เด็ดดอกไม้รายทาง
โดย...อัญชะลี
ได้ยินจากปาก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล จากดูไบว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดีที่ดินรัชดา ฯ ได้ประกาศแต่งตั้งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น ผบ.ส.ส. ในกองทัพประชาชนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (กปช.) เพื่อเป็นข้อต่อรองทางการเมืองกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยหวังผลให้เกิดการยุบสภาฯ และ ใช้รัฐธรรมนูญปี 40 แทนปี 50 สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่
หรือพูดง่ายๆคือ เอาเงินของกรูคืนมา เอาคดีห่าเหวของพวกมรึงคืนไป แล้วต้องให้กรูกลับประเทศไทย เพราะกรูต้องกลับไปเล่นการเมืองกอบโกยและโค่นเจ้า!!!
แต่ถ้าไม่ยอม...กรูจะเผาบ้านเผาเมือง...เห็นพี่จิ๋วไหม? เดี่ยวมือหนึ่งของการทำลายล้างอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ใครสงสัยให้ย้อนไปดูผลงานในช่วง “พฤษภาทมิฬ”
อ่านจากข่าวแล้วขนลุกจนพองสยองเกล้า!!! เพราะนายทหารไทย 2 คนนี้ขู่ฟ่อดๆว่า หากการเจรจาไม่สัมฤทธิผล กองทัพกปช. ซึ่งมาจากกองกำลังผสมคนเสื้อแดงทั่วประเทศ และ อ้างว่ามีทหารพรานจำนวนมากด้วย จะถาโถมเข้ามานับแสนนับล้านพุ่งเข้าโจมตี “กรุงเทพฯ” ด้วยการล้อมทำเนียบ – รัฐสภา-และ หน่วยงานกองทัพต่างๆจนหมดสิ้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดสภาพ “จนตรอก” กลายเป็นรัฐล้มเหลวที่พาประเทศวุ่นวายไม่สามารถต้านทานกองทัพประชาชนคนเสื้อแดงได้ในที่สุด
สุดท้ายอดีตนายกฯรัฐมนตรีที่ถูกประชาชนจำนวนหนึ่งขับไล่เพราะทุจริตคอรัปชั่นก็จะ “คืนเมือง” ในฐานะวีระบุรุษประชาธิปไตย ไม่ใช่นักโทษชายหนีคดีอย่างที่เราๆท่านๆเรียกขานมาตลอดสองปีนี้
ด้วยท่าทีปลิ้นปล้อนของ “พัลลภ” และ “ชวลิต” ผสมโรงกับสุ้มเสียงกักขฬะของเสธ.แดง และ อาการหิวโหยจนเก็บไม่อยู่ของสุพร-อริสมันต์ และ กลุ่มสามเกลอหัวขวด ทำให้พอมองออกว่า ทักษิณคงถูกหลอกแดกอีกเป็นแน่แท้ คนพวกนี้กล้าทำชั่ว กล้าตระบัดสัตย์ แต่ไม่มีวันที่จะกล้าเอาชีวิตทั้งชีวิตเข้าแลกเพื่อ “ทักษิณ” คนเดียว!!!
ดูง่ายๆ...เมียบางคนเปิดร้านอาหารที่อังกฤษ 2 – 3 สาขาแล้ว ลูกบางคนเรียนนอกสุขสบาย บางคนกำเงินเกือบ 50ล้านซื้อดินย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯ ขณะที่เมียบางคนเป็นเจ้าของบ้านใหญ่โตในหมู่บ้านหรูหรา บางรายเป็นเจ้าของคอนโดริมทะเล - ที่ดินต่างจังหวัด เมียแกนนำหลายคนโปะเพชร นิลจินดามากมาย แทบทุกคนมีเงินจับจ่ายใช้สอยกันสนุกมืออย่างชนิดที่ไม่เคยมี และ ไม่เคย เป็นมาก่อน
ทักษิณ เศรษฐีขี้เหนียวกล้าจ่ายวันนี้ - ขนาดนี้ มีเหตุผลง่ายๆ เพราะกลัวติดคุก และเสียดายเงิน 76 000 ล้านบาท แถมคั่งแค้นอยากกลับมาคิดบัญชีกับ “ป” และ “สถาบัน”ที่เขาเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร
ดังนั้น “คนเหลือเดนพวกนี้” จึงเสมือนมือ-ไม้ เป็นคู่คิด – เพื่อนคุย เป็นขวัญ –กำลังใจ และ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ชีวิตอันมืดมิด...เท่าไรต้องให้ แม้หมดตัวก็ยอม
ร้อนถึง “พานทองแท้” แล้ว!!!
เพราะดูจากทวิตเตอร์ล่าสุด ลูกชายคนโตของทักษิณ – พจมาน แม้จะไปไม่ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ แต่เขาก็ยังมีหัวใจของความเป็น “คน” และ “ลูก” ถ้าไม่เช่นนั้นคงไม่ทวิตข้อความไปบอกกับผู้เป็นพ่อที่นั่งก้นร้อนและกระเป๋าแฟ่บที่ดูไบว่า “พ่อครับหยุดเถอะครับ พอทีเถอะครับ อยู่เฉยๆบ้างจะได้ไหม?”
ขณะเดียวกันมีเรื่องกล่าวขานจาก “ร้านเพชร” ว่า เมียหย่าจอมปลอมของหัวหน้ากองทัพผีบ้า ซึ่งเวลานี้อาศัยอยู่กับพี่ชายคนที่เป็นตำรวจ ย่านพหลโยธิน กำลังขนย้ายครอบครัวออกไปอยู่ต่างประเทศสักระยะหนึ่ง ด้วยเชื่อว่า ก่อนผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันที่ 26 กพ. นี้ อาจมีเรื่องไม่ดี ไม่งาม เกิดขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ด้วยน้ำมือผัวตัวเป็นแน่แท้
ข่าวโคมลอยที่ขยันปล่อยกันออกมาว่า “แม้วจะได้ตังค์ทอน” เป็นคำตอบสุดท้ายของการเจรจา และ การตัดสินใจ “เผา” เพื่อสร้างสงครามแดง!!!
นับว่าเป็นข่าวสถุลและสร้างรอยแปดเปื้อนให้กับวงการตุลาการมากที่สุดในรอบหลายปี พอๆกับการกระจายเสียงทางสถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ที่ประกาศปาวๆให้ไล่ฆ่าตุลาการในคดียึดทรัพย์ โดยแจกรูปให้กองทัพเสื้อแดงตามไล่ล่า ราวกับบ้านนี้เมืองนี้ไร้ขื่อแป
ความจริงอยู่ตรงนี้...อยู่ตรงที่ผลการเจรจาต่อรองของทักษิณเต็มไปด้วยความโลภโมโทสัน ชนิดที่ใครหน้าไหนก็เอือมระอา เมื่อทักษิณประกาศผ่าน “คนกลาง” ที่นั่งหน้าแป้นแร้นในรัฐบาลชุดนี้ว่า อย่าได้มาแตะกองเงินมหึมาของเขา และ เรื่องราวทั้งหลายต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่ก่อนเหตุการณ์ 19 กันยายน...โดยการเจรจานี้ “คนกลาง”ได้พยายาม “แอบอ้าง” ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่ง เพื่อให้วงการตุลาการเกรงอกเกรงใจ
ทว่าการแอบอ้างคราวนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อทุกฝ่ายจับได้ว่าทักษิณ และ คนกลางพากันอ้าง “เยอรมัน” เหมือนเมื่อคราวจะยกก้น “จุมพล” เป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างไรอย่างนั้นเชียว
เมื่อการอ้างฟ้า อ้างดิน ไม่เป็นผล...จึงเป็นที่มาของการขมวดปม...นั่นละ “การประชุมลับสุดยอดที่บรูไน”จึงเกิดขึ้น และตามมาด้วย “กองทัพผีบ้า” กับแผนชั่ว “เผาไทย” ให้แม้วคืนเมือง
การประชุมลับสุดยอดที่บรูไนระหว่าง น้องยิ่งเลิฟ กับ โซ่ข้อกลาง สมองเสื่อม ที่มีมือขวาคนเลี้ยงไก่จัดแจงแต่งตัวนักวิชาการเจ้าของวาทะ คนเมืองตั้งรัฐบาลแต่คนชนบทล้มรัฐบาล ประสานกับมือปาอึ และ คลุกเคล้ากับกองทัพแดงที่เที่ยวร่อนด่าทหารที่โน่นทีนี่ คงเพียงพอที่จะทำให้มือทวิตเตอร์ แห่งดูไบย่ามใจได้กระมังว่า เอาประเทศไทยได้อยู่หมัดแล้ว เป็นผลให้หมอดูเดากันเลอะเทอะว่า ไม่เกิน 26 กพ.นี้เป็นได้เห็น “สงครามประชาชน” ดั่งเจตนารมณ์ของน้องเพ็ญ พนมเปญ
คิดได้แค่นี้...ถือว่าดูถูกเจ้าของฉายา นักฆ่าลุ่มเจ้าพระยามากจนเกินไป ไม่ลองคิดมุมกลับดูบ้างเล่าว่า ถ้าหากกรุงเทพฯวุ่นวายจนรั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ด้วยน้ำมือแดงแล้ว อาจมีการจัดตั้ง “คณะกรรมการจัดระเบียบแห่งชาติ”ก็ได้ใครจะรู้
อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในสังคมไทย ใครที่พูดปาวๆว่า “ไม่ทำๆ” ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มี หรือ คนอื่นๆจะไม่กล้าทำ
ที่สำคัญคือ “การปฏิวัติ” ไม่ได้มีสูตรเดียว วิธีเดียวเสียที่ไหน!!! ในสังคม Avatar เราอาจเห็นการปฏิวัติจำแลงก็เป็นได้...ใครจะรู้...รอดู...อีกไม่นานเกินรอ