นชัดเลยขวัญชัย (ไพรพนา) อยากตั้งตัวเป็นใหญ่ ถ้าวันเลือกตั้งมาถึง มันก็จะสู้กันกับผู้แทนเก่า อะไรแบบนี้มันก็ทำให้แตกกันอยู่ในเชิงและหลายอย่าง
บางคนก็บอกว่าโอ! พัลลภ (ปิ่นมณี )กับเสธ.แดง แกล้งแตกกันกับ 3 หัวขวด เพราะแย่งชิงการนำ บางพวกบอกไม่ใช่หรอก อยากแสดงเพื่อให้หัวหน้าใหญ่ลูบหัวทุกคนพร้อมๆ กัน มันก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีอุดมการณ์และความแนบแน่นสามัคคีเป็นพื้นฐาน แต่ไม่ได้หมายความว่าขาดศักยภาพที่จะทำลายประเทศไทย ที่แตกกันคนมองว่าแตกกันทางยุทธวิธีก็ได้ แตกกันจริงๆ เพราะว่าแย่งกระดูกกันก็ได้
**แล้วอาจารย์มองว่าแตกกันเพราะอะไร?
เรื่องนี้ผมมองมุมไหนไม่ได้หรอก ต้องสำรวจทุกมุม จะเชื่อง่ายๆ ไม่ได้ บางคนเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่กองทัพภาคประชาชนท่านนำเงินไปบำเรอสาว ท่านเงินไม่พอหรือท่านเป็นหนี้มาก ผมจะไม่เชื่อจนกว่าจะถามหรือสืบดู หรือว่าเพราะเงินไม่พอเลยไม่เป็น หรือว่าเข้าไปแฝงกายเพื่อช่วยฮ่องเต้ ก็ไม่รู้ได้ ต้องพิสูจน์ ผมไม่ใช่พ่อหมอ
ดังนั้น สรุปว่าเป็นองค์กรเคลื่อนไหวที่ท็อปดาวจากข้างบนลงล่าง อาศัยเทคโนโลยี และอามิสสินจ้างเป็นตัวยึด ยืดเยื้อเพราะคนคาดประโยชน์ต่างๆ คาดประโยชน์ว่าจะได้สมัครผู้แทน คาดประโยชน์ว่าจะได้ตำแหน่งการเมือง คาดประโยชน์ว่าจะได้เงิน คาดประโยชน์ว่าจะได้เป็นใหญ่ คาดประโยชน์ว่าจะปลดหนี้ให้ เหล่านี้เป็นต้น ก็มารวมกัน ซึ่งเป็นการรวมที่ไม่ยั่งยืน แต่การรวมที่ไม่ยั่งยืนนี้อย่าประมาทว่าทำลายเมืองไทยไม่ได้ เพราะรัฐบาลไทยเป็นรัฐบาลอ่อนด้อยเหมือนกัน สังคมไทยก็เป็นสังคมที่เคลื่อนไหวไม่เป็นเหมือนกัน สังคมไทยก็หาจุดแข็งที่จะมาปราบความเคลื่อนไหวที่เป็นอนาธิปไตยแบบนี้ไม่ได้ แม้แต่รู้ว่าเขาเป็นอนาธิปไตย ทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งทั้งกฎหมายอาญา เรื่องการทำลายความสงบของบ้านเมือง ทำลายทรัพย์สินประเทศชาติ รวมทั้งละเมิดชีวิตทรัพย์สินและเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งความผิดต่อบุคคล ต่อรัฐ ต่อสมบัติแผ่นดิน พวกนี้ทำครบ แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะเอื้อมมือเข้ามาใช้กฎหมายอย่างแท้จริง มันเป็นทั้งกบฏภายในราชอาณาจักรกบฏนอกราชอาณาจักร ฝรั่งพวกบรรดาทูตประเทศประชาธิปไตยจริงๆ เขาถึงมองว่าแบบนี้ ถ้าเป็นประเทศเขาวันเดียวไปแล้ว
แต่ประเทศไทยอยู่ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ คนก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้เอาจริงหรือเปล่า แอบมีพวกนั้นอยู่เท่าไหร่ พวกนั้นที่เคยเป็นขี้ข้าเขาจะกลับมาเลียเท้านายเมื่อไหร่ อาจจะได้เงินเยอะๆ ได้เงินคืนมาก็แบ่งกัน เอาไปเท่านั้นแล้วมารวมกันใหม่ ก็เป็นไปได้ทั้งหลายทั้งปวง เป็นหน้าที่ของสื่อ นักวิชาการ และฝ่ายข่าว ฝ่ายความมั่นคงจะต้องหาคำตอบว่า อะไรจริงไม่จริง ซึ่งสังคมเราอ่อนด้อย ผมเคยทำนายไว้เมื่อตอนยึดอำนาจทักษิณ ซึ่งผมยังคิดว่าคำทำนายของผมที่ว่าระบอบทักษิณจะชนะ ยังมีทางเป็นไปได้สูง
