ขณะที่คณะทำงานอัยการคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของทักษิณอยู่ระหว่างดำเนินการเขียนคำแถลงปิดคดี ฝ่ายทนายความของทักษิณเขียนคำแถลงยื่นต่อศาลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คำแถลง 162 หน้าลงลายมือชื่อทักษิณเป็นที่เรียบร้อย
สาระสำคัญของคำแถลงสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหาทั้งหลายทั้งปวงของ คตส.นั้นเป็นการสันนิษฐาน เป็นการคาดเดา และจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่มีมูลความจริง ปราศจากหลักฐาน ขัดแย้งกับหลักฐานทางราชการ ขัดแย้งกับคำเบิกความของพยาน ไม่มีเหตุให้เชื่อได้ว่า ทักษิณได้ให้ภรรยาและลูกถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น แทน
ในท้ายคำแถลงทักษิณบอกว่า ช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยทุจริต ไม่เคยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย และไม่เคยแม้แต่จะคิดทำการใดเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ยิ่งกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน การที่ถูกปฏิวัติรัฐประหารและตั้งข้อหาในคดีนี้ เป็นเรื่องทางการเมืองทั้งสิ้น
ในเวลาใกล้เคียงกัน ทักษิณก็พูดถึงอดีต คตส.บางท่านที่ออกมาให้ความเห็นเรื่องของคดีว่า คงหวังว่าจะได้ 25 เปอร์เซ็นต์จาก 76,000 ล้านบาท
นายนาม ยิ้มแย้ม นายสัก กอแสงเรือง อดีตกรรมการ คตส.ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะได้สินบนการชี้เบาะแสของทรัพย์สินที่อายัดไว้ แม้ว่าถึงที่สุดศาลยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ก็จะไม่มีใครได้สินบนสักบาทเดียว เพราะระเบียบเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า คตส.เอง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่มีสิทธิที่จะได้รับสินบทดังกล่าว
และคดีนี้ก็เป็นที่ชัดเจนว่า เป็นผลงานของ คตส.ไม่มีใครชี้เบาะแส จึงไม่มีใครมีสิทธิจะได้สินบน
เรื่องอย่างนี้ก็น่าจะจบ เพราะถือเสียว่าเป็นความไม่รู้ของทักษิณเอง แต่ปรากฏว่า วิชิต ปลั่งศรีสกุล นักกฎหมาย ทนายความของทักษิณก็ออกมาพูดเป็นทำนองเดียวกันว่า เมียของ คมช.คนหนึ่งคุยว่ากำลังจะรวย รวยเพราะ 25 เปอร์เซ็นต์นี่หรือเปล่า?
นี่สะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้โง่บัดซบเพียงทักษิณซึ่งไม่มีความรู้เรื่องกฎบัตรกฎหมาย แม้คนทำมาหากินอยู่กับตัวบทกฎหมายก็โง่ ไม่ศึกษา ไม่หาข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะระเบียบของ คตส.เป็นเรื่องเปิดเผย ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ
มิน่าเล่า หลายต่อหลายคดีของทักษิณจึงได้แพ้อย่างหมดรูป ตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนเรื่อยมาจนถึงคดีสมัคร พวกเขาจะสู้อยู่อย่างเดียวว่า ศาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ เป็นเรื่องกลั่นแกล้ง เป็นเรื่องการเมือง พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
เหมือนคำแถลงปิดคดีว่า ระหว่างที่บริหารราชการแผ่นดิน ทักษิณไม่เคยทุจริต ไม่เคยใช้ตำแหน่งหน้าที่ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย
แล้วที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีจนทำให้ทักษิณต้องระเหระหนอยู่นอกประเทศขณะนี้คืออะไร คำพิพากษาเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรีทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนให้เมีย คือ คุณหญิงพจมานไปซื้อที่ดินรัชดาฯ ซึ่งทักษิณและบรรดาลูกหาบของเขามักจะพูดอยู่เสมอว่า
“เมียซื้อผัวติดคุก”
ซึ่งเป็นคำพูดที่จริงก็แต่เพียงว่า เมียซื้อที่ดิน ผัวติดคุก แต่ไม่ได้ขยายความว่า ผัวที่ให้เมียซื้อที่ดินรัชดาฯ เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.ห้ามเอาไว้ เพราะนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลการบริหารราชการแผ่นดินสามารถที่จะใช้อำนาจหน้าที่ มีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ ซึ่งทักษิณก็ทำจริงๆ นอกจากให้บัตรนายกรัฐมนตรีไปเป็นหลักฐานการซื้อแล้ว กลัวว่าเมียจะซื้อจะโอนไม่ทัน ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีหลอกคนทั้งประเทศให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำงาน เพราะถ้าซื้อไม่ทันในปีนั้นจะเสียภาษีเพิ่มขึ้น
ดูความเห็นแก่ได้ของอัครมหาเศรษฐีคนนี้ซิ
นอกเหนือจากคำแถลงปิดคดีแล้ว เราก็จะพบว่า ทักษิณเริ่มเคลื่อนไหวปลุกบรรดาลูกสมุนทั้งหลายให้ลุกขึ้นมาป่วนบ้านป่วนเมืองให้หนักข้อขึ้นถึงกับประกาศว่าอาจจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา
จะเอาเงื่อนไขอะไรมาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น?
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สืบทอดมาจากคณะ คมช.เป็นรัฐบาลโจรต้องโค่นล้ม ต้องเอาประชาธิปไตยกลับมาให้ได้ เอาความเป็นธรรมกลับมาให้ได้ ทักษิณและบรรดาลูกหาบของเขามักจะพูดอยู่เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั้งๆ ที่สมาชิกรัฐสภาขณะนี้ก็เป็นชุดเดียวกับที่เคยสนับสนุน สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตัวแทนของทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่เมื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นหน้าที่ไป เสียงส่วนใหญ่หันไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ แทนที่จะสนับสนุนพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก นอมินีตัวใหม่ของทักษิณเท่านั้นเอง
มาวันนี้มีที่พึ่งพิงคือ กัมพูชา มีความหวังว่าจะมีประเทศที่เป็นหลังพิง อาจจะช่วยบรรดาลูกหาบที่ทำผิดกฎหหมายหนีตายไปหาที่พึ่งพิง หรืออาจจะคิดว่า ฮุนเซนอาจจะแบ่งปันอาวุธ แบ่งปันกำลังผู้คนให้มาสู้กับรัฐบาลไทย ตามรอยฮุนเซนที่มีเวียดนามคอยช่วยในอดีตให้เขาได้กลับมาเป็นใหญ่ในประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พ้นจากคดีความต่างๆ ที่ทำกับประเทศไทย และคนไทยเอาไว้
ดูเอาเถอะครับ คำพูดที่บอกว่า ซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน รัก หวงแหนประชาธิปไตยนั้นมีคุณสมบัติตรงไหนของทักษิณเข้าองค์ประกอบเหล่านี้บ้าง
ใครที่มันซุกหุ้นไว้กับคนใช้ คนสวน คนขับรถ รปภ. (ถ้ามันซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมามันจะต้องซุกทำไม) ใครที่มันตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเอง หวย 2 ตัว 3 ตัวไม่เอารายได้เข้าคลัง ใครที่มันปล่อยให้เมียเลี่ยงภาษี ใครที่มันสนับสนุนส่งเสริมให้ญาติพี่น้องข้ามหัวคนอื่นทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ใครที่มันยักย้ายถ่ายเทขายหุ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีสักบาทเดียวจนประชาชนทั้งหลายอดรนทนไม่ได้ ออกมาประณามคัดค้านจนในที่สุดมันต้องยุบสภา
ไอ้คนที่เลวแสนเลว ชั่วแสนชั่วนี้เป็นใคร ถ้าหากคำแถลงของทักษิณเชื่อได้?
คำแถลง 162 หน้าลงลายมือชื่อทักษิณเป็นที่เรียบร้อย
สาระสำคัญของคำแถลงสรุปได้ว่า ข้อกล่าวหาทั้งหลายทั้งปวงของ คตส.นั้นเป็นการสันนิษฐาน เป็นการคาดเดา และจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่มีมูลความจริง ปราศจากหลักฐาน ขัดแย้งกับหลักฐานทางราชการ ขัดแย้งกับคำเบิกความของพยาน ไม่มีเหตุให้เชื่อได้ว่า ทักษิณได้ให้ภรรยาและลูกถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น แทน
ในท้ายคำแถลงทักษิณบอกว่า ช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยทุจริต ไม่เคยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย และไม่เคยแม้แต่จะคิดทำการใดเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ยิ่งกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน การที่ถูกปฏิวัติรัฐประหารและตั้งข้อหาในคดีนี้ เป็นเรื่องทางการเมืองทั้งสิ้น
ในเวลาใกล้เคียงกัน ทักษิณก็พูดถึงอดีต คตส.บางท่านที่ออกมาให้ความเห็นเรื่องของคดีว่า คงหวังว่าจะได้ 25 เปอร์เซ็นต์จาก 76,000 ล้านบาท
นายนาม ยิ้มแย้ม นายสัก กอแสงเรือง อดีตกรรมการ คตส.ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะได้สินบนการชี้เบาะแสของทรัพย์สินที่อายัดไว้ แม้ว่าถึงที่สุดศาลยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ก็จะไม่มีใครได้สินบนสักบาทเดียว เพราะระเบียบเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า คตส.เอง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่มีสิทธิที่จะได้รับสินบทดังกล่าว
และคดีนี้ก็เป็นที่ชัดเจนว่า เป็นผลงานของ คตส.ไม่มีใครชี้เบาะแส จึงไม่มีใครมีสิทธิจะได้สินบน
เรื่องอย่างนี้ก็น่าจะจบ เพราะถือเสียว่าเป็นความไม่รู้ของทักษิณเอง แต่ปรากฏว่า วิชิต ปลั่งศรีสกุล นักกฎหมาย ทนายความของทักษิณก็ออกมาพูดเป็นทำนองเดียวกันว่า เมียของ คมช.คนหนึ่งคุยว่ากำลังจะรวย รวยเพราะ 25 เปอร์เซ็นต์นี่หรือเปล่า?
นี่สะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้โง่บัดซบเพียงทักษิณซึ่งไม่มีความรู้เรื่องกฎบัตรกฎหมาย แม้คนทำมาหากินอยู่กับตัวบทกฎหมายก็โง่ ไม่ศึกษา ไม่หาข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะระเบียบของ คตส.เป็นเรื่องเปิดเผย ไม่ใช่เรื่องลี้ลับ
มิน่าเล่า หลายต่อหลายคดีของทักษิณจึงได้แพ้อย่างหมดรูป ตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนเรื่อยมาจนถึงคดีสมัคร พวกเขาจะสู้อยู่อย่างเดียวว่า ศาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ เป็นเรื่องกลั่นแกล้ง เป็นเรื่องการเมือง พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
เหมือนคำแถลงปิดคดีว่า ระหว่างที่บริหารราชการแผ่นดิน ทักษิณไม่เคยทุจริต ไม่เคยใช้ตำแหน่งหน้าที่ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย
แล้วที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีจนทำให้ทักษิณต้องระเหระหนอยู่นอกประเทศขณะนี้คืออะไร คำพิพากษาเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรีทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนให้เมีย คือ คุณหญิงพจมานไปซื้อที่ดินรัชดาฯ ซึ่งทักษิณและบรรดาลูกหาบของเขามักจะพูดอยู่เสมอว่า
“เมียซื้อผัวติดคุก”
ซึ่งเป็นคำพูดที่จริงก็แต่เพียงว่า เมียซื้อที่ดิน ผัวติดคุก แต่ไม่ได้ขยายความว่า ผัวที่ให้เมียซื้อที่ดินรัชดาฯ เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.ห้ามเอาไว้ เพราะนายกรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลการบริหารราชการแผ่นดินสามารถที่จะใช้อำนาจหน้าที่ มีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ ซึ่งทักษิณก็ทำจริงๆ นอกจากให้บัตรนายกรัฐมนตรีไปเป็นหลักฐานการซื้อแล้ว กลัวว่าเมียจะซื้อจะโอนไม่ทัน ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีหลอกคนทั้งประเทศให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำงาน เพราะถ้าซื้อไม่ทันในปีนั้นจะเสียภาษีเพิ่มขึ้น
ดูความเห็นแก่ได้ของอัครมหาเศรษฐีคนนี้ซิ
นอกเหนือจากคำแถลงปิดคดีแล้ว เราก็จะพบว่า ทักษิณเริ่มเคลื่อนไหวปลุกบรรดาลูกสมุนทั้งหลายให้ลุกขึ้นมาป่วนบ้านป่วนเมืองให้หนักข้อขึ้นถึงกับประกาศว่าอาจจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมา
จะเอาเงื่อนไขอะไรมาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น?
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สืบทอดมาจากคณะ คมช.เป็นรัฐบาลโจรต้องโค่นล้ม ต้องเอาประชาธิปไตยกลับมาให้ได้ เอาความเป็นธรรมกลับมาให้ได้ ทักษิณและบรรดาลูกหาบของเขามักจะพูดอยู่เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั้งๆ ที่สมาชิกรัฐสภาขณะนี้ก็เป็นชุดเดียวกับที่เคยสนับสนุน สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตัวแทนของทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่เมื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นหน้าที่ไป เสียงส่วนใหญ่หันไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ แทนที่จะสนับสนุนพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก นอมินีตัวใหม่ของทักษิณเท่านั้นเอง
มาวันนี้มีที่พึ่งพิงคือ กัมพูชา มีความหวังว่าจะมีประเทศที่เป็นหลังพิง อาจจะช่วยบรรดาลูกหาบที่ทำผิดกฎหหมายหนีตายไปหาที่พึ่งพิง หรืออาจจะคิดว่า ฮุนเซนอาจจะแบ่งปันอาวุธ แบ่งปันกำลังผู้คนให้มาสู้กับรัฐบาลไทย ตามรอยฮุนเซนที่มีเวียดนามคอยช่วยในอดีตให้เขาได้กลับมาเป็นใหญ่ในประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พ้นจากคดีความต่างๆ ที่ทำกับประเทศไทย และคนไทยเอาไว้
ดูเอาเถอะครับ คำพูดที่บอกว่า ซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน รัก หวงแหนประชาธิปไตยนั้นมีคุณสมบัติตรงไหนของทักษิณเข้าองค์ประกอบเหล่านี้บ้าง
ใครที่มันซุกหุ้นไว้กับคนใช้ คนสวน คนขับรถ รปภ. (ถ้ามันซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมามันจะต้องซุกทำไม) ใครที่มันตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเอง หวย 2 ตัว 3 ตัวไม่เอารายได้เข้าคลัง ใครที่มันปล่อยให้เมียเลี่ยงภาษี ใครที่มันสนับสนุนส่งเสริมให้ญาติพี่น้องข้ามหัวคนอื่นทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ใครที่มันยักย้ายถ่ายเทขายหุ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีสักบาทเดียวจนประชาชนทั้งหลายอดรนทนไม่ได้ ออกมาประณามคัดค้านจนในที่สุดมันต้องยุบสภา
ไอ้คนที่เลวแสนเลว ชั่วแสนชั่วนี้เป็นใคร ถ้าหากคำแถลงของทักษิณเชื่อได้?
