นราธิวาส – ผกก.สภ.รือเสาะ เปิดกล่องรับบริจาดช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติชาวเฮติขึ้นที่ใต้อาคาร สภ.รือเสาะ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาติดต่อราชการ เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นยอดเงินบริจาดทั้งสิ้นเกือบ 10,000 บาท
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีการให้ช่วยเหลือประชาชน ประเทศสาธารณรัฐเฮติ ซึ่งประสบเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 53 ที่ผ่าน ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.0 ริกเตอร์ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและติดใต้ซากตึกและอาคารเป็นจำนวนมาก จนทำให้ประเทศต่างๆ ได้รวมแรงใจกันให้ความช่วยเหลือ ทั้งการจัดส่งหน่วยกู้ภัยและช่วยบริจาดเงิน อาหารรวมทั้งยารักษาโรค แต่ปัจจุบันพบว่าสิ่งของบริจาดต่างๆนั้น ยังไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการของประชาชน จนส่งผลทำให้ประชาชนได้มีการปล้นสะดม เพียงเพื่อได้สิ่งที่ต้องการใช้ในการประทังชีวิต
ล่าสุด พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้มีการจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติชาวเฮติขึ้น ด้วยการเปิดกล่องรับบริจาดที่บริเวณใต้อาคาร สภ.รือเสาะ และได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาติดต่อราชการ รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมาร่วมบริจาคเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเปิดกล่องรับบริจาดเงินในครั้งนี้ได้ดำเนินการมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว และพบว่ามียอดเงินที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันบริจาคเป็นเงินทั้งสิ้นเกือบ 10,000 บาท
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ ยังได้เตรียมร่วมกับนายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ เพื่อขยายโครงการดังกล่าวสู่พื้นที่ 9 ตำบลในพื้นที่ อ.รือเสาะ หลังได้รับการประสานจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ให้ขยายโครงการดังกล่าวไปเปิดกล่องรับบริจาด ณ ที่ทำการ อบต.แต่ละแห่ง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาบริจาดได้ที่ สภ.รือเสาะ ได้มีส่วนร่วมในการบริจาดเงินเพื่อช่วยเหลือชาวเฮติได้ ณ ที่ทำการ อบต.แต่ละแห่ง ตามคำร้องขอของผู้นำ ที่อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ผกก.สภ.รือเสาะ ได้เปิดเผยถึงโครงการดังกล่าวว่า ได้รับการเยียวยาพอสมควรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ แต่เมื่อพบเห็นภาพอันสะเทือนใจที่เกิดขึ้นที่สาธารณรัฐเฮติ ผ่านทางโทรทัศน์รู้สึกเศร้าใจ ข้าวไม่มี น้ำไม่มี แถมคนต้องแย่งชิงอาหารกัน และจากการเดินทางไปสัมผัสและพบปะกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ต่างเห็นพ้องที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงได้ตัดสินใจดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้น ซึ่งชาวบ้านรือเสาะทั้งไทยพุทธและมุสลิมมีจิตริเริ่มที่จะช่วยกันบริจาคนั้น ซึ่งส่วนหนึ่งเพื่อผลบุญจะส่งผลทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เพราะปัจจุบันชาวบ้านไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพื่อให้ความสงบสุขกลับคืนมาเหมือนในอดีต อนึ่งสำหรับโครงการดังกล่าวนี้ เป็นเพียงแห่งเดียวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีการให้ช่วยเหลือประชาชน ประเทศสาธารณรัฐเฮติ ซึ่งประสบเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 53 ที่ผ่าน ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.0 ริกเตอร์ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตและติดใต้ซากตึกและอาคารเป็นจำนวนมาก จนทำให้ประเทศต่างๆ ได้รวมแรงใจกันให้ความช่วยเหลือ ทั้งการจัดส่งหน่วยกู้ภัยและช่วยบริจาดเงิน อาหารรวมทั้งยารักษาโรค แต่ปัจจุบันพบว่าสิ่งของบริจาดต่างๆนั้น ยังไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการของประชาชน จนส่งผลทำให้ประชาชนได้มีการปล้นสะดม เพียงเพื่อได้สิ่งที่ต้องการใช้ในการประทังชีวิต
ล่าสุด พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้มีการจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติชาวเฮติขึ้น ด้วยการเปิดกล่องรับบริจาดที่บริเวณใต้อาคาร สภ.รือเสาะ และได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาติดต่อราชการ รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมาร่วมบริจาคเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเปิดกล่องรับบริจาดเงินในครั้งนี้ได้ดำเนินการมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว และพบว่ามียอดเงินที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันบริจาคเป็นเงินทั้งสิ้นเกือบ 10,000 บาท
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ ยังได้เตรียมร่วมกับนายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ เพื่อขยายโครงการดังกล่าวสู่พื้นที่ 9 ตำบลในพื้นที่ อ.รือเสาะ หลังได้รับการประสานจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ให้ขยายโครงการดังกล่าวไปเปิดกล่องรับบริจาด ณ ที่ทำการ อบต.แต่ละแห่ง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาบริจาดได้ที่ สภ.รือเสาะ ได้มีส่วนร่วมในการบริจาดเงินเพื่อช่วยเหลือชาวเฮติได้ ณ ที่ทำการ อบต.แต่ละแห่ง ตามคำร้องขอของผู้นำ ที่อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ผกก.สภ.รือเสาะ ได้เปิดเผยถึงโครงการดังกล่าวว่า ได้รับการเยียวยาพอสมควรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ แต่เมื่อพบเห็นภาพอันสะเทือนใจที่เกิดขึ้นที่สาธารณรัฐเฮติ ผ่านทางโทรทัศน์รู้สึกเศร้าใจ ข้าวไม่มี น้ำไม่มี แถมคนต้องแย่งชิงอาหารกัน และจากการเดินทางไปสัมผัสและพบปะกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ต่างเห็นพ้องที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงได้ตัดสินใจดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้น ซึ่งชาวบ้านรือเสาะทั้งไทยพุทธและมุสลิมมีจิตริเริ่มที่จะช่วยกันบริจาคนั้น ซึ่งส่วนหนึ่งเพื่อผลบุญจะส่งผลทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เพราะปัจจุบันชาวบ้านไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพื่อให้ความสงบสุขกลับคืนมาเหมือนในอดีต อนึ่งสำหรับโครงการดังกล่าวนี้ เป็นเพียงแห่งเดียวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส