ASTVผู้จัดการรายวัน -ไทยเตรียมจัดส่งข้าวช่วยเหลือเฮติก.พ.นี้อีก 4,000 ตัน “พรทิวา” ยันล็อคสเปคเจ้าเดิมปรับปรุง-บรรจุถุง ส่วนอีก 1.6 หมื่นตัน เปลี่ยนจากข้าว 5% เป็นข้าว 25% อ้างคนเฮตินิยมบริโภค ส่วนข้าวฟิลิปปินส์ ยันล่าช้าไม่ใช่ความผิดพาณิชย์ โยนทีทีอาร์ เจรจาไม่ระบุเงื่อนไขชนิดข้าว ทำจัดส่งไม่ได้
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดส่งข้าวสารส่วนที่เหลืออีก 19,900 ตัน ไปช่วยเหลือประชาชนชาวเฮติ หลังการจัดส่งล็อตแรก 100 ตันไปถึงเฮติแล้วว่า ภายในเดือนก.พ.นี้ จะจัดส่งไปให้อีก 4,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ซึ่งวิธีการปรับปรุงคุณภาพข้าวล็อตนี้ ยังคงเป็นวิธีการเดิมคือ จัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โดยจะให้คณะทำงาน ที่มีนายนภดล สระวาสี รักษาการที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นประธานเข้าไปดูแล เบื้องต้นอาจจำเป็นต้องใช้บริษัท โรงสีเอกไรซ์ ที่ได้รับปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุง เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่เหลืออีก 16,000 ตัน จะเปลี่ยนจากข้าวขาว 5% เป็นข้าว 25% เพราะเป็นชนิดข้าวที่คนเฮตินิยมรับประทาน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบในเรื่องนี้แล้ว และจะจัดส่งให้ครบทั้งหมดภายในเดือนเม.ย.นี้
“เรื่องเปลี่ยนชนิดข้าว 5% มาเป็น 25% ได้คุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยรัฐมนตรีบางท่านได้มาเสนอให้ส่งข้าว 25% ไปให้ เพราะในสต๊อกของรัฐบาลก็มีอยู่มาก นายกรัฐมนตรีก็รับทราบ ไม่อยากให้มองเป็นประเด็นการเมือง ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ยืนยันว่าโปร่งใส และตรวจสอบได้” นางพรทิวากล่าว
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีติงกระทรวงพาณิชย์ในที่ประชุมครม.ว่าจัดส่งข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุกิสน่า ที่ประเทศฟิลิปปินส์ล่าช้าว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้จัดส่งล็อตแรก 100 ตันไปฟิลิปปินส์แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 520 ตัน ทางผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) ไปคุยกับฟิลิปปินส์ว่า จะเป็นการช่วยเหลือเพื่อสำรองข้าวตามโครงการสำรองข้าวเอเชียตะวันออก (อาเซียน+จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) แต่ไม่มีรายละเอียดจะเป็นข้าวชนิดใด จัดส่งเมือไร จึงเกิดความล่าช้าขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ไม่ใช่ความผิดของกระทรวงพาณิชย์ เพราะไม่ใช่หน่วยงานต้นเรื่อง แต่เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทีทีอาร์
“ข้าว 100 ตันแรก จัดส่งให้กับผู้ประสบภัยพายุกิสน่าแล้ว ส่วนอีก 520 ตัน ที่ล่าช้า เพราะติดกระบวนการปฏิบัติมากกว่า เพราะคนเสนอจัดส่งข้าวไม่ยอมใส่เงื่อนไขว่าต้องการอย่างไร ทำให้กรมการค้าต่างประเทศต้องทำหนังสือทบทวนคำสั่งใหม่ไปยังนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ม.ค. และนายกฯเพิ่งอนุมัติมาเมื่อ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดส่ง” นายยรรยงกล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดส่งข้าวสารส่วนที่เหลืออีก 19,900 ตัน ไปช่วยเหลือประชาชนชาวเฮติ หลังการจัดส่งล็อตแรก 100 ตันไปถึงเฮติแล้วว่า ภายในเดือนก.พ.นี้ จะจัดส่งไปให้อีก 4,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ซึ่งวิธีการปรับปรุงคุณภาพข้าวล็อตนี้ ยังคงเป็นวิธีการเดิมคือ จัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โดยจะให้คณะทำงาน ที่มีนายนภดล สระวาสี รักษาการที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นประธานเข้าไปดูแล เบื้องต้นอาจจำเป็นต้องใช้บริษัท โรงสีเอกไรซ์ ที่ได้รับปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุง เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่เหลืออีก 16,000 ตัน จะเปลี่ยนจากข้าวขาว 5% เป็นข้าว 25% เพราะเป็นชนิดข้าวที่คนเฮตินิยมรับประทาน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบในเรื่องนี้แล้ว และจะจัดส่งให้ครบทั้งหมดภายในเดือนเม.ย.นี้
“เรื่องเปลี่ยนชนิดข้าว 5% มาเป็น 25% ได้คุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยรัฐมนตรีบางท่านได้มาเสนอให้ส่งข้าว 25% ไปให้ เพราะในสต๊อกของรัฐบาลก็มีอยู่มาก นายกรัฐมนตรีก็รับทราบ ไม่อยากให้มองเป็นประเด็นการเมือง ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ยืนยันว่าโปร่งใส และตรวจสอบได้” นางพรทิวากล่าว
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีติงกระทรวงพาณิชย์ในที่ประชุมครม.ว่าจัดส่งข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุกิสน่า ที่ประเทศฟิลิปปินส์ล่าช้าว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้จัดส่งล็อตแรก 100 ตันไปฟิลิปปินส์แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 520 ตัน ทางผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) ไปคุยกับฟิลิปปินส์ว่า จะเป็นการช่วยเหลือเพื่อสำรองข้าวตามโครงการสำรองข้าวเอเชียตะวันออก (อาเซียน+จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) แต่ไม่มีรายละเอียดจะเป็นข้าวชนิดใด จัดส่งเมือไร จึงเกิดความล่าช้าขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ไม่ใช่ความผิดของกระทรวงพาณิชย์ เพราะไม่ใช่หน่วยงานต้นเรื่อง แต่เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทีทีอาร์
“ข้าว 100 ตันแรก จัดส่งให้กับผู้ประสบภัยพายุกิสน่าแล้ว ส่วนอีก 520 ตัน ที่ล่าช้า เพราะติดกระบวนการปฏิบัติมากกว่า เพราะคนเสนอจัดส่งข้าวไม่ยอมใส่เงื่อนไขว่าต้องการอย่างไร ทำให้กรมการค้าต่างประเทศต้องทำหนังสือทบทวนคำสั่งใหม่ไปยังนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ม.ค. และนายกฯเพิ่งอนุมัติมาเมื่อ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดส่ง” นายยรรยงกล่าว