หึ่งซ้ำซาก "เจ๊วา" พล่านข่าวล็อกสเปกข้าวส่งช่วยภัยพิบัติที่เฮติ แจงยิบใช้วิธีพิเศษจัดซื้อ เพราะต้องเร่งบรรจุถุงให้แล้วเสร็จก่อนส่งมอบ 1 ก.พ.นี้ ทำให้ต้องพิมพ์ถุงล่วงหน้า ยันได้กำชับสำนักปลัดพาณิชย์ไปแล้วให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวในการจัดซื้อข้าวสารสำหรับส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศเฮติ ซึ่งระบุว่า มีการล็อกสเปกให้บางบริษัทไว้แล้ว อย่างน้อย 2 ราย เพราะบริษัทดังกล่าวได้พิมพ์ข้อความว่า “ข้าวสารมอบจากรัฐบาลไทยถึงประชาชนชาวเฮติ” บนถุงบรรจุข้าวสารไว้ล่วงหน้าแล้ว ตนเองของชี้แจงว่า การดำเนินการเรื่องนี้ ได้ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างกรณีพิเศษ และจะต้องบรรจุถุงให้แล้วเสร็จก่อนส่งมอบในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ที่จะถึงนี้ ดังนั้น จึงถูกมองว่า เป็นการเอื้อประโยชน์หรือล็อกสเปก ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม โดยข้อเท็จจริง เรื่องนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ และทางสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นคนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด โดยทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) และกรมการค้าต่างประเทศ เป็นฝ่ายปฏิบัติการที่จะนำข้าวขาว 5% ปี 2551/2552 จำนวน 100 ตัน เพื่อมาบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม โดยใช้งบประมาณกลางของรัฐบาล ในการบรรจุถุงและปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนส่งออก จำนวน 280,000 บาท มาดำเนินการบรรจุถุง ซึ่งอยู่ในกรอบของราคากลาง และยืนยันไม่มีการล็อกสเปก ตามที่เป็นข่าว โดยได้สั่งการให้สำนักงานปลัดดำเนินการเรื่องนี้ให้โปร่งใสต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังสั่งให้มีการตรวจสอบเชิงลึก ในเรื่องการสับเปลี่ยนโควตาน้ำตาลทราย โดยเฉพาะโควตาการส่งออก เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายในต่างประเทศมีราคาสูงกว่า ซึ่งคาดว่า จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
สำหรับเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินชดเชยโครงการการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปี 2552/ 2553 ในระหว่างวันที่ 1 – 15 กุมภาพันธ์ 2553 นี้ หากเป็นโครงการข้าวนาปี ในรอบที่ 1 จะมีการจ่ายชดเชยเฉพาะข้าวเจ้า 5% ในอัตราตันละ 7 บาท และข้าวหอมมะลิ ในอัตราตันละ 385 บาท ส่วนข้าวชนิดอื่นมีราคากลางสูงกว่าราคาประกันจึงไม่มีการจ่ายชดเชย ส่วนโครงการข้าวนาปรัง หรือการจ่ายชดเชยในรอบที่ 2 จะไม่มีการจ่ายค่าชดเชยข้าวทุกชนิด