xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ 5 ปมยึดทรัพย์"แม้ว" อัยการมั่นใจหลักฐาน "มาร์ค"เบรกแดงป่วนคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - อัยการมั่นใจ พยานหลักฐานการกระทำผิดของ "นช.แม้ว" ที่แสดงต่อศาล จะสามารถยึดทรัพย์ได้ เตรียมร่างคำแถลงปิดคดีตอกย้ำความผิด 5 ประเด็นให้ศาลเห็นพฤติกรรมที่ชัดเจน "มาร์ค" ระบุถ้าแก๊งแดงก่อเหตุรุนแรงวันพิพากษาเท่ากับชี้ให้เห็นว่าทำเพื่อประโยชน์ "ทักษิณ" ด้าน "พัลลภ" ขู่คำตัดสินคดียึดทรัพย์จะเป็นชนวนสำคัญที่จะนำไปสู่เหตุรุนแรง แต่ฟันธงเกมแตกหักไม่ใช่ปีนี้ แย้ม "นช.แม้ว" กลับภายใต้เงื่อนไขพิเศษ ด้านก๊กแดงกำหนดปฏิทินป่วนเมืองยาวเหยียดตั้งแต่ 15-24 ม.ค.

นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ กล่าวว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาการเมือง นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น. โดยให้คู่ความสองฝ่าย ยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วันนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา นั้นคณะทำงานอัยการ เตรียมนัดประชุมเพื่อร่างคำแถลงปิดคดี ส่งต่อศาลฎีกาฯ ภายในกำหนดนัดแล้ว

สำหรับแนวทางการร่างคำแถลงปิดคดีจะตอกย้ำให้ศาลเห็นภาพพฤติการณ์กระทำผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่อัยการได้เคยบรรยายไว้ในคำฟ้องตั้งแต่แรก รวม 5 ประเด็น อาทิ การเปลี่ยนแปลงค่าสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นภาษีสรรพสามิต , การปล่อยกู้เงินของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือเอ็กซิมแบงค์ 5,000 ล้านบาทให้ประเทศพม่า ซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง และพวกพ้องจนร่ำรวยผิดปกติ ทำให้รัฐเสียหาย และยักย้ายถ่ายเทไปไว้ ในความครอบครองของผู้คัดค้าน 22 ราย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ได้ตรวจสอบ และยึดอายัดทรัพย์สินไว้จำนวนหนึ่งแล้ว

อัยการมั่นใจหลักฐานยึดทรัพย์ "แม้ว"ได้

นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังใช้เวลาว่าความคดีนี้มาปีเศษ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้เสนอต่อศาลในชั้นพิจารณาไต่สวน แต่ศาลจะมีคำพิพากษายังไงเป็นดุลยพินิจขององค์คณะ ทั้งนี้หากศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ ผู้คัดค้านรายใดแล้ว ตามขั้นตอนกฎหมายหมายศาลก็จะออกหมายบังคับคดีให้เจ้าของทรัพย์ส่งทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองส่งมอบทรัพย์นั้น ส่วนกรณีที่ทรัพย์นั้นอยู่ในความครอบครองของสถาบันการเงินก็จะส่งหมายไปยังสถาบันการเงินนั้นส่งมอบให้ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ ติดตามยึดทรัพย์ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งการบังคับคดีสามารถทำได้ทันที เพราะถือว่าคดีที่พิจารณาโดยศาลฎีกา ฯ สิ้นสุดแล้ว เจ้าของทรัพย์คงไม่สามารถไปฟ้อง เป็นคดีอื่นได้อีก

"คดีนี้อัยการมั่นใจตั้งแต่ยื่นคำร้องแล้ว แต่ต้องรอดูว่าศาลจะมีคำพิพากษา ในคดีอย่างไร จะพิจารณาว่าทรัพย์สินรายการใด ที่อยู่ในชื่อของผู้คัดค้านคนใดว่า เป็นทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ภรรยาหรือไม่ และจะมีคำสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นอย่างไร ซึ่งเป็นดุลยพินิจขององค์คณะ"

"แก้วสรร"ให้ทุกฝ่ายจบหลังมีคำตัดสิน

ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการ คตส. กล่าวว่า ไม่อยากมองว่าคำตัดสินคดียึดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษีณ และพวก จำนวน 7.6 หมื่นล้าน ในวันที่ 26 ก.พ.นี้จะเป็นจุดแตกหักทางการเมืองหรือไม่ ส่วนตัวอยากเสนอในทางตรงกันข้าม เพราะไม่ว่าประเทศไหนๆ การเมืองกับคดีความ ต้องแยกออกจากกัน การเลือกตัวนายกรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับความเห็นส่วนบุคคล แต่ใครทำถูกหรือผิดต้องไปว่ากันที่ศาล สาเหตุที่บ้านเมืองไทยเละอยู่ทุกวันนี้เพราะเอาการเมืองไปปนกับคดีความ จึงอยากถามดังๆ กับทุกฝ่าย จะเอาคำพิพากษาคดีนี้เป็นเงื่อนไขความสมานฉันท์หรือไม่

"ถ้าศาลว่าไม่ผิดไม่ยึดเหลืองต้องหยุด ถ้าศาลตัดสินว่าผิดว่ายึดแดงก็ต้องเลิก ถามว่าเอาไหม กล้ากันหรือเปล่า ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสให้ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ ศาลเขาก็ทำตามหน้าที่ หากคุณไม่เคารพศาล คุณจะเคารพแต่ตัวเองใช่ไหม หรือจะให้คุณทักษิณกับคุณสนธิ (ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ) ถือปืนคนละกระบอกแล้วเอาไปดวลกัน ทำไมต้องเอาบ้านเมืองไปฝากไว้กับคนแค่สองคนนี้ด้วย"

"มาร์ค"ชี้ถ้ารุนแรงเท่ากับทำเพื่อ"แม้ว"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี การพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 26 ก.พ. เป็นเรื่องของศาลรัฐบาลไม่ได้ไปก้าวก่าย

ส่วนที่สันนิษฐานกันว่าจะทำให้การเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นนั้น ถ้าเป็นจริง เป็นความชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนจะต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในหรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่การข่าว เพราะว่าที่ผ่านมาบางครั้งก็ไม่ได้ประกาศ อย่างเช่นกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเขายายเที่ยง พอการข่าวรายงานมาว่าไม่น่าจะมีเหตุรุนแรงเราก็ไม่ได้ประกาศ

อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องพยายามขจัดเงื่อนไขที่มีเหตุมีผล อยู่บนหลัก ไม่ใช่เป็นเรื่องไปตามใจใคร แต่ว่าอันไหนที่เขาชี้มาแล้วมันมีเหตุผลมันถูก มีการวินิจฉัยก็ต้องดำเนินการ เพราะตนได้ยืนยันมาตลอดว่าตนดูที่เรื่องไม่ได้ดูที่คน

"สุเทพ" ไม่ห่วงก๊กแดงป่วนวันยึดทรัพย์

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษา คดีคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดเหตุรุนแรงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ว่า ตนไม่ได้วิตกกังวลอะไร ชีวิตมาถึงขั้นนี้แล้ว คิดอย่างเดียวที่จะปฏิบัติหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ที่สุด และประชาชนทั้งหลายก็ไม่ต้องไปวิตกกังวลอะไร ซึ่งการพิจารณาคดีดังกล่าวนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม เราอย่าไปยึดติดว่าถ้าพิจารณาคดีของคนนี้แล้วจะสำคัญกว่าคนนั้น เป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นปัจจัยเร่งเร้าให้เกิดสถานการณ์ความเคลื่อนไหว ทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าตนเคยบอกแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดปัญหา หรือกรณีใดที่คนเห็นไม่ตรงกัน ก็จะมีขั้นตอน มีวิธีการ ในการแก้ไขปัญหาตามครรลอง ระบอบประชาธิปไตยของรัฐที่ยึดกฎหมายเป็นหลักในการปกครองบ้านเมือง และที่สำคัญที่ทำกันทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของประชาชนเจ้าของประเทศทั้งสิ้น ซึ่งเราก็ต้องมั่นใจในระบบของเรา อย่าไปมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดผวา วิตกกังวล ประเทศไทยต้องอยู่ได้ บ้านเมืองเราต้องอยู่ได้ เราต้องมั่นใจ

ส่วนที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นด้วยที่จะมีการเจรจากัน นายสุเทพ กล่าวว่า บังเอิญนายพิชัย ไม่ได้เสนอกับตน จึงไม่ทราบว่ามีรายละเอียดอย่างไร

กองทัพไม่ยุงถ้าชุมนุมอย่างสงบ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก การชุมุนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หากร่วมชุมนุมโดยสันติตามกฎหมาย ไม่ปลุกระดมเป็นไปตามสิทธิคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าร่วมชุมนุมแล้วมีปัญหาส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ไม่ว่าเศรษฐกิจ หรือความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้ จากการประเมินผู้ชุมนุมบอกว่าจะชุมนุมอย่างสันติ ดังนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจดูแล เว้นแต่รัฐบาลประเมินว่าจำเป็นต้องให้ทหาร เข้าช่วยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ร้องขอมาแล้วกองทัพจะส่งกำลังไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องรอรัฐบาลสั่งการ แต่ดูสถานการณ์ขณะนี้แล้วไม่มีอะไร เพราะสภาพสังคมทั่วไปตอนนี้สงบเรียบร้อยดี คิดว่าหากเป็นอย่างนี้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้

"แม้ว"กลัวยึดทรัพย์ใช้ยุทธวิธีต่อสู้ 2 หน้า

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเสนอเงื่อนไขทางออกของล้านเมืองเป็นบัญญัติ 5 ประการของ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นสัญญาณจากนายใหญ่ให้มาเคลื่อนไหว เพื่อให้หลุดพ้นจากวิบากกรรม ที่กำลังประสบอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ศาลฏีกาฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทในวันที่ 26 ก.พ. ก็ยิ่งทำให้นายใหญ่หวั่นวิตกว่าจะถูกยึดทรัพย์ จึงได้เสนอยุทธวิธีในการต่อสู้ 2 หน้า คือทั้งแบบบู้และบุ๋น

โดยแนวทางบู้ ก็กำหนดให้คนเสื้อแดง เร่งไฟสุมขอนจัดการชุมนุมสร้างประเด็นใช้ความรุนแรงจนถึงขั้นแตกหักเพื่อเผด็จศึกรัฐบาลให้ได้ทั้งในสภาและนอกสภา คือใช้การชุมนุมบนท้องถนนนอกสภาและเปิดเกมรุกในสภาด้วยการยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจควบคู่กันไป

"พัลลภ" ระบุเกมแตกหักไม่เกิดในปีนี้

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นชนวนสำคัญที่จะนำไปสู่ความรุนแรงเพราะควรต้องแยกทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณออกมาจากทรัพย์ที่มีอยู่ดั้งเดิม และของเครือญาติ ไม่ใช่ไปยึดทั้งหมด 7.6 หมื่นล้านบาท

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ถึงการเคลื่อนไหวหลังจากนี้จะจากนี้จะทำอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ได้คุยล่าสุดในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปกัมพูชา ท่านโทรมาบอกว่า พี่ มันจะเอาเอฟ 16 เล่นผม ส่วนเรื่องคดียึดทรัพย์ท่าน ก็คงรอดู แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่เครียดแต่คงมีความรู้สึกเฮิร์ทนิดหน่อยเพราะเป็นเงินที่ท่านหามา แต่เรื่องที่มีการมองว่ากลุ่มเสื้อแดงเร่งปิดปิดเกมหรือแตกหัก คงไม่ได้มีการแตกหักในปีนี้

"แม้ว" จะกลับภายใต้เงื่อนไขพิเศษ

"เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณฝ่ายเดียว ถ้าถามผมเรื่องการเคลื่อนไหว ผมไม่ทราบว่า ท่านใช้เงินของท่านเคลื่อนไหวหรือเปล่า เพราะผมไปหาท่านที่ดูไบ 2 ครั้ง ได้รองเท้ากอล์ฟมาคู่เดียว แล้วก็มามีข่าวว่าผมได้เงิน 6 พันล้าน จากการไปช่วยเลือกตั้งซ่อมที่ มหาสารคาม" ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยภายในเงื่อนไขอะไรนั้น พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ถ้ากลับมาเมื่อมีการเลือกตั้ง คงเป็นเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาภายใต้สถานการณ์พิเศษ

แก๊งแดงกำหนดปฏิทินป่วนเมือง

นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงข่าวถึงมติแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ว่า ได้กำหนดปฎิทินการเคลื่อนไหวเพื่อประกาศสงครามระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลอำมาตย์ธิปไตยแล้ว โดยวันที่ 15 ม.ค.จะเดินทางไปยังกรมป่าไม้ เรียกร้องให้รังวัดที่ดิน เขายายเที่ยง วันที่ 17 ม.ค. จะเดินทางไปยังกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีรกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ในข้อหาบุกที่ดิน ป่าสงวนแห่งชาติ วันที่ 18 ม.ค.จะเดินทางไปยังทำเนียบองคมนตรี เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึก เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินป่าสงวนโดยมิชอบของ พล.อ.สุรยุทธ์

จากนั้นจะเดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ข้อหาปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหรน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีการดึงเรื่อง หรือหน่วงเหนี่ยวฎีกาของคนเสื้อแดง ต่อไปวันที่ 21ม.ค. จะเดินทางไปยังสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง เพื่อสอบถามถึงวิธีปฎิบัติ เกี่ยวกับการบยื่นถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ส่วนวันที่ 23-24 ม.ค. จะมีการชุมนุมใหญ่ที่สนามกอล์ฟเขาสอยดาว จ.จันทบุรี เนื่องจากคนเสื้อแดงเชื่อว่าที่ดินสนามกอล์ฟ 400 ไร่ ถูกครอบครองโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ทั้งนี้ยืนยันว่าจะชุมนุมโดยสงบ เพื่อทวงคืนสมบัติชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น