**เพราะอะไรถึงเชื่อเช่นนั้น?
เพราะว่าการรวมของทักษิณ หรือระบอบทักษิณเขามีวัตถุประสงค์เดียว วัตถุประสงค์ที่จะล้างมลทินคือ นำมาสู่อำนาจแล้วก็จะเอาอามิสสินจ้างเป็นเครื่องล่อ เอาความใหญ่โตของตำแหน่ง เอาเงินที่จะมาถลุงกันอีกนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งบอกว่า คราวนี้ล่ะ 6 เดือนก็จะเลิกจนกันทั้งประเทศ คนที่อยากเชื่อก็เชื่อ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไอ้บ้านี่มันพูดยิ่งกว่าผีบุญอีก เป็นผู้วิเศษ ซึ่งไม่จริงไม่มีทางเป็นไปได้
**มองกลุ่มพวกคอมมิวนิสต์เก่าที่เข้าไปอยู่กับทักษิณยังไง?
เอากลุ่มคอมมิวนิสต์เก่าที่น่านับถือ ก็คือกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่เข้าป่าไปก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา พวกนี้เป็นคอมมิวนิสต์ที่น่านับถือ แล้วก็ต่อสู้ภายในร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีจุดอ่อนที่ขาดความเป็นชาตินิยมที่พอเพียง และคอมมิวนิสต์สากลก็ไม่สามัคคีกันระหว่างโซเวียตกับจีน แล้วก็ภาววิสัยของเมืองไทย มันไม่เอื้ออำนวยการจัดองค์กรของคอมมิวนิสต์สมัยนั้นก็ขยายไปสู่ชัยชนะไม่ได้ รวมทั้งการประกาศสงครามประชาชน เสียงปืนแตก ซึ่งก่อน 14 ตุลานาน
คอมมิวนิสต์ที่ไม่น่านับถือ คือคอมมิวนิสต์ขี้ขลาดที่แตกกระเจิงไปในป่าหลัง 14 ตุลา ซึ่งอาจจะผสมด้วยผู้ที่มีอุดมการณ์ ผสมผู้ที่มีความหวาดกลัว ผสมไปด้วยผู้ที่มีแนวความคิดกระเจิดกระเจิงหลายกระแส และก็อกหักผิดหวังออกมา ยกเว้นคนฉลาดที่เอาตัวรอด ที่เอาตัวรอดก็ยังอยู่ในเวลานี้ ยังมาเป็นผู้บัญชาการให้พวกเสื้อแดงหลายคน พวกนี้ขี้หมาทั้งนั้น พวกนี้ก็คอยฉกฉวยหาโอกาส ต่อสู้ทางวาทกรรม ต่อสู้ทางตอดเล็กตอดน้อยบ้าง ถามเขาสิคนไหนที่ผมไม่รู้จักบ้าง ผมไม่ตีราคาให้ดี เหมือนพวกที่เพ่นพ่านแถวนี้เท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่ว่าความประมาทคือหนทางแห่งตาย
คนพวกนี้ในขณะที่เขาตั้งใจจะไปหลอกใช้ทักษิณเพื่อเอาเงิน เขาก็มุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้สัมฤทธิผลตามนโยบายของเขา แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ยืนหยัดด้วยอุดมการณ์และหลักการเดี๋ยวก็แดง เดี๋ยวก็ชมพูอ่อน อะไรเหล่านี้เป็นต้น และเขาก็ไม่ได้ศึกษาแล้วเข้าใจวิธีการต่อสู้ของคอมมิวนิสต์อย่างแท้จริง ทฤษฏีคอมมิวนิสต์เขาก็ไม่รู้ เขารู้แต่คำเพราะๆ ที่เอามาพูดเท่านั้นเอง มันสอบตกหลายคนแล้ว จรัล (ดิษฐาอภิชัย)อย่างนี้สอบได้ซี มันก็ประดิษฐ์วาทกรรมไป แล้วไม่เข้าใจภาววิสัยและพลังของการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ซึ่งบริโภคนิยมกำลังจะล่มสลาย ก็เลยนึกว่าทุนนิยมกำลังจะล่มสลาย โดยไม่รู้ว่าจักรวรรดิคอมมิวนิสต์มันล่มสลายไปก่อนคือโซเวียต แล้วจีนก็กำลังจะกลายสภาพไปสู่ความเจริญอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่แบบสังคมคอมมิวนิสต์แบบเดิม พวกนี้ไม่มีวันเข้าใจ เมื่อไม่มีวันเข้าใจมันก็ไม่สามารถตั้งองค์กรได้ เขาอาจจะป่วนบ้านป่วนเมืองแล้วบ้านเมืองก็อาจจะพ่ายแพ้ เพราะความไม่เอาไหน การเมืองไทยการปฏิวัติ มันอยู่ที่ใครลักไก่แล้วเข้าไปถึงก่อน เพราะฉะนั้นก็ไม่แน่
แต่เขาก็ไปยึดทฤษฎีแบบคอมมิวนิสต์เวลานี้ คือ โฆษณาชวนเชื่อโกหกทุกวันจนตัวเองหลงเชื่อก็แล้วกัน และก็โฆษณาความชั่วร้ายของรัฐบาล ซึ่งล้วนแล้วแต่คุณพ่อเขาทำมา หรือสมัยคุณพ่อเขามีส่วนร่วมทั้งนั้น ไม่ว่าการบุกรุกที่ดิน ไม่ว่าการไปเอาที่บนเชียงใหม่ ไม่ว่าการที่ผู้แทนพรรคหางแดงมีที่ดินอยู่ทั้งลพบุรี กาญจนบุรี โคราช นับไม่ถ้วนรวมทั้งอัลไพน์นะ ในยุคที่คุณพ่อเขาอยู่ในอำนาจ และเขาก็ไปกราบไหว้เสวยสุขกับพวกนี้แหละ เวลานี้ก็มาแหม ! ยกย่อง มาต่อต้านความผิดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมันเกิดขึ้นเพราะว่าระบบมันพาไป มาเปิดโปงคุณเสือ (พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ )ที่ดิน100 กว่าวา อย่างนี้เป็นต้น โธ่! แต่คนที่คิดจะฮุบที่ดิน 38 ล้านไร่ที่อยู่กองทุนฟื้นฟู โดยไม่ยอมแก้ปัญหาสักที เพราะว่าจ้องจะเอาทรัพย์สินเป็นทุน จ้องจะเอาทุนต่างประเทศมาจ้างชาวนาทำงาน ไอ้พวกนี้กลับไม่พูดสักคำ พวกนี้หน้าไหว้หลังหลอกทั้งนั้น ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อจะเห็นความเลวของผู้ที่เป็นรัฐบาลและภายในรัฐบาลก็มีหลายคนที่จะต้องถูกธรรมะจัดสรร ว่าไปทำไมระบบของเรามันไม่ดี มันสร้างความมักง่ายและมักได้
คนพวกนี้โฆษณาชวนเชื่อให้คนเห็นความดีของตัวความชั่วของรัฐบาล ทั้งๆ ที่ความชั่วของตัวมากกว่ารัฐบาลหลาย10 เท่า และความชั่วที่ตกทอดอยู่สมัยนี้ก็ตกทอดมาจากรัฐบาล 5 ปีนั่นแหละ แต่เนื่องจากรัฐบาลนี้อ่อนแอ ปล่อยให้สถานีวิทยุชุมชนนับไม่ถ้วน ปล่อยให้มีการชุมนุมนับครั้งไม่ถ้วน ปล่อยให้ทีวีสีแดง ปล่อยให้ทำลายบ้านทำลายเมืองแล้วก็พูดด่าอยู่ทุกวัน ซึ่งอยู่เมืองนอกทำไม่ได้ ไม่ว่าประเทศประชาธิปไตยที่ไหน แต่รัฐบาลนี้ปล่อยทุกวัน ก็กำเริบเสิบสาน มีพลังขึ้นมาจนกระทั่งเป็นปัญหา เพราะฉะนั้น มันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากปฏิวัติ ถ้าปฏิวัติก็เข้าล็อกเขา เพราะว่าคนอย่างผมต้องคัดค้าน ผมก็เป็นแนวร่วมมุมกลับฝ่ายแดงที่ต้องการคล้ายๆ ปฏิรูปจริงๆ แต่ผมไม่คัดค้านการปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยนะ แต่ผมรู้ว่า พวกเสื้อแดงไม่มีวันปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยได้ ไอ้พวกนี้มันเป็นธนาอารยธิปไตย มันก็จะยุให้ทหารปฏิวัติ ทหารก็เป็นอย่างที่เรารู้ เมื่อทหารปฏิวัติแล้วก็แบบเดียวกันกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เดือนแรกที่คมช. มีอำนาจ ผมเขียนเตือนว่าจะแพ้ระบอบทักษิณ และระบอบกษัตริย์จะกระทบกระเทือน ซึ่งวิธีการทำงานของ คมช. เป็นแบบเดิมคือ วิ่งเต้น เล่นพวก ทำงานลวกๆ เละอย่างเป็นระบบ จบอย่างไทย ก็มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง
**การที่เขาคิดจะตั้งกองทัพประชาชนนี้เป็นอย่างไร?
จับเลยผิดกฎหมาย เป็นกบฏทั้งในและนอกราชอาณาจักร
**ทำไมเขาถึงคิดเช่นนี้?
พวกนี้มันคิดย่างนี้ คิดมานานแล้ว มันเหมือนฝ่ายรัฐบาลที่เราไปรับตำราต่างประเทศ เชื่อฝรั่งกลืนน้ำลายฝรั่ง มีแต่คำสวยๆ ทั้งนั้นในการพัฒนา แม้แต่ชื่อหมู่บ้านก็ฝรั่งทั้งนั้น ไอ้พวกนี้เหมือนกันพวกรัฐบาล สรรหาทฤษฎี ไอ้พวกนี้ก็สรรหาทฤษฎีเป็นวาทกรรม แล้วเมื่อไหร่หลงเชื่อวาทกรรมเคลื่อนไหวตามวาทกรรมของมันก็แย่ มันก็หวังว่า เมื่อรัฐบาลเผลอตัวรัฐประหารแล้ว ก็จะเอาตัวไม่รอดเหมือนกับทุกครั้ง ในที่สุดเขาก็จะมาโค่นได้ เมื่อเขาโค่นได้ก็เป็นบันได ขั้นที่3 คือโค่นแล้วเขาก็มาตั้งประชาธิปไตยที่หลอกล่อประชาชนไว้ ขาก็กลายเป็นประชาธิปไตยประชาชนรวมศูนย์ ประชาธิปไตยพรรคเดียว ประชาธิปไตยอะไรของเขาไปตามเรื่อง ซึ่งถ้าเขาใช้อำนาจรัฐเป็น ประชาชนคนไทยก็จะต้องตกอยู่ใต้เขาไปนานเท่านาน แต่ในขณะเดียวกันเขาลืมคิดว่าโลกมันเปลี่ยนไปนานแล้ว โลกมันเปลี่ยนไปในยุค 6 ตุลา เพราะว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ (ปชป.)อ่อนแอ ปล่อยให้วิทยุยานเกราะปลุกระดมประชาชนให้ฆ่านิสิตนักศึกษา รัฐบาลไม่กล้าปิด เพราะว่าพวกนิสิตนักศึกษาถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไอ้พวกนี้แสดงความจงรักภักดี นายกฯก็ไม่กล้าปิด ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด 6 ตุลา ถ้านายกฯ เข้มแข็งปิดสถานี จัดการพวกม็อบที่ผิดกฎหมาย ดูแลม็อบที่ถูกกฎหมาย ปัญหามันก็ไม่เกิด บ้านเมืองก็จะไม่ตกต่ำถอยหลังอยู่อย่างนี้
ในสมัย รสช.สื่อเป็นแนวร่วมมุมกลับของ รสช. เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ สื่อทีวี ล้วนแล้วแต่เผยแพร่ความเท็จเกี่ยวกับรัฐบาลทั้งนั้น ยกย่องสรรเสริญเลียกันไป ในขณะที่มีการเดินขบวนต่อสู้ ก็ใส่ร้ายพวกที่ต่อสู้เอาตำราเดิมมา เสร็จแล้วทำไมมันถึงพบจุดจบ แม้แต่คนที่ดังๆ มีชื่อเสียง มันพังเพราะเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ คือมือถือ มือถือเป็นผู้ที่จับโกหกของรัฐบาล แล้วทำให้ประชาชนเข้ามาช่วยพวกนั้นเหมือนที่พันธมิตรฯ มีคนเข้ามาช่วย แต่ว่าพันธมิตรฯ มันไม่ใช่สื่อมุมกลับแล้ว มันทำให้คนรักความเป็นธรรมไม่ต้องการเห็นคนถูกรังแก
