xs
xsm
sm
md
lg

77 ปีที่รอคอย ?

เผยแพร่:   โดย: คำนูณ สิทธิสมาน

เป็นเรื่องตามคาดกับการออกมาให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เจ้าของแนวคิด “รัฐบาลแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพประชาชนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (กปช.) แต่ในเมื่อเป็นบ้านนี้เมืองนี้จึงเป็นแค่เรื่องไม่ใหญ่โตนักที่พอผู้พูดและผู้ถูกพาดพิงออกมาให้สัมภาษณ์ “ภาคเสธ” ว่า พูดผิด ใช้คำผิด เรื่องก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถ้าเป็นบ้านอื่นเมืองอื่น อย่างน้อย ๆ ผู้ทำหน้าที่รักษากฎหมายและรักษาความมั่นคงก็อาจจะต้องเชิญตัวผู้พูดและผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำบันทึกไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อน เพื่อพิจารณาว่าจะตั้งข้อหาต่อไปหรือไม่

อย่าลืมว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ตรงมาจากดูไบ ก่อนกลับมาภาคเสธที่เมืองไทย โดยอ้างว่าเป็นบัญชาของอดีตนายกรัฐมนตรีหนีคำพิพากษาศาลฎีกา

โดยอดีตนายกรัฐมนตรีคนนั้นถูกกล่าวหาในคดีความมั่นคงมาแล้วจากเหตุการณ์เดือนเมษายน 2552

ประมวลกฎหมายอาญาภาค 2 ลักษณะ 1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หมวด 2 มาตรา 113 – 117 ไม่ใช่ว่าพูดผิดใช้คำผิดแล้วจะไม่มีความผิดเสมอไป !

และการอ้างว่าพูดผิดใช้คำผิดจะรับฟังได้หรือไม่เพียงใด ต้องดูพฤติกรรมแวดล้อมประกอบอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน ที่มีเบาะแสไม่น้อยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงนี้ ทั้งที่ปรากฎเป็นข่าว และไม่ปรากฎเป็นข่าว ประเภทหลังก็อย่างที่เจ้าของนามปากกา “ประชา บูรพาวิถี” เขียนเล่าไว้ในคอลัมน์ “แกะรอยการเมือง” ของเขาในนสพ.กรุงเทพธุรกิจฉบับวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมาในหัวเรื่อง“กองทัพเถื่อน” คำ ๆ นี้ดูเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ก็ใช้ในการให้สัมภาษณ์เช่นกัน

ในเรื่อง “กองทัพเถื่อน” ผู้เขียนได้นำเสนอภาพถ่ายหมู่ที่ดูไบของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี, พล.ต.ขัตติยะ สวสดิผล, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ ที่เผยแพร่อยู่ในเว็บไซด์คนเสื้อแดงไว้ด้วย และได้บอกนัยสำคัญไว้ประการหนึ่งว่า...

เทรนด์ที่มาแรงในพื้นที่อีสานอีกอย่างหนึ่งคือ การได้สวมเครื่องแบบ "นักรบดำ" !

คำว่า “นักรบดำ” เป็นสมญานามของอาสาสมัครทหารพราน

ผู้เขียนเล่าว่ามีนายทหารยศพลเอกตท. 6 ใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธออกไปสำรวจทหารพรานปลดประจำการในอีสานว่า มีใครบ้าง อยู่ที่ไหน อดีตทหารพรานเหล่านี้พื้นเพเป็นชาวนา เมื่อถอดเครื่องแบบก็กลับไปทำไร่ทำนาตามหมู่บ้าน และมีความชื่นชอบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเหมือนชาวบ้านทั่วไป จึงไม่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมขบวนการโค่นอำมาตย์ ที่สำคัญคืออดีตทหารพรานเหล่านี้ทราบดีว่าผู้ก่อตั้งหน่วยอาสาสมัครทหารพรานก็คือพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธผู้ได้รับสมญาว่า "บิดานักรบดำ" ถือเป็นผู้มีบุญคุณต่อพวกเขา เมื่อมีคนไปเอ่ยอ้างว่านี่คือภารกิจของผู้มีบุญคุณต่อเขา และเป็นยุทธการสำคัญในการพาอดีตนายรัฐมนตรีที่พวกเขาเชื่อว่าทำเพื่อคนจนกลับบ้านกลับมาแจกเงินอีก จึงไม่ลังเลที่จะเข้าร่วม โดยไม่มีใครยืนยันได้ว่าผู้ถูกอ้างชื่อเห็นดีด้วยหรือไม่

ผู้เขียนยังได้เล่าถึงการเคลื่อนไหวของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลในพื้นที่อีสานโดยอาศัยเพื่อนตท. 11 ยศพลเอกมีชื่ออักษรย่อส.เสือที่เป็นผู้กว้างขวางในหมู่ทหารพัฒนาคอยเปิดทางให้

ล่าสุด ดูเหมือนพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลเวลาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้จะใช้คำว่า “กองทัพแดง” อย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งโดยนัยไม่ได้สื่อความหมายเพียงการเคลื่อนไหวของมวลชนคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่สื่อไปถึงกองกำลังปฏิวัติของชาวลัทธิมาร์กซ์-เลนินและความคิดเหมาเจ๋อตงที่ถือว่ากองทัพแดงคือ 1 ในดวงแก้ว 3 ดวงของการปฏิวัติ คือ พรรค, แนวร่วม และกองกำลังปฏิวัติ

แม้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเองในวันที่ออกมาปฏิเสธข่าว ก็ยังพูดถึงแนวคิดการต่อสู้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริงที่ รอคอยมา 77 ปี

77 ปีนี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเริ่มนับ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 !

แน่นอน ผมไม่เชื่อว่าพล.อ.ฃวลิต ยงใจยุทธคิดเหมือนคนเสื้อแดงกลุ่มอดีตซ้ายเก่าที่ฝังใจและเจ็บปวดกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และผมเชื่อว่าท่านจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างยิ่ง แต่จุดร่วมความเชื่อที่ตรงกันคือบ้านเมืองนี้ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงมายาวนานแล้วตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2475

"การเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากได้มา 77 ปีแล้ว คือการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ประชาชนมีอำนาจที่แท้จริง เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง นั่นคือสิ่งที่เป็นยอดปรารถนาของทุกคน ไม่ว่าจะเสื้อแดง เสื้อเหลือง ...กับเสื้อแดงวันนี้ก็เป็นมิตรผู้รู้ใจ"

(พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ / ไทยโพสต์, 5 กุมภาพันธ์ 2553

การหันมาใช้วาทกรรมในทำนองสานต่อเจตนารมณ์ 24 มิถุนายน 2475 หรือการเห็นว่าเสื้อแดงเป็นมิตรที่รู้ใจ ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธนี้ เป็นเรื่องอันตราย เพราะไม่รู้ว่าในที่สุดใครจะกุมการนำในขบวน ระหว่างตัวท่านเองผู้ไม่เคยเห็นด้วยกับคณะราษฎรแต่จะขอสานต่อพระราชปณิธานพระราชทานระบอบประชาธิปไตยของในหลวงรัชกาลที่ 7 หรือกลุ่มอดีตซ้ายเก่าบวกซ้ายใหม่ที่เห็นด้วยกับคณะราษฎรแต่ไม่เห็นด้วยที่คณะราษฎรทำน้อยไปจึงจะขอสานต่อปณิธานทำให้ไกลกว่าที่คณะราษฎรทำเมื่อวันนั้น

นี่เป็นเพียงตัวอย่าง “ร่องรอย” ที่ทำให้เห็นว่าวิกฤตขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ ที่ไม่จบลงง่าย ๆ

และแม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ผู้คนในขบวนนี้ที่มีหลากหลาย บางส่วนคิดข้ามช็อตไปไกลเกินกว่าอนาคตของอดีตนายกฯคนนี้แล้ว พวกเขาในส่วนนี้บางคนบางกลุ่มต้องการให้คำพิพากษาวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นโทษแก่อดีตนายกฯเสียด้วยซ้ำ เพื่อจะได้เป็นปัจจัยนำมาเป็นเชื้อไฟเติมให้ขบวนปฏิวัติเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งปริมาณและคุณภาพ

เราต้องยอมรับว่า 4 ปีมานี้ ขบวนคนเสื้อแดงเติบโตขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ

โชคยังดีที่ในท่ามกลางการเติบโตนี้ก็มีความขัดแย้งภายในหลากหลาย และมีนักเคลื่อนไหวประเภทคุมไม่ได้ชอบพูดจาชอบปฏิบัติการให้เสียงานใหญ่อยู่เสมอ ๆ พูดง่าย ๆ ว่าชอบทำ “ปืนลั่น” อยู่เป็นประจำ เดี๋ยวจะไปศิริราชบ้าง เดี๋ยวจะไปสุวรรณภูมิบ้าง กรณีล่าสุดกองทัพประชาชนแห่งชาติฯนี่ก็ครือกัน ล้วนเป็นการทำลายความชอบธรรมและลดผู้สนับสนุนของตัวเองทั้งนั้น

แต่โชคดีที่ว่านี้ก็ไม่มากเท่าไร เพราะรัฐบาลปัจจุบันก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ไหนพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมจะขัดแย้งกัน ไหนจะนายกรัฐมนตรีกับรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงก็คิดไม่เหมือนกัน ไหนจะภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็รวนเรไปด้วย ดีแต่ที่ผู้อาวุโสอย่างอดีตนายกฯชวน หลีกภัยกับอดีตรองนายกฯบัญญัติ บรรทัดฐานยังจับมือกันหนุนนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แย่ก็คือมีการโกงกินกันอย่างมโหฬาร แม้ตำแหน่งแห่งที่ทางราชการก็ถูกเปิดโปงว่าซื้อขายกัน แถมมีระบบบาร์เตอร์เทรดแลกตำแหน่งต่างกระทรวงกันระหว่างต่างพรรคอีก

ดีใจนะครับที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 แม้จะไม่รู้ผล และยังไม่เห็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยุทธวิธีที่เปลี่ยนไปจากเดิม แต่ก็ยังดีที่ท่านหยิบหมวก “ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ” และ “ผอ.รมน.” ขึ้นมาสวมใส่แทนหมวก “นักการเมืองอาชีพ” ใบเดิมที่คุ้นชินบ้าง

แม้การแก้ปัญหาวิกฤตชาติจะยังไม่ทันใจ ไม่ถูกใจ แต่นาทีนี้ผมขอเลือกที่ให้กำลังใจนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันนี้ -- ขอให้ท่านคิดอย่าง “ประธาน สมช.” และ “ผอ.รมน.” เป็นหลักครับ !
กำลังโหลดความคิดเห็น