xs
xsm
sm
md
lg

สงครามจารกรรม (2)

เผยแพร่:   โดย: ว.ร. ฤทธาคนี

นิยามศัพท์ของการข่าวกรอง ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นกระบวนการที่ง่ายต่อการปฏิบัติ แต่ความจริงสงครามข่าวกรองเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ยากต่อการควบคุม เป็นภารกิจอันตราย ต้องใช้กำลังพลฝึกพิเศษ และเป็นกิจกรรมที่มีราคาแพงทั้งคนและของ แต่การข่าวกรองเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินนโยบายทางการเมือง การเศรษฐกิจ สังคม การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการทหาร จึงต้องลงทุน และมีกลไกพิสูจน์ได้ยากว่าจริงหรือปลอม จนเป็นเสมือนดาบสองคม ตลอดจนเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์หากจำเป็น

ทั้ง 