เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกันตามที่ได้นัดหมาย การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ทักษิณ ชินวัตร ผู้เปรียบเสมือนบิดาของกลุ่มคนเหล่านี้ยังคงโฟนอินเข้ามาเหมือนทุกครั้ง ด้วยเนื้อหาเดิมๆ ที่เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นก็คืออยากกลับมารับใช้ประเทศชาติ อยากกลับมารับใช้ประชาชน อยากกลับเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (ซึ่งทักษิณคิดว่าต้องเขาเท่านั้นที่แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรณ์ จาติกวณิช หรือคนอื่นๆ แก้ไม่ได้)
ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ได้ไหม?
ย่อมได้ แต่ก่อนอื่นต้องมาติดคุกก่อน 2 ปี หลังจากนั้นก็รอให้พ้นคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินให้เขาหยุดกิจกรรมการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกไม่นานแล้ว
และต้องพ้นจากคดีอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในศาลขณะนี้
เว้นเสียแต่ทักษิณจะสามารถยึดอำนาจได้จากรัฐบาลประชาธิปไตยขณะนี้ แล้วก็ออกคำสั่งให้บรรดาคดีความที่มีอยู่ในศาลสถิตยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งที่ตัดสินไปแล้ว และที่ยังรอดำเนินคดีเป็นอันยกเลิกไป
การออกมาป่วนบ้านป่วนเมืองตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา การเคลื่อนไหวใหญ่จนจะเผาบ้านเผาเมืองให้เกิดการจลาจลเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เพื่อการนี้ แต่เมื่อเดือนเมษายนไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องหาหนทางหาจังหวะลุกขี้นมาเคลื่อนไหวอีกอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายก็อยู่ที่ชัยชนะ ได้กลับมาครองบ้านครองเมืองอีก
ทักษิณไม่เพียงอาศัยกลุ่มคนรากหญ้าให้ออกมาเคลื่อนไหวเท่านั้น พรรคการเมืองของเขาคือพรรคเพื่อไทยก็เคลื่อนไหวควบคู่กันไปด้วย โดยการหาสมาชิกพรรคให้กว้างขวางขึ้น รวบรวมนายทหาร ตำรวจ เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณเข้ามาในพรรคให้ดูคึกคักขึ้น
ส่วนสมาชิกพรรคที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้วก็ให้ลงพื้นที่ ด้วยการคาดหมายว่า รัฐบาลอาจจะถอดใจยุบสภาหรือลาออกในอนาคตอันไม่นานนักนี้ พรรคเพื่อไทยซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ทักษิณก็อาจจะประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง เป็นช่องทางหนึ่งที่เขาคิดว่าจะทำให้ตัวเองรอดคุก และอาจจะกลับมาเป็นใหญ่ได้
การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมามีข้อที่น่าสังเกตว่า มีผู้อภิปราย หรือปราศัยบนเวทีที่น่าสนใจอยู่คนหนึ่ง คือนายอุดม มั่งมีดี อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา
นายอุดม มั่งมีดี ตั้งคำถามว่า การกล่าวหาว่าทักษิณ ทุจริตประพฤติมิชอบนั้น ระหว่างที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2544 จนถึง 2548, 2549 ทำไมไม่ดำเนินคดี?
นายอุดม ไม่รู้หรอกหรือว่า ปี 2544 จนกระทั่งถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้นทักษิณมีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทักษิณพ้นคดีซุกหุ้น ประเทศไทยทั้งประเทศก็อยู่ใต้ตีนเขาทุกอย่างทุกประการ ในฐานะที่เป็นตุลาการ นายอุดมไม่รู้สึกบ้างหรอกหรือในคดีซุกหุ้นที่เขาเอา 4 เสียงไม่รับเรื่องนี้พิจารณาไปรวมกับ 4 เสียงที่บอกว่าทักษิณไม่ผิด เพื่อให้ชนะ 7 เสียงที่ลงมติว่า ทักษิณผิด ทักษิณซุกหุ้น
เอาละเมื่อบริหารบ้านเมืองมาจนกระทั่งเกิดการยึดอำนาจ นายอุดมไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่รู้ว่า ทักษิณมีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ใช้คณะกรรมการการเลือกตั้งให้ทำงาน จนกระทั่งศาลสถิตยุติธรรมตัดสินจำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นี่เป็นการพิจารณาคดี และตัดสินในขณะที่ทักษิณยังมีอำนาจอยู่นะครับคุณอุดม คุณไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้
เอาละ มาถึงคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีที่ทักษิณหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ขณะนี้ คุณอุดม ไม่มีดีไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่ได้สนใจหยิบเอาคำพิพากษามาศึกษาดู
เอาละ ถ้าหากจะบอกว่า กรณีที่ดินรัชดาฯ นั้น เพราะคณะทหารที่ยึดอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาตรวจสอบ เรียกย่อๆ ว่า คตส. แต่คุณอุดมครับ เรื่องที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปีนั้น ไม่ว่าให้หมาหรือแมวที่ไหนมาตรวจสอบก็จะได้ความจริงว่า
1.ที่ดินตรงนั้นเดิมราคา 2 พันกว่าล้านบาท ทำไปทำมาราคาเหลือ 800 ล้านบาท
2.พอคุณหญิงพจมานจะประมูลซื้อราคา 700 เกือบ 800 ล้านบาท แถมคนที่จะประมูลต้องวางเงินสด 100 ล้านบาท
3. ที่ดินตรงนี้ก่อนที่คุณหญิงพจมานจะซื้อได้เขาห้ามสร้างตึกสูง แต่พอซื้อได้แล้วจะสร้างสักกี่ชั้นก็ได้ ตรงนี้คุณอุดมอ่านออกหรือเปล่า
4.ทักษิณรู้เห็นเป็นใจให้เมียซื้อเห็นชัดๆ ก็คือเอาบัตรประจำตัวนายกรัฐมนตรีให้เมีย/ไปทำสัญญาซื้อ ซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.เขาห้ามไว้ เพราะมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนเทียบเคียงให้ง่ายเข้าก็เหมือนวงการตุลาการสมัยที่กรมบังคับคดียังอยู่กับศาล เขาก็ห้ามผู้พิพากษาไปซื้อที่ดินที่กรมบังคับคดีขายทอดตลาดนั่นแหละ เพราะเกรงว่าผู้พิพากษาจะหาทางรับประทานกับเรื่องอย่างนี้ พูดอย่างนี้พอจะเข้าใจใช่ไหม อุดม
5.ทักษิณเกรงว่าเมียจะซื้อที่ไม่ทันในปีนั้นแล้วจะทำให้ภาษีการโอนเพิ่มขึ้น ทักษิณให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำราชการ โดยหลอกประชาชนคนไทยว่าจะได้หยุดยาวไปเลย วันที่ 1, 2, 3, 4เรื่องอย่างนี้อัปยศไหมนายอุดม
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่เรื่องกล่าวหา ไม่ใช่เรื่องมดเท็จดังกล่าวแล้วว่า เอาหมาที่ไหนมาตรวจสอบก็จะได้ความจริงดังกล่าวนั้น เข้าใจหรือยัง อุดม
คณะทหารที่เขายึดอำนาจเขาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ส่งอัยการพิจารณา จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ฟ้องแล้วก็ให้ศาลสถิตยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา มีบางคดีที่ศาลลงโทษ มีบางคดีที่ศาลปล่อย
คุณอุดมอยู่ศาลมาตั้งแต่หนุ่มจนจวนจะเข้าโลงยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อีกหรือ
ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ได้ไหม?
ย่อมได้ แต่ก่อนอื่นต้องมาติดคุกก่อน 2 ปี หลังจากนั้นก็รอให้พ้นคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินให้เขาหยุดกิจกรรมการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกไม่นานแล้ว
และต้องพ้นจากคดีอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในศาลขณะนี้
เว้นเสียแต่ทักษิณจะสามารถยึดอำนาจได้จากรัฐบาลประชาธิปไตยขณะนี้ แล้วก็ออกคำสั่งให้บรรดาคดีความที่มีอยู่ในศาลสถิตยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งที่ตัดสินไปแล้ว และที่ยังรอดำเนินคดีเป็นอันยกเลิกไป
การออกมาป่วนบ้านป่วนเมืองตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา การเคลื่อนไหวใหญ่จนจะเผาบ้านเผาเมืองให้เกิดการจลาจลเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เพื่อการนี้ แต่เมื่อเดือนเมษายนไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องหาหนทางหาจังหวะลุกขี้นมาเคลื่อนไหวอีกอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายก็อยู่ที่ชัยชนะ ได้กลับมาครองบ้านครองเมืองอีก
ทักษิณไม่เพียงอาศัยกลุ่มคนรากหญ้าให้ออกมาเคลื่อนไหวเท่านั้น พรรคการเมืองของเขาคือพรรคเพื่อไทยก็เคลื่อนไหวควบคู่กันไปด้วย โดยการหาสมาชิกพรรคให้กว้างขวางขึ้น รวบรวมนายทหาร ตำรวจ เพื่อนร่วมรุ่นทักษิณเข้ามาในพรรคให้ดูคึกคักขึ้น
ส่วนสมาชิกพรรคที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้วก็ให้ลงพื้นที่ ด้วยการคาดหมายว่า รัฐบาลอาจจะถอดใจยุบสภาหรือลาออกในอนาคตอันไม่นานนักนี้ พรรคเพื่อไทยซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ทักษิณก็อาจจะประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง เป็นช่องทางหนึ่งที่เขาคิดว่าจะทำให้ตัวเองรอดคุก และอาจจะกลับมาเป็นใหญ่ได้
การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมามีข้อที่น่าสังเกตว่า มีผู้อภิปราย หรือปราศัยบนเวทีที่น่าสนใจอยู่คนหนึ่ง คือนายอุดม มั่งมีดี อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา
นายอุดม มั่งมีดี ตั้งคำถามว่า การกล่าวหาว่าทักษิณ ทุจริตประพฤติมิชอบนั้น ระหว่างที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2544 จนถึง 2548, 2549 ทำไมไม่ดำเนินคดี?
นายอุดม ไม่รู้หรอกหรือว่า ปี 2544 จนกระทั่งถึงวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้นทักษิณมีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทักษิณพ้นคดีซุกหุ้น ประเทศไทยทั้งประเทศก็อยู่ใต้ตีนเขาทุกอย่างทุกประการ ในฐานะที่เป็นตุลาการ นายอุดมไม่รู้สึกบ้างหรอกหรือในคดีซุกหุ้นที่เขาเอา 4 เสียงไม่รับเรื่องนี้พิจารณาไปรวมกับ 4 เสียงที่บอกว่าทักษิณไม่ผิด เพื่อให้ชนะ 7 เสียงที่ลงมติว่า ทักษิณผิด ทักษิณซุกหุ้น
เอาละเมื่อบริหารบ้านเมืองมาจนกระทั่งเกิดการยึดอำนาจ นายอุดมไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่รู้ว่า ทักษิณมีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ใช้คณะกรรมการการเลือกตั้งให้ทำงาน จนกระทั่งศาลสถิตยุติธรรมตัดสินจำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นี่เป็นการพิจารณาคดี และตัดสินในขณะที่ทักษิณยังมีอำนาจอยู่นะครับคุณอุดม คุณไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้
เอาละ มาถึงคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปีที่ทักษิณหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ขณะนี้ คุณอุดม ไม่มีดีไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่ได้สนใจหยิบเอาคำพิพากษามาศึกษาดู
เอาละ ถ้าหากจะบอกว่า กรณีที่ดินรัชดาฯ นั้น เพราะคณะทหารที่ยึดอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาตรวจสอบ เรียกย่อๆ ว่า คตส. แต่คุณอุดมครับ เรื่องที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปีนั้น ไม่ว่าให้หมาหรือแมวที่ไหนมาตรวจสอบก็จะได้ความจริงว่า
1.ที่ดินตรงนั้นเดิมราคา 2 พันกว่าล้านบาท ทำไปทำมาราคาเหลือ 800 ล้านบาท
2.พอคุณหญิงพจมานจะประมูลซื้อราคา 700 เกือบ 800 ล้านบาท แถมคนที่จะประมูลต้องวางเงินสด 100 ล้านบาท
3. ที่ดินตรงนี้ก่อนที่คุณหญิงพจมานจะซื้อได้เขาห้ามสร้างตึกสูง แต่พอซื้อได้แล้วจะสร้างสักกี่ชั้นก็ได้ ตรงนี้คุณอุดมอ่านออกหรือเปล่า
4.ทักษิณรู้เห็นเป็นใจให้เมียซื้อเห็นชัดๆ ก็คือเอาบัตรประจำตัวนายกรัฐมนตรีให้เมีย/ไปทำสัญญาซื้อ ซึ่งกฎหมาย ป.ป.ช.เขาห้ามไว้ เพราะมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนเทียบเคียงให้ง่ายเข้าก็เหมือนวงการตุลาการสมัยที่กรมบังคับคดียังอยู่กับศาล เขาก็ห้ามผู้พิพากษาไปซื้อที่ดินที่กรมบังคับคดีขายทอดตลาดนั่นแหละ เพราะเกรงว่าผู้พิพากษาจะหาทางรับประทานกับเรื่องอย่างนี้ พูดอย่างนี้พอจะเข้าใจใช่ไหม อุดม
5.ทักษิณเกรงว่าเมียจะซื้อที่ไม่ทันในปีนั้นแล้วจะทำให้ภาษีการโอนเพิ่มขึ้น ทักษิณให้วันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันทำราชการ โดยหลอกประชาชนคนไทยว่าจะได้หยุดยาวไปเลย วันที่ 1, 2, 3, 4เรื่องอย่างนี้อัปยศไหมนายอุดม
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่เรื่องกล่าวหา ไม่ใช่เรื่องมดเท็จดังกล่าวแล้วว่า เอาหมาที่ไหนมาตรวจสอบก็จะได้ความจริงดังกล่าวนั้น เข้าใจหรือยัง อุดม
คณะทหารที่เขายึดอำนาจเขาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ส่งอัยการพิจารณา จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ฟ้องแล้วก็ให้ศาลสถิตยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา มีบางคดีที่ศาลลงโทษ มีบางคดีที่ศาลปล่อย
คุณอุดมอยู่ศาลมาตั้งแต่หนุ่มจนจวนจะเข้าโลงยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อีกหรือ
