xs
xsm
sm
md
lg

แม่ชาวชุมพรเผยลูกยังกลับไทยไม่ได้-หวั่นร้านที่เฮติถูกปล้น วอน! รบ.ช่วยคนไทยด้วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชุมพร-3 คนไทย ชาวจังหวัดชุมพร เจ้าของร้านอาหารที่รอดตายราวปาฏิหาริย์ จากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ โทรศัพท์ถึงแม่ บอกยังไม่กลับเมืองไทย หวั่นกลัวถูกปล้นสะดมทรัพย์สิน ลูกสาวบอก ความเป็นอยู่ลำบากมาก วอนทางการไทย ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนไทยเป็นการด่วนด้วย

นางเชาวณี โสภณ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 หมู่ 5 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร อาชีพแม่ค้าขายกล้วยย่างในตลาดสดอำเภอสวี แม่ของ 3 คนไทย ที่เข้าไปเปิดร้านอาหารอยู่ในประเทศเฮติ และรอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เปิดเผยว่า สามีตนเสียชีวิตนานแล้ว ปัจจุบันมีลูกทั้งหมด 7 คน ประกอบอาชีพอยู่ใน จ.ชุมพร 3 คน รับราชการอยู่เรือนจำบางขวาง 1 คน

อีก 3 คน ไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่ประเทศเฮติ ชื่อ นายธานินทร์ จีนชูแก้ว อายุ 35 ปี,นางสร้อยทอง จีนชูแก้ว อายุ 30 ปี และนางถนอมศรี จีนชูแก้ว อายุ 38 ปี ซึ่งนางถนอมศรี ได้สามีเป็นชาวอเมริกา และย้ายไปอยู่ ประเทศเฮตินานประมาณ 2 ปีแล้ว โดยลูก ๆ ทั้ง 3 คน ไปประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นั่นเป็นอาคาร 2 ชั้น ชื่อ “ร้านลูกขนุน” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนางถนอมศรี ลูกสาวที่เป็นเจ้าของร้านดังกล่าวนั่นเอง

นางเชาวนี กล่าวต่อไปว่า หลังทราบว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเฮติ ตนตกใจมาก เนื่องจากคิดว่าลูก ๆ ทั้ง 3 คน ได้รับอันตราย เพราะมีคนตายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งพื้นที่เกิดเหตุ ก็ไม่ไกลจากร้านอาหารของลูกตนมากนัก และตนไม่สามารถติดต่อ หรือทราบข่าวคราวจากลูกทั้ง 3 คน ได้เลย เพราะการสื่อสารล่มทั้งประเทศ นั่งร้องไห้ถึงลูกทุกวันทุกคืน จนคนที่มาซื้อกล้วยย่างบอกว่า ตนเป็นอะไร

นอกจากนั้น ตนยังได้จุดธูปเทียนไหว้ต่อรูปเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” และหลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน อ.สวี จ.ชุมพร ภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองให้ลูก ๆ ปลอดภัยทุกคน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2553

ลูกชายชื่อ นายธรรมรงค์ จีนชูแก้ว อายุ 33 ปี รับราชการอยู่ที่เรือนจำบางขวาง กรุงเทพฯ โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า ทราบข่าวจากสถานทูตไทยที่กรุงเทพฯ ว่า ลูกของตนทั้ง 3 คน ปลอดภัยดี ทำให้ตนถึงกับร้องไห้โฮเลยทีเดียว

เมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ลูกสาวชื่อ นางถนอมศรี จีนชูแก้ว เจ้าของร้านอาหารในประเทศเฮติ โทรศัพท์มาหาตน เมื่อได้ยินเสียงว่า เป็นลูกสาวตนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เพราะความดีใจที่ลูกยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ โดยนางถนอมศรีบอกว่า แม่ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ ทั้ง 3 คน ปลอดภัย บาดเจ็บกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนร้านอาหารได้รับความเสียหายไม่มาก ยังสามารถเปิดกิจการได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เพราะต้องรอให้ทางการเฮติเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน สำหรับความเป็นอยู่ค่อนข้างจะลำบากมาก แต่ก็ยังไม่กลับเมืองไทย ต้องอยูไปก่อน เพราะได้ลงทุนเปิดร้านอาหารหมดเงินไปเป็นจำนวนมากแล้ว ถ้ากลับบ้านตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรเหลือติดตัว

นางถนอมศรี ลูกสาว ยังบอกด้วยว่า ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือ การปล้นสะดมทรัพย์สินต่าง ๆ โดยเฉพาะคนต่างเชื้อชาติ ตนเคยถูกกลุ่มคนในเฮติฮือเข้าไปงัดร้าน แต่ถูกสามีชาวอเมริกา รวมทั้งญาติ ๆ และลูกน้องกว่า 10 คน ช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้ ทำให้รอดจากการถูกปล้นสะดม

แต่สถานการณ์ดังกล่าว ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ต้องปิดบ้านตลอด พร้อมวางกำลังเฝ้าดูแลร้านกันอย่างดี มิฉะนั้นอาจจะต้องหมดตัวซ้ำอีกแน่ ขณะที่ทุกคนต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัว แต่ก็ต้องอยู่เพราะจำเป็น ตนจึงขอให้ทางการไทยเข้าไปช่วยดูแลคนไทยที่นั่นด้วย

นางเชาวนี กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ตนยังใช้รถเข็นขายกล้วยย่างอยู่บริเวณริมถนนหน้าตลาดสดอำเภอสวี เป็นประจำทุกวัน ผ่านกว่า 20 ปีแล้ว มีคนรู้จักตนไปทั่วทั้งอำเภอ สามารถเลี้ยงลูก ๆ มาได้ถึง 7 คน มีงานทำกันทุกคนแล้ว ซึ่งลูกทุกคนก็บอกให้หยุดขายตนก็ไม่หยุด เพราะหยุดแล้วไม่รู้จะไปทำอะไร ตนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ เพราะจะเหนื่อย

ตอนนี้ต้องมาเสียลูก ๆ ที่ไปประกอบอาชีพอยู่ในประเทศเฮติพร้อมกันถึง 3 คน หัวอกคนเป็นแม่คงทำใจไม่ได้ และหลังจากมีสื่อมวลชนมาเสนอข่าวเกี่ยวกับตน ทำให้ขณะนี้ตนรับโทรศัพท์จากสำนักข่าวต่าง ๆ จนสายแทบไหม้ เพื่อขอสัมภาษณ์สดทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และวิทยุ ตนขอขอบคุณในความห่วงใยของคนไทยทุกคนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น