xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลร้าวเด็กเติ้งžบี้ยุบปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า สถานการณ์ทาง การเมืองตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือน ก.พ.จะรุนแรงเพียงใดขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร , กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดินป่าสงวน เขายายเที่ยง ซึ่งทั้งสามประเด็นไม่ว่าจะมีผลสรุปอย่างไรจะมีผลทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างแน่นอน
นายวัชระ ระบุว่าถ้ามีการยึดทรัพย์จริงเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดความรุนแรง เพราะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณมีบทเรียนแล้วว่าการใช้ความรุนแรง ไม่สามารถเอาชนะใจประชาชนได้ ดังนั้นการแสดงออกที่จะทำได้มากที่สุดคือ การแสดงถึงความไม่ชอบมาพากลและการใช้หลักเกณฑ์ 2 มาตรฐาน
พรรคประเมินว่าประเด็นที่จะสร้างแรงกระเพื่อมได้มากที่สุดคือประเด็นเงินบริจาค 258 ล้านบาท เพราะเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์และสังคมเฝ้าดูจำนวนมาก ฉะนั้นพรรคจึงขอเรียกร้องไปยัง กกต. ให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุด โดยต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับการยุบพรรคการเมืองอื่นที่ผ่านมา โดยให้ยึดหลักกฎหมายมากกว่าหลักรัฐศาสตร์ เราไม่ได้กดดัน กกต. แต่เป็นการเรียกร้องของคนทั้งประเทศที่ต้องการเห็นความเป็นธรรม
สำหรับกรณีที่เขายายเที่ยงนั้นพรรคเชื่อว่า พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรีน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว และหวังว่าจะมีคำตอบออกมาโดยเร็ว เพราะอาจมีการขับเคลื่อนทางการเมืองของประเทศในเรื่อง 2 มาตรฐาน
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ว่าที่นายวัชระ กรรณิกา ออกมาวิเคราะห์ว่า การตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคม โดยได้เรียกร้องให้ กกต.ใช้มาตรฐานเดียวกันโดยยึดหลักนิติศาสตร์ มากกว่าหลักรัฐศาสตร์ตนเห็น่า นายวัชระไม่ควรที่จะออกมายกเรื่องนี้เป็นประเด็น เพื่อขยายผลทางการเมืองผสมโรงไปกับแนวร่วมของคนเสื้อแดง ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน เพราะผลการตัดสินของกกต.จะออกมาอย่างไร การพูดพาดพิงออกไป ควรคำนึงถึงระบบขององค์กรและความเหมาะสม พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะยอมรับ และสมาชิกพรรคที่มีอยู่กว่า 5 ล้านคนก็จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวตามที่นายวัชระได้ประเมินไว้
สมาชิกทุกคน มีจุดยืนที่ชัดเจนเหมือนกับแกนนำของพรรค ที่ยึดมั่นในระบบและตัวบทกฏหมายของชาติบ้านเมือง และพร้อมที่จะสนับสนุนให้กกต.ทำหน้าที่ โดยยึดหลักความถูกต้อง และผลประโยชน์โดยรวมของชาติบ้านเมือง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์โชคร้ายถูก กกต.ชี้มูลมีมติให้ยุบพรรค พรรคก็พร้อมที่จะไปต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่เคลื่อนไหวตีรวน หรือดิ้นรนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้หลุดพ้น จากคดียุบพรรค เหมือนที่พรรคการเมืองบางพรรคกล่าวหา และไม่เคยมีสมาชิกของพรรคออกมากดดันการทำหน้าที่ของกกต. แต่ทุกอย่างปล่อยให้เป็นอิสระในการพิจารณาตามข้อเท็จจริง
วันเดียวกัน นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังวสือต่อ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เพื่อทวงถามการิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ โดยขู่ว่าภายในเดือน ม.ค.นี้ถ้า กกต.ยังไม่ได้ข้อสรุปจะหารือให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อยื่นถอดถอน กกต.
ด้านนายอภิชาติ กล่าวว่าได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 8-9 คน เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ โดยประชุมไปแล้ว 2 ครั้งเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย ส่วนประเด็นข้อเท็จจริงจะหารือกันอีกครั้ง และการที่พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือเร่งรัดมาไม่ถือเป็นการกดดันและไม่รู้สึกถอดใจ
ขณะเดียวกันนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้นำแนวร่วม 100 คน ไปยังสำนักงาน กกต.เพื่อกดดัน กกต.ในการพิจารณาคดีเงินบริจาค พรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท โดยพยายามทวงถามระยะเวลาในการพิจารณาของ กกต. โดยมี นายกฤช เอื้อวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งขึ้นมาพิจารณากรณีดังกล่าวมาคอยชี้แจง
นายอริสมันต์ ขู่ว่า ถ้าสรุปว่าไม่ยุบ ก็ให้กกต.ไปเสี่ยงชีวิตกับประชาชนโดยเฉพาะนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เดินตลาดไม่ได้แน่
กำลังโหลดความคิดเห็น