คราวนี้สื่อทุกชนิดที่สร้างความเท็จเพื่อให้ทักษิณหมดมลทิน แล้วประชาชนส่วนใหญ่เชื่อ เพราะว่าเขาเข้าใจผูกลอจิก มันกินพื้นที่มากกว่าสื่อของรัฐ ยกตัวอย่างเขาพูดอย่างเดียว คนซื้อก็ไม่ผิดคนขายก็ไม่ผิด แต่คนเซ็นรับรองเมียผิด คนเขาไม่มีเวลาคิดหรอก เชื่อ! ยกตัวอย่างเขาจะตั้งกองทัพประชาชนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนเคยเห็นเขาเคลื่อนไหวมามากมายคนเชื่อ ถึงแม้พล.อ. ชวลิต (ยงใจยุทธ)จะปฏิเสธ แต่คนที่ได้ยินสมมติว่า 100 เปอร์เซ็นต์ จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ว่าไม่เห็นใครทำอะไร เชื่อมากขึ้น เมื่อออกมาปฏิเสธก็มีแต่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะได้ยินคำปฏิเสธ มันก็กลายเป็นเรื่องที่เป็นโทษต่อรัฐบาล
หรือว่าอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาขึ้นเวทีสีแดง บอกว่าเห็นผู้นำรัฐบาลฆ่ามันเลย ได้ไม้เอาไม้ ได้มีดเอามีด ได้เหล็กเอาเหล็ก ได้ปืนเอาปืน ได้ระเบิดเอาระเบิด ไม่ผิดอาจารย์ใหญ่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ศึกษามาทุกแง่มุมแล้วไม่ผิดไม่ต้องกลัว พูดบนเวทีอัดวิดีโอมาออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ประชาชนเหล่านี้ได้ยิน เพราะฉะนั้นมันจะไปฆ่าใครก็ไปฆ่า
เวลานี้ประกาศ ขู่ว่าจะไปฆ่าผู้พิพากษา ฆ่าคนนั้นฆ่าคนนี้ไม่ผิดแล้วตำรวจก็จะไปคุ้มครอง มันไม่ใช่ ทำตามกฎหมายนี้ต้องจับพวกห้าร้อยนี้เข้าคุก ทำผิดต้องติดคุกหัวโต เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ได้เปรียบอยู่แล้วที่มีอำนาจรัฐ ได้เปรียบอยู่แล้วที่นายกฯ อภิสิทธิ์ มีคุณสมบัติบางอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการเมืองไทยขาดมาก และก็ได้เปรียบที่เป็นสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อ คนก็เลยยังให้การสนับสนุน ถ้าเป็นประชาธิปไตยธรรมดานะ เหตุเกิดที่พัทยาที่ถล่มต้องออกแล้วอยู่ไม่ได้แล้ว เท่ากับทำลายเมืองไทยที่สร้างมา 900 ปี คนไทยที่มีความมั่นคงมีความเป็นมิตร ใครมาก็คุ้มครองได้ เจ้าต่างประเทศมาก็สนุกสนาน ไม่ถูกฆ่าเหมือนไปเที่ยวญวน เหมือนไปเที่ยวพม่า อันเป็นเหตุให้สองประเทศนั้นเสียอิสรภาพ แต่ของเราควบคุมได้ พระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์เป็นที่แน่นอนยิ่งนัก ไม่ทำให้ใครนอกคอก ฝ่าฝืนหรือทำลายแขกของประเทศที่มาเยือนได้ รัฐบาลทำลายจนไม่ต้องเปิดอภิปรายไว้วางใจกันหรอก แค่วันนั้นนายกฯ ก็ต้องออก แต่ว่าเรายืดหยุ่นให้ เพราะว่าเป็นรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษ แต่กลับไม่รู้ตัวว่าเป็นรัฐบาลในสถานการณ์พิเศษ เพราะว่าทั้งๆ ที่การเกิดมาก็รู้แล้วว่าเกิดมาในสถานการณ์ที่พิเศษ โดยวิธีที่พิเศษ ก็ปล่อยให้อนาธิปไตย เบ่งกล้ามข่มขู่ ใช้อำนาจทำลายกฎหมายอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง จนกระทั่งทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นบ้านเมืองเราก็ยังต้องเสี่ยงต่อความไม่มีขื่อไม่มีแปต่อไป