ไม่ต้องอธิบายยืดยาวว่า จาตุรนต์ ฉายแสง คือใคร แต่ความหมายที่ชัดเจนสำหรับตัวเขาคือ ลิ่วล้อของทักษิณ
จาตุรนต์ เขียนบทความบอกว่า การพิพากษาคดีของทักษิณที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ว่า จะถูกยึดทรัพย์หรือไม่กำลังจะมีผลเสีย เป็นปัญหามากขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติธรรมของประเทศ
เขาอ้างเหตุผลอันบิดเบือนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทักษิณมา 2-3 ข้อ
1) การใช้ คตส. ซึ่งคณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้นมาจากบุคคลที่ประกาศตนเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับพ.ต.ท.ทักษิณอย่างโจ่งแจ้งมาทำหน้าที่ในการสอบสวน โดยไม่จำเป็นต้องทำตามกฎหมายเนื่องจากได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 309
2) ผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งจงใจ สั่งการ และปล่อยปละละเลยให้มีการแสดงความเห็นต่อคดีนี้ในลักษณะพูดฝ่ายเดียว คือ พูดแต่ในทางที่เป็นผลร้ายต่อผู้ถูกกล่าวหาหรือปัจจุบันคือจำเลย สร้างกระแสให้ยึดทรัพย์ เข้าข่ายกดดันศาลกันตามอำเภอใจ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวนี้มีทั้งคนสำคัญในรัฐบาล พันธมิตรฯ สื่อมวลชนบางรายโดยเฉพาะสื่อมวลชนของรัฐบาล และล่าสุดคืออดีตกรรมการ คตส.เอง โดยที่สังคมเกือบไม่มีโอกาสได้ยินคำอธิบายชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่งเลย
3) มีการสร้างกระแสโดยรัฐบาลและผู้สนับสนุนรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนของรัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อใส่ร้ายการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยว่า ต้องการใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันศาลและจะเกิดความรุนแรงอย่างมากหลังการตัดสินคดี ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ผลของการตัดสินคดีนี้ การใส่ร้ายที่ผ่านสื่อของรัฐบาลยังได้เลยเถิดไป การสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อประชาชนด้วยการกล่าวหาว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต้องการล้มล้างสถาบัน จนอาจมองได้ว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงกำลังสร้างเงื่อนไขเตรียมการในการปราบประชาชน
มาตรา 309 บัญญัติว่า “บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญเเห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายเเละรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นเเละการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้”
อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า
ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 โดยให้ถือว่ามติของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ไม่มีข้อไหนเลยครับที่บอกว่า คตส.สามารถใช้อำนาจโดยอำเภอใจโดยไม่ต้องทำตามกฎหมาย
ประเด็นที่สอง นายจาตุรนต์ต้องการสร้างกระแสว่า มีธงในการพิจารณาคดีนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ก็มีขึ้นทั้งสองฝ่ายทั้งที่สนับสนุนการยึดทรัพย์และสนับสนุนทักษิณ บนเวทีเสื้อแดง เมื่อ 2-3 วันก่อนที่เวทีเสื้อแดงปทุมธานี อดิศร เพียงเกษ เพื่อนของจาตุรนต์ก็เพิ่งพูดว่า ตุลาการทุกวันนี้อยู่ใต้สะดือของอำมาตย์ และนักวิชาการบางคนที่เป็นเพื่อนของจาตุรนต์ก็ออกมาเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ
ถ้าเราจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ น้องชายของทักษิณก็ออกมากดดันศาลว่า จะต้องคืนทรัพย์สินที่ทักษิณมีอยู่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีกลับคืนมา ในทีวีเสื้อแดงและสื่อที่สนับสนุนทักษิณ ก็มีการพูดเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ด่าองค์กรตุลาการ ด่าศาลทั้งที่ยังไม่รู้ว่าคดีจะออกมาอย่างไร
จาตุรนต์จะบิดเบือนว่า สังคมเกือบไม่มีโอกาสได้ยินคำอธิบายชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างไร
ประเด็นที่สาม จาตุรนต์เรียกการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงว่า การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่จาตุรนต์ต้องเข้าใจว่าสังคมก็คงจะมีสติและแยกแยะได้ว่า พวกเขาต่อสู้เพื่อทักษิณหรือเพื่อประชาธิปไตยกันแน่ และสังคมก็มีสิทธิจะเข้าใจได้ว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงก่อนการพิจารณาคดีของทักษิณนั้นเกิดขึ้นเพื่อต้องการกดดันศาล
และทักษิณเองก็เป็นฝ่ายโฟนอินปลุกเร้าเพื่อให้คนเข้ามาร่วมชุมนุมมากๆ ทุกวัน ถ้าการคาดการณ์ว่า อาจจะเกิดความรุนแรงจากฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายไหนเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ จาตุรนต์ลองย้อนไปดูคำพูดของตัวเอง หรือของเพื่อนจาตุรนต์ที่ชื่อภูมิธรรม เวชยชัย ที่เคยข่มขู่ว่าจะเกิดความรุนแรงตอนที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ยังจุดเทียนอยู่ที่สวนลุมฯ และรัฐบาลที่นายจาตุรนต์นั่งอยู่ก็ปล่อยให้มีการจัดตั้งม็อบป่าไม้มาไล่ตีประชาชน
แล้วการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแบบไหนที่ไล่ฆ่าและไล่ตีฝ่ายตรงข้ามทั้งที่เชียงใหม่ อุดรธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ฯลฯ
รัฐบาลที่นายจาตุรนต์สนับสนุนปล่อยให้อันธพาลเข้ามายิงเอ็ม 79 เข้ามาถล่มที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ ทุกวัน และปล่อยให้รัฐบาลที่ตัวเองสนับสนุนใช้ความรุนแรงกับประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค.
ประเด็นที่จาตุรนต์ พูดถึงเรื่องการถูกกล่าวหาว่า ต้องการล้มล้างสถาบัน จาตุรนต์แกล้งหลับหูหลับตาต่อวาจาอันฉวัดเฉวียนที่มีนัยกระทบกระทั่งต่อสถาบันของคนเสื้อแดงบางกลุ่มได้อย่างไร (ผมยอมรับว่า บางกลุ่ม แต่นัยของมันคือการมีอยู่จริง)
การเคลื่อนไหวที่พาดพิงสถาบันผ่านสื่อต่างๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น จาตุรนต์จะคิดว่า เป็นเรื่องที่ถูกเสกสรรค์ปั้นแต่งใส่ร้ายป้ายสี หรือมีอยู่จริง ก็น่าจะเป็นเรื่องที่หาคำตอบได้ไม่ยาก
ผมมีข้อข้องใจและคำถามที่ขอถามไปยังจาตุรนต์ว่า การที่จาตุรนต์และพวกคนเสื้อแดง พูดในทางคาดการณ์ว่าคดีจะออกมาอย่างนี้อย่างนั้น จาตุรนต์กับพวกรู้ผลการตัดสินคดีนี้กันล่วงหน้าแล้วหรืออย่างไร เหตุใดจาตุรนต์และคนเสื้อแดง จึงปล่อยให้สื่อและเวทีของคนเสื้อแดงกดดันศาลและยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังในลักษณะปูทางไปสู่การก่อการจลาจลของประชาชน
นอกจากนี้ขอถามไปยังจาตุรนต์ว่า เหตุใดจึงปล่อยให้มีการชุมนุมก่อนการตัดสินคดีของศาลเช่นนี้ แล้วจะไม่ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการกดดันศาลได้อย่างไร
คดีนี้เป็นเรื่องการยึดทรัพย์ของคนครอบครัวเดียว แล้วทำไมต้องหลอกใช้ประชาชนปลุกปั่นมาเป็นเครื่องมือ และทำไมต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของระบบยุติธรรมและการยึดหลักนิติธรรมของประเทศ
หรือความเชื่อมั่นต่อระบบยุติธรรมและหลักนิติธรรมของประเทศในสายตาของจาตุรนต์ หมายถึงศาลจะต้องตัดสินให้ทักษิณไม่มีความผิดเพียงอย่างเดียว เหมือนที่จาตุรนต์เคยประกาศว่าจะเคารพการตัดสินของศาลในคดียุบพรรค แต่พอไม่เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการก็ออกมาด่าศาล
จาตุรนต์ครับ ผมอยากบอกว่า คุณมันของปลอม และพวก 2 มาตรฐานตัวจริง
surawhisky@hotmail.com
จาตุรนต์ เขียนบทความบอกว่า การพิพากษาคดีของทักษิณที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ว่า จะถูกยึดทรัพย์หรือไม่กำลังจะมีผลเสีย เป็นปัญหามากขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติธรรมของประเทศ
เขาอ้างเหตุผลอันบิดเบือนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทักษิณมา 2-3 ข้อ
1) การใช้ คตส. ซึ่งคณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้นมาจากบุคคลที่ประกาศตนเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับพ.ต.ท.ทักษิณอย่างโจ่งแจ้งมาทำหน้าที่ในการสอบสวน โดยไม่จำเป็นต้องทำตามกฎหมายเนื่องจากได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 309
2) ผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งจงใจ สั่งการ และปล่อยปละละเลยให้มีการแสดงความเห็นต่อคดีนี้ในลักษณะพูดฝ่ายเดียว คือ พูดแต่ในทางที่เป็นผลร้ายต่อผู้ถูกกล่าวหาหรือปัจจุบันคือจำเลย สร้างกระแสให้ยึดทรัพย์ เข้าข่ายกดดันศาลกันตามอำเภอใจ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวนี้มีทั้งคนสำคัญในรัฐบาล พันธมิตรฯ สื่อมวลชนบางรายโดยเฉพาะสื่อมวลชนของรัฐบาล และล่าสุดคืออดีตกรรมการ คตส.เอง โดยที่สังคมเกือบไม่มีโอกาสได้ยินคำอธิบายชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่งเลย
3) มีการสร้างกระแสโดยรัฐบาลและผู้สนับสนุนรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนของรัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อใส่ร้ายการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยว่า ต้องการใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันศาลและจะเกิดความรุนแรงอย่างมากหลังการตัดสินคดี ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ผลของการตัดสินคดีนี้ การใส่ร้ายที่ผ่านสื่อของรัฐบาลยังได้เลยเถิดไป การสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อประชาชนด้วยการกล่าวหาว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต้องการล้มล้างสถาบัน จนอาจมองได้ว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงกำลังสร้างเงื่อนไขเตรียมการในการปราบประชาชน
มาตรา 309 บัญญัติว่า “บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญเเห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายเเละรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นเเละการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้”
อำนาจหน้าที่ของ คตส.เป็นไปตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 โดยเฉพาะข้อ 9 ได้บัญญัติว่า
ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงานเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 โดยให้ถือว่ามติของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ไม่มีข้อไหนเลยครับที่บอกว่า คตส.สามารถใช้อำนาจโดยอำเภอใจโดยไม่ต้องทำตามกฎหมาย
ประเด็นที่สอง นายจาตุรนต์ต้องการสร้างกระแสว่า มีธงในการพิจารณาคดีนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ก็มีขึ้นทั้งสองฝ่ายทั้งที่สนับสนุนการยึดทรัพย์และสนับสนุนทักษิณ บนเวทีเสื้อแดง เมื่อ 2-3 วันก่อนที่เวทีเสื้อแดงปทุมธานี อดิศร เพียงเกษ เพื่อนของจาตุรนต์ก็เพิ่งพูดว่า ตุลาการทุกวันนี้อยู่ใต้สะดือของอำมาตย์ และนักวิชาการบางคนที่เป็นเพื่อนของจาตุรนต์ก็ออกมาเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ
ถ้าเราจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ น้องชายของทักษิณก็ออกมากดดันศาลว่า จะต้องคืนทรัพย์สินที่ทักษิณมีอยู่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีกลับคืนมา ในทีวีเสื้อแดงและสื่อที่สนับสนุนทักษิณ ก็มีการพูดเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ด่าองค์กรตุลาการ ด่าศาลทั้งที่ยังไม่รู้ว่าคดีจะออกมาอย่างไร
จาตุรนต์จะบิดเบือนว่า สังคมเกือบไม่มีโอกาสได้ยินคำอธิบายชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างไร
ประเด็นที่สาม จาตุรนต์เรียกการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงว่า การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่จาตุรนต์ต้องเข้าใจว่าสังคมก็คงจะมีสติและแยกแยะได้ว่า พวกเขาต่อสู้เพื่อทักษิณหรือเพื่อประชาธิปไตยกันแน่ และสังคมก็มีสิทธิจะเข้าใจได้ว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงก่อนการพิจารณาคดีของทักษิณนั้นเกิดขึ้นเพื่อต้องการกดดันศาล
และทักษิณเองก็เป็นฝ่ายโฟนอินปลุกเร้าเพื่อให้คนเข้ามาร่วมชุมนุมมากๆ ทุกวัน ถ้าการคาดการณ์ว่า อาจจะเกิดความรุนแรงจากฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายไหนเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ จาตุรนต์ลองย้อนไปดูคำพูดของตัวเอง หรือของเพื่อนจาตุรนต์ที่ชื่อภูมิธรรม เวชยชัย ที่เคยข่มขู่ว่าจะเกิดความรุนแรงตอนที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ยังจุดเทียนอยู่ที่สวนลุมฯ และรัฐบาลที่นายจาตุรนต์นั่งอยู่ก็ปล่อยให้มีการจัดตั้งม็อบป่าไม้มาไล่ตีประชาชน
แล้วการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแบบไหนที่ไล่ฆ่าและไล่ตีฝ่ายตรงข้ามทั้งที่เชียงใหม่ อุดรธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ฯลฯ
รัฐบาลที่นายจาตุรนต์สนับสนุนปล่อยให้อันธพาลเข้ามายิงเอ็ม 79 เข้ามาถล่มที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ ทุกวัน และปล่อยให้รัฐบาลที่ตัวเองสนับสนุนใช้ความรุนแรงกับประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค.
ประเด็นที่จาตุรนต์ พูดถึงเรื่องการถูกกล่าวหาว่า ต้องการล้มล้างสถาบัน จาตุรนต์แกล้งหลับหูหลับตาต่อวาจาอันฉวัดเฉวียนที่มีนัยกระทบกระทั่งต่อสถาบันของคนเสื้อแดงบางกลุ่มได้อย่างไร (ผมยอมรับว่า บางกลุ่ม แต่นัยของมันคือการมีอยู่จริง)
การเคลื่อนไหวที่พาดพิงสถาบันผ่านสื่อต่างๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น จาตุรนต์จะคิดว่า เป็นเรื่องที่ถูกเสกสรรค์ปั้นแต่งใส่ร้ายป้ายสี หรือมีอยู่จริง ก็น่าจะเป็นเรื่องที่หาคำตอบได้ไม่ยาก
ผมมีข้อข้องใจและคำถามที่ขอถามไปยังจาตุรนต์ว่า การที่จาตุรนต์และพวกคนเสื้อแดง พูดในทางคาดการณ์ว่าคดีจะออกมาอย่างนี้อย่างนั้น จาตุรนต์กับพวกรู้ผลการตัดสินคดีนี้กันล่วงหน้าแล้วหรืออย่างไร เหตุใดจาตุรนต์และคนเสื้อแดง จึงปล่อยให้สื่อและเวทีของคนเสื้อแดงกดดันศาลและยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังในลักษณะปูทางไปสู่การก่อการจลาจลของประชาชน
นอกจากนี้ขอถามไปยังจาตุรนต์ว่า เหตุใดจึงปล่อยให้มีการชุมนุมก่อนการตัดสินคดีของศาลเช่นนี้ แล้วจะไม่ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการกดดันศาลได้อย่างไร
คดีนี้เป็นเรื่องการยึดทรัพย์ของคนครอบครัวเดียว แล้วทำไมต้องหลอกใช้ประชาชนปลุกปั่นมาเป็นเครื่องมือ และทำไมต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของระบบยุติธรรมและการยึดหลักนิติธรรมของประเทศ
หรือความเชื่อมั่นต่อระบบยุติธรรมและหลักนิติธรรมของประเทศในสายตาของจาตุรนต์ หมายถึงศาลจะต้องตัดสินให้ทักษิณไม่มีความผิดเพียงอย่างเดียว เหมือนที่จาตุรนต์เคยประกาศว่าจะเคารพการตัดสินของศาลในคดียุบพรรค แต่พอไม่เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการก็ออกมาด่าศาล
จาตุรนต์ครับ ผมอยากบอกว่า คุณมันของปลอม และพวก 2 มาตรฐานตัวจริง
surawhisky@hotmail.com