xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ค้าเสรีอาเซียน-จีนแม้ทำมูลค่าเพิ่ม สินค้าไทยตกเป็นเบี้ยล่าง-ถูกรีดภาษีระดับมณฑล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตั้งแต่มีการเปิดการค้าเสรีไทย-จีน สินค้าจีนผ่านเข้ามาที่ท่าเรือเชียงแสนจำนวนมาก และเชื่อว่า หลังเปิดการค้าเสรีอาเซียน-จีน สินค้าจากจีนจะยิ่งทะลักผ่านท่าเรือเพิ่มขึ้น
เชียงราย – คาดเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ทำการค้าผ่านน้ำโขงด้านชายแดนเชียงรายคึกคักขึ้นแน่ แต่สินค้าไทยยังต้องตกเป็นเบี้ยล่าง ระบุแม้จีนลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% ผู้ค้าไทยยังต้องเจอภาษีในแต่ละมณฑลอีกเฉลี่ย 13-17% แถมขนข้ามมณฑลต้องจ่ายเพิ่มอีก

นายวินัย ฉินทองประเสริฐ นายด่านศุลกากร อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เดิมตั้งแต่ปี 2546 การค้าไทย-จีน มีการใช้ข้อตกลงการค้าเสรีปลอดภาษีเหลือ 0% หรือเอฟทีเอในสินค้าประเภทพืชผักและผลไม้ พิกัด 07-08 ขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ กระทั่งปัจจุบันมีข้อตกลงอาเซียน-จีน เข้ามาทับซ้อนอีกจึงทำให้สินค้าเกือบทุกรายการอยู่ในบัญชีการค้าเสรีดังกล่าวหมด แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็น 0% ทั้งหมด โดยจะค่อยๆ ลดลงในบางรายการ ส่วนในรายการที่มีอัตราภาษีน้อยอยู่แล้วก็จะกลายเป็น 0% เหมือนสินค้าผักผลไม้ในพิกัด 07-08

นายวินัย กล่าวว่า สำหรับสินค้าที่จะพบกับการเปลี่ยนดังกล่าวมีอยู่หลายรายการและอยู่ในบัญชีการนำเข้าและส่งออกที่มีปริมาณมาก เช่น ดอกไม้เพลิงจากจีนเดิมมีอัตราภาษีนำเข้า 10% ก็จะเหลือ 5% เมล็ดทานตะวันจากจีนเดิมมีอัตราภาษีนำเข้า 5% ก็จะเหลือ 0% เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงอื่นที่มีผลเช่นกันคือประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่อนุญาตให้สินค้ามันฝรั่งเป็นสินค้านำเข้าในโควตาซึ่งก็เป็นผลทำให้การนำเข้าเหลืออัตราภาษี 0% เช่นกัน เป็นต้น กระนั้นในอนาคตอีกไม่เกิน 6 ปีข้างหน้าสินค้าทุกชนิดที่มีการนำเข้าส่งออกผ่านไทย-จีน ก็จะเหลือ 0% ทั้งหมด ซึ่งก็จะทำให้การค้ามีความคึกคักมากขึ้นเพราะอัตราภาษีลดลง

เขาบอกว่า งานของศุลกากรคงจะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกเป็นหลักเพราะต่อไปการเก็บภาษีสินค้าขาเข้าก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือ 0% ส่วนการตรวจสินค้าที่เคยตรวจสุ่มตัวอย่าง 20-30% ก็จะเหลือเพียง 10% เพราะในอนาคตก็ไม่รู้จะตรวจค้นไปทำไมอีกเพราะไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกและไม่ทำให้ล่าช้าก็ต้องลดขั้นตอนการปฏิบัติลงไปอีก

นายวินัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามกรณีที่สินค้าจีนทะลักเข้าสู่ประเทศไทยในอัตราภาษี 0% แล้วแต่ที่ไทยส่งไปยังประเทศจีนยังต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมณฑลต่างๆ อีกนั้นคงไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศอื่นซึ่งมีระบบกลไกไว้รองรับข้อตกลงระหว่างประเทศดังกล่าวอยู่แล้ว โดยเปิดให้รัฐบาลกลางไปทำสัญญาตามข้อตกลงต่างๆ แต่รัฐย่อย เช่น มณฑล แขวง รัฐ ฯลฯ ไม่ปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ ยังมีการจัดเก็บอยู่แต่สำหรับประเทศไทยเป็นรัฐเดี่ยว ยึดถือปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ

ด้านนายประสาธน์ กิตตินา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และที่ปรึกษาชมรมพ่อค้าชายแดน อ.เชียงแสน กล่าวว่า ตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ดังกล่าวได้ทำให้สินค้ากว่า 90% ที่นำเข้าและส่งออกผ่านท่าเรือในแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน อยู่ในพิกัดที่ต้องลดภาษี ซึ่งคงจะทำให้การนำเข้า ส่งออก มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มมากขึ้น แต่เชื่อว่าประเทศไทยคงจะได้เปรียบดุลการค้าเหมือนเดิม เพราะสินค้าไทยยังมีมูลค่าสูง ส่วนสินค้าจีนแม้จะนำเข้าในปริมาณที่มากแต่มีราคาถูกกว่ามากยิ่งลดภาษี ยิ่งทำให้มีราคาถูกกว่าเดิมด้วย

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยก็ยังต้องเจอกับปัญหาเดิมๆ คือ แม้จะมีข้อตกลงลดภาษีหรือหลายชนิดลดเหลือ 0% แต่การจัดเก็บภาษีตามมณฑลย่อยของจีนยังอยู่ที่ 13-17% รวมทั้งหากจะขนสินค้าผ่านจากมณฑลหนึ่งไปยังอีกมณฑลหนึ่งก็ยังถูกจัดเก็บภาษีท้องถิ่นเพิ่มเติมอีกด้วย

นายประสาธน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ปัจจุบันแม่น้ำโขงเริ่มแห้งลงช่วงต้นปีโดยปีนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าทุกปี ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้ามีความยากลำบากมากขึ้นเพราะเรือสินค้าต้องบรรทุกสินค้าเต็มลำทั้งขาไปและกลับเพื่อความคุ้มทุน ทำให้เรือสินค้าจีนจำนวนมากต่างจอดเรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน นานกว่า 2-3 วันแล้ว

เรือเหล่านี้กำลังรอบรรทุกสินค้าให้เต็มลำโดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงอาเซียน-จีน และเอฟทีเอไทย-จีน ดังกล่าว จากนั้นจะรอการเปิดน้ำจากเขื่อนซึ่งประเทศจีนได้ก่อสร้างเขื่อนที่เมืองจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน แล้วเสร็จไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ผ่านมา เพื่อให้มีกระแสน้ำเพียงพอต่อการแล่นเรือขึ้นไปส่งสินค้าได้

รายงานข่าวจากด่านศุลกากร อ.เชียงแสน แจ้งว่าปี 2551 ท่าเรือเชียงแสนมีการนำเข้าสินค้าจากเรือในแม่น้ำโขงมูลค่า 1,232.63 ล้านบาท โดยสินค้าส่วนใหญ่คือผักสด มูลค่ากว่า 339.69 ล้านบาท ทับทิมสด 141.08 ล้านบาท ฯลฯ ส่วนการส่งออกมีมูลค่า 6,155.11 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นยางแผ่นรมควัน มูลค่า 1,642.19 ล้านบาท น้ำมันปาล์ม 1,182.07 ล้านบาท ฯลฯ ส่วนปี 2552 มีการนำเข้ามูลค่ารวม 1,230.37 ล้านบาท โดยสินค้าส่วนใหญ่คือผักสดมูลค่า 263.79 ล้านบาท ทับทิมสด 252.26 ล้านบาท

ส่วนการส่งออกมีมูลค่า 5,085.08 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่คือน้ำมันปาล์ม 763.35 ล้านบาท รถยนต์ปรับสภาพ 721.30 ล้านบาท เครื่องดื่มบำรุงกำลัง 396.98 ล้านบาท ฯลฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น