xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่รัฐบาล?

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

ในที่สุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ตัดสินใจไม่เดินทางไปร่วมงานประชุมหอการค้าที่เชียงใหม่ และในที่สุดคนเสื้อแดงก็เลื่อนการชุมนุมใหญ่ชั่วคราว อาจจะเป็นกลางเดือนธันวาคม อาจจะเป็นก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่ จึงจะออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา ทุกประการขึ้นอยู่กับทักษิณ ชินวัตร จะบัญชาการ

การยกเลิกการเดินทางไปเชียงใหม่อาจจะเป็นการเสียรังวัดของความเป็นผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่บ้าง แม้ว่าหอการค้าจะหาทางออกให้ด้วยการมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบว่า นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นที่จะไปร่วมงานก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายจนอาจจะเกิดเหตุบานปลายได้ จะถือว่าเป็นความอดทนอดกลั้นของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลก็ย่อมได้

แต่ก็จะมีบ้างที่คิดว่า นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำเพียงคนเสื้อแดงออกมาขู่ไม่ให้ไปเชียงใหม่ ก็กลัวลาน อย่างนี้จะบริหารประเทศอย่างไร เสื้อแดงนั้นมิได้มีเฉพาะที่เชียงใหม่ ที่อุบลราชธานี อุดรธานี ลพบุรี และอีกหลายต่อหลายจังหวัด ถ้าหากคนเสื้อแดงเหิมเกริมประกาศจะเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเดินทางมายังจังหวัดที่พวกเขาอยู่ แล้วนายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้าไป เหมือนกับที่ไม่ไปเชียงใหม่ การบริหารประเทศชาติก็ต้องนั่งอยู่แต่ในทำเนียบรัฐบาล หรือเลือกเดินทางไปยังจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของพรรคที่นายกรัฐมนตรีสังกัด เช่น จังหวัดทางภาคใต้ หรือไม่จะไปที่ไหนก็ทุ่มเทงบประมาณเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ประเมินสถานการณ์ว่าอยู่รอดปลอดภัยแน่จึงจะเดินทางไป

เราจะปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอยู่อย่างนี้หรือ ประเทศไทยนั้นจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดเป็นคนไทยย่อมมีเสรีภาพที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้ อย่าว่าแต่คนไทยคนนั้นคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำของประเทศ เป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ และความเสื่อมทรุดของประเทศ

แน่นอนที่สุดการงดการเดินทางไปเชียงใหม่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ย่อมทำให้คนเสื้อแดงที่เชียงใหม่ฮึกห้าวเหิมหาญแลส่งผลให้หัวหน้าเสื้อแดงที่ดูไบเกิดความหวังพลุ่งโพลงขึ้นมาทันที จนกระทั่งมีหมอเดาออกมาคาดการณ์เป็นการให้กำลังใจว่า เดือนเมษายนนี้จะมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย และจะได้เป็นใหญ่เสียด้วย ซึ่งก็คงจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มารับผิดชอบกับการบริหารประเทศอีกครั้ง

มีนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วหลุดจากตำแหน่งไป แล้วได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก จอมพลป. พิบูลสงคราม นายควง อภัยวงศ์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายอานันท์ ปัณยารชุน นายชวน หลีกภัย ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วเว้นวรรค แล้วกลับมาเป็นใหม่ได้

ท่านเหล่านี้กลับมาได้เพราะท่านไม่มีปัญหาคอร์รัปชัน ไม่เป็นผู้ร้ายหนีคุกหนีตะรางเหมือนเช่น ทักษิณ ชินวัตร เป็นอยู่ขณะนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าหากทักษิณ ชินวัตร กลับมาได้ ต้องถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ เป็นการพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินอย่างที่ทักษิณ ชินวัตร เคยประกาศเชิญชวนกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนเขาในช่วงที่เสื้อแดงลุกมาเคลื่อนไหวตามคำสั่งของเขาเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ดีที่ฝ่ายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความเป็นเอกภาพ กองทัพไม่ได้วางเฉย หากแต่ออกมารักษาบ้านรักษาเมืองเอาไว้ไม่ปล่อยให้เกิดการจลาจลอย่างที่ทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้เกิด โดยคิดว่า ถ้าหากบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายอย่างที่พวกเขาพยายามจุดชนวนที่พัทยา ที่กระทรวงมหาดไทย ที่นางเลิ้ง และที่ดินแดง บ้านเมืองก็จะเกิดจลาจลจนกระทั่งรัฐบาลเอาไม่อยู่

ในที่สุดพวกเขาก็จะชนะ ทักษิณ ชินวัตร ก็จะได้มีโอกาสกลับประเทศไทยโดยที่ไม่ต้องเข้าคุกตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้จำคุกเขา 2 ปีในคดีให้ภริยาซื้อที่ดินรัชดาฯ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน

ครั้งนี้ก็มีความหวังเช่นเดียวกับที่เคยหวังเมื่อเดือนเมษายน หรืออาจจะฮึกเหิมยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นประหนึ่งว่า นายกรัฐมนตรีกลัวคนเสื้อแดงที่เชียงใหม่ ความหวังก็เลยพลุ่งโพลงขึ้นมาอีก ก่อนปีใหม่หรืออาจจะหลังปีใหม่ ทักษิณ ชินวัตร ก็อาจจะบัญชาการให้เสื้อแดงลุกขี้นมาปฏิบัติการ พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินอย่างที่เคยทำมาแล้ว

สถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่นี้โทษใครไม่ได้หรอกครับ นอกจากโทษรัฐบาล รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่พ้นไปนานแล้ว และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บริหารประเทศอยู่ในขณะนี้

รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ มาตามคำเชิญของคณะรัฐประหารบริหารประเทศด้วยความกล้าๆ กลัวๆ กลัวว่าชาวบ้านจะมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย จัดการเลือกตั้งโดยที่ยังไม่ได้กวาดบ้านให้สะอาด เหตุของการทำรัฐประหารล้มทักษิณก็ไม่ได้ทำให้เกิดความกระจ่างกับผู้คนทั้งประเทศ ข้าราชการก็ปล่อยให้เป็นฝักเป็นฝ่าย คนที่ทักษิณวางไว้ก็ปล่อยให้มีอำนาจ

เมื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนของทักษิณชนะการเลือกตั้ง นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี นายสมัครพ้นไปนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาแทน ระบอบทักษิณทำท่าว่าจะแข็งแกร่งขึ้นมาได้อีก เฉพาะทักษิณนั้นถึงกับเดินทางกลับประเทศ ประกาศพร้อมสู้คดีในศาล แต่เขาก็พาเมียเผ่นออกนอกประเทศก็เมื่อตระหนักชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถวิ่งศาลได้ ทีมกฎหมายของเขาที่ทะเล่อทะล่าเอากล่องขนมที่มีเงินเป็นล้านต้องติดคุกถึง 6 เดือน

มาถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์สักเท่าไรนัก ข้าราชการที่จงรักภักดีต่อทักษิณ ยังคงมีอำนาจอยู่ และพร้อมที่จะเกียร์ว่าง ถ้าหากจะต้องปฏิบัติงานแล้วจะส่งผลเสียต่อทักษิณหรือบริษัทบริวารของทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำรวจ อัยการ

แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เฉย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยสนับสนุนนอมินีของทักษิณ และอีกส่วนหนึ่งอาศัยเสียงของพรรคที่ทักษิณเป็นเจ้าของแต่ยอมทรยศหักหลังทักษิณ

เมื่อแรกจัดตั้งรัฐบาลจึงน่าเห็นใจว่าความเป็นเอกภาพ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันยังไม่เกิด

มาบัดนี้เวลาจะครบปีแล้วรัฐบาลก็ยังเหมือนเดิม นายอภิสิทธิ์อาจจะดูมุ่งมั่นในการทำงาน แต่พรรคร่วมรัฐบาลดูจะมุ่งมั่นก้มหน้าก้มตาอยู่กับการแสวงหาผลประโยชน์ โปรเจกต์ต่างๆ ที่ผู้คนสงสัยว่าจะไม่สุจริต พรรคร่วมรัฐบาลก็เพิกเฉย นายอภิสิทธิ์เองก็เพิกเฉย (ประหนึ่งว่าอาการเฉยของนายกรัฐมนตรีนั้นเพื่อแลกเสียงสนับสนุนให้อยู่ในตำแหน่ง) ไม่ว่าจะเป็นการเช่ารถเมล์ ขายข้าว ขายมัน ฯลฯ

ขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ทักษิณและบริษัทบริวารของทักษิณเคลื่อนไหวเหิมเกริมหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ตำรวจเฉย อัยการก็เฉย

การทำความจริงให้ปรากฏให้ประชาชนเห็นว่าระบอบทักษิณมันชั่วช้าสามานย์อย่างไร ก็ไม่ทำ ความผิดทักษิณมีอะไรบ้างก็ไม่บอกกล่าวให้ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงรู้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเอเอสทีวี ผู้จัดการ ไทยโพสต์ เนชั่น ต่อสู้กับระบอบทักษิณแทน

เหนื่อยแทนจริงๆ ครับ

กำลังโหลดความคิดเห็น