xs
xsm
sm
md
lg

การบินไทยจะซ้ำรอยเจแปนแอร์ไลน์ไหม?

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ข่าวสะเทือนขวัญสะท้านโลกในสัปดาห์นี้ นอกจากเรื่องแผ่นดินไหวที่เฮติจนมีคนตายร่วม 200,000 คนแล้ว อีกเรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่นหรือเจแปนแอร์ไลน์ร้องศาลขอให้ตนเองล้มละลาย

เจแปนแอร์ไลน์เป็นสายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่น เป็นเกียรติศักดิ์ศรีของญี่ปุ่นมาเป็นเวลาช้านาน เป็นสายการบินขนาดใหญ่ที่สุดสายหนึ่งของโลก

เป็นสายการบินที่มีเครื่องบินทันสมัย มีจำนวนมาก มีการบริหารจัดการที่ทันสมัย และกว้างไกลที่สุดสายการบินหนึ่งของโลก

เป็นสายการบินที่มีสินทรัพย์และมีรายได้แต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาล ไม่ห่างกันเท่าใดกับงบประมาณรายได้รายจ่ายประจำปีของประเทศไทย แต่สายการบินยักษ์ใหญ่ระดับนี้ก็ได้ขอล้มละลายไปเรียบร้อยแล้ว

ถามว่าประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่น ไม่ห่วงใย ไม่สนใจ หรือไม่คิดอ่านช่วยเหลือกอบกู้สายการบินแห่งชาติแห่งนี้กันบ้างเลยหรือ? ก็ต้องตอบว่าทั้งประเทศ ทั้งรัฐบาลและชาวญี่ปุ่นล้วนห่วงหวงแหนและคำนึงถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาติ และล้วนต้องการที่จะพิทักษ์รักษาสายการบินแห่งชาตินี้เอาไว้

เป็นความรู้สึกอย่างเดียวกันกับทุกประเทศและประชาชนของทุกประเทศที่มีต่อสายการบินแห่งชาติของตน หากว่าไม่สิ้นหรือไม่เหลือวิสัยจริงๆ แล้ว ก็ไม่มีชาติใดหรือใครไหนที่จะยอมให้สายการบินแห่งชาติของตนล้มละลาย

แต่ทว่าแม้ปานนี้แล้ว สายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่นก็ได้ล้มละลายลงแล้ว มันได้ตั้งคำถามต่อสายการบินแห่งชาติต่างๆ ทั่วโลกว่ามีโอกาสที่จะล้มละลายซ้ำรอยหรือตามไปกับสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่นได้หรือไม่

ไม่ต้องคิดคำนวณอะไรมาก ก็ตอบได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่สายการบินแห่งชาติของชาติอื่นๆ อาจล้มละลายตามหรือซ้ำรอยสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่นก็ได้

และไม่มีข้อยกเว้นสำหรับสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย คือบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงจุดยืนต่อปัญหาการดำรงอยู่และการดับสูญของสายการบินแห่งชาติของไทยว่า จะไม่ยินยอมให้สายการบินแห่งชาติของประเทศไทยต้องปิดกิจการหรือล้มละลายเป็นอันขาด

สาธุ! ขอเทพยดาอารักษ์ซึ่งพิทักษ์รักษาราชอาณาจักรนี้ได้อุ้มชูบำรุงความตั้งใจอันใหญ่หลวงนี้ของนายกรัฐมนตรีให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป และทำให้ได้ดังที่ตั้งใจนั้นเถิด

ใช่ นั่นคือความตั้งใจที่องอาจกล้าหาญและเป็นความตั้งใจที่เด็ดเดี่ยวจริงจัง แต่ทว่าเมื่อคำนึงถึงตัวเราเองแล้ว ก็เกรงว่าความตั้งใจนั้นจะรักษาไว้ได้สักเพียงใด

เพราะประเทศไทยและระบบเศรษฐกิจไทย ตลอดจนฐานะของสายการบินแห่งชาติของไทยสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ พลังเงินและพลังอำนาจในการค้ำจุนช่วยเหลือก็ด้อยกว่าญี่ปุ่นมาก ทั้งปัญหาที่ดำรงอยู่ก็หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าสายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่นหลายเท่า

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าวิตกอย่างยิ่งว่าการบินไทย สายการบินแห่งชาติที่บรรพบุรุษไทยสร้างไว้ให้กับแผ่นดินและคนไทย จะสามารถดำรงคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่?

สายการบินแห่งชาติสายนี้เคยเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศและคนไทยมาช้านาน เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่สร้างรายได้ให้กับแผ่นดินจำนวนมากในแต่ละปี เป็นหน้าเป็นตาและเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติมาเป็นเวลาช้านาน แต่สิ่งเหล่านี้มันได้สิ้นสลายไปแล้ว ที่เด่นชัดก็คือหมดสิ้นไปตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา

นักการเมืองโคตรโกงได้ถือเอาสายการบินแห่งชาติสายนี้เป็นแหล่งทำมาหากินในการปล้นสะดมชาติและประชาชน ยกวงศาคณาญาติและพวกพ้องเข้ามายึดครองครอบงำและปล้นสะดมสายการบินแห่งชาตินี้อย่างครึกโครมและอำมหิตที่สุด

ที่ว่าอำมหิตก็เพราะทั้งปล้นและฆ่าเจ้าทรัพย์ไปพร้อมกัน

ที่ว่าฆ่าเจ้าทรัพย์ก็เพราะมีการตั้งสายการบินแห่งชาติเพิ่มขึ้นมาอีกสายหนึ่ง เป็นสายการบินประเภทต้นทุนต่ำ แล้วให้อภิสิทธิ์มากหลาย อิงแอบเกาะกินเอาเลือดเนื้อของสายการบินแห่งชาติเดิมไปเป็นของสายการบินแห่งใหม่

ทรัพยากรอันมีค่าของสายการบินเดิม รวมถึงเส้นทางบินที่มีรายได้ดีถูกผ่องถ่ายไปให้สายการบินใหม่ โอนย้ายทรัพยากรบุคคลที่มีฝีมือไปสายการบินใหม่ และเบียดบังเบียดเบียนเพื่อสนับสนุนสายการบินใหม่โดยใช้รายจ่ายของสายการบินเก่า

เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้สายการบินใหม่เติบโตมีกำไร และบอนไซสายการบินเก่าให้ผอมโซแห้งเหี่ยว เพื่อให้ล้มละลายตายไปในที่สุด

ครั้นทำการจนสายการบินใหม่เข้มแข็งเกรียงไกรแล้วก็ผ่องถ่ายขายให้กับต่างชาติ นี่เรียกว่ากระบวนการฆ่าเจ้าทรัพย์

ที่ว่าปล้นทรัพย์คือสายการบินแห่งชาติก็เพราะว่า มีการทุจริตฉ้อฉลปล้นสะดมอย่างครึกโครมยิ่งกว่ายุคไอ้เสือเอาละวา

ตั้งแผนการซื้อเครื่องบินแบบมั่วยกเมฆทั้งที่รู้ว่าขาดทุน แต่สร้างตัวเลขเป็นกำไร เพื่ออ้างเป็นเหตุผลในการซื้อเครื่องบินราคาแพง โดยมีเงินใต้โต๊ะตกหล่นแก่นักการเมือง ผลที่เกิดขึ้นคือเจ๊งนับหมื่นล้านในเวลาแค่ปีเดียว และเกิดผลเสียหายต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้

กระบวนการจัดซื้อทุกเรื่องทุกระบบทุกรายการแพงลิบลิ่ว เพราะมีการเรียกเงินใต้โต๊ะเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองในอัตราสูงลิ่วถึง 35-40% การจัดหาทั้งปวงจึงได้ของเลวราคาแพง จนเป็นที่เสื่อมเสียและเป็นที่ครหานินทาไม่เคยว่างเว้น

เกิดกระบวนการทุจริตในการเก็งราคาน้ำมันและในการฉ้อฉลจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน จากการจำหน่ายตั๋วในต่างประเทศ จนเกิดผลขาดทุนปีละนับหมื่นล้านบาท

นักการเมืองโกงได้ ผู้บริหารก็โกงได้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็โกงได้ เกิดลัทธิเอาอย่างในการโกงและปล้นสะดมสายการบินแห่งชาตินี้อย่างคึกคักครึกโครม

บอร์ดบางคนตั้งธุรกิจค้าของเถื่อน ลักลอบขนสินค้าราคาแพงจากต่างประเทศ ใช้อภิสิทธิ์ขนของเถื่อนน้ำหนักเกินจนเครื่องบินจะตกวันไหนก็ไม่มีใครรู้ และใช้อำนาจขนของโดยไม่เสียภาษีต่อเนื่องเป็นเวลานับ 2 ปี ถึงขั้นเปิดร้านขายของหนีภาษีอย่างโจ๋งครึ่ม

เพื่อปกปิดความชั่วช้าสารเลว การเล่นพรรคเล่นพวกก็ตามมา มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายพนักงานโดยไม่เป็นธรรมอย่างทั่วด้านเพื่อปกปิดข้อมูลและปิดหูปิดตาประชาชน และส่งเสริมสนับสนุนให้พวกพ้องของผู้มีอำนาจเข้าเสวยสุขและครองตำแหน่งที่มีอำนาจอย่างทั่วด้าน

ขบวนการทั้งหมดแทนที่จะเป็นขบวนการบริหารเพื่อให้สายการบินแห่งชาติมีความเจริญรุ่งเรือง จึงเป็นขบวนการปล้นสะดมที่ครึกโครมระดับโลก

ผลขาดทุนและปัญหาทางการเงินจึงเกิดขึ้น และมีผลขาดทุนสะสมต่อเนื่องมาโดยลำดับ เป็นผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในท่ามกลางเสียงก่นด่าบรรดาผู้มีอำนาจที่มีอภิสิทธิ์นั่งเครื่องบินฟรีทั้งโคตรตระกูลตลอดกาลนาน

ผลขาดทุนเพิ่มพูนขึ้นจากหลายพันล้านเป็นหลายหมื่นล้าน และทำให้เกิดภาวะขาดเงินหมุนเวียน หรือที่เรียกว่าขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนต้องมีการออกหุ้นกู้กันไปแล้ว

แม้ปานนั้นแล้วก็มิได้สำนึก ยังตั้งโครงการจัดซื้อเครื่องบินกันจ้าละหวั่น และซื้อกันสารพันสารพัดยี่ห้อสารพัดรุ่น ตามแรงแห่งเงินสินบนใต้โต๊ะ จนก่อสภาพวิปริตในการบริหารสายการบินขึ้น เพราะเครื่องบินแต่ละแบบแต่ละรุ่นจำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไหล่สำรอง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ในยามฉุกเฉินทุกเมื่อ

เพราะเหตุที่สายการบินแห่งชาติมีเครื่องบินร้อยพ่อพันแม่ สารพัดยี่ห้อ สารพัดแบบ สารพัดรุ่น การดำรงสต็อกอุปกรณ์อะไหล่จึงมากมายมหาศาลยิ่งกว่าสายการบินใดในโลก

ทำให้ผลขาดทุนยิ่งเพิ่มพูนขึ้น และทำให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องยิ่งรุนแรงขึ้น

พูดแบบชาวบ้านก็คือเงินที่จะจับจ่ายใช้สอยประจำวันก็ไม่พอ จนเกิดภาวะกดดันอย่างยิ่งต่อสายการบินแห่งชาติ เป็นเหตุให้ข่าวคราวเรื่องล้มละลายหรือปิดกิจการหลุดออกสู่สาธารณะเป็นระยะๆ

จนนายกรัฐมนตรีต้องออกมายืนยันเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า จะไม่มีการปิดสายการบินแห่งชาตินี้เป็นอันขาด ซึ่งได้อนุโมทนาสาธุการไปแล้ว แต่ก็เกรงว่าสองแขนอันน้อยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะค้ำยันสายการบินแห่งชาตินี้ต่อไปได้ไหวหรือไม่

เพราะล่าสุดนี้มีการขอให้กระทรวงการคลังกู้ยืมเงินมาเสริมสภาพคล่อง หรือนัยหนึ่งก็คือกู้เงินมาจับจ่ายใช้สอยรายวันนับหมื่นล้านบาท แต่ถูกปฏิเสธจากกระทรวงการคลัง โดยข้ออ้างว่าไม่มีแผนปฏิบัติงานและแผนรายได้รายจ่ายที่ชัดเจน

โอ้พระเป็นเจ้า! สายการบินแห่งชาติที่มีผลขาดทุนร่วมแสนล้านบาท และขาดสภาพคล่องหลายหมื่นล้านบาท และมีภาพลักษณ์ที่ฉาวโฉ่เน่าเหม็นเช่นนี้ ไม่มีแม้กระทั่งแผนรายได้และรายจ่ายที่ชัดเจน จนต้องถูกกระทรวงการคลังปฏิเสธการจัดหาแหล่งเงินกู้

วิกฤตแล้ว! ท่านนายกรัฐมนตรีที่เคารพ เพื่อจะธำรงความตั้งใจของรัฐบาลดังที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ ย่อมไม่มีทางอื่นนอกจากรีบปรับปรุงการบริหารสายการบินแห่งชาตินี้ให้พ้นจากการปล้นสะดมและจัดให้คนดีมีฝีมือทั้งคณะเข้าไปดูแลรับผิดชอบโดยพลัน ก่อนวันแห่งการล่มสลายตามรอยเจแปนแอร์ไลน์จะเกิดขึ้น!
กำลังโหลดความคิดเห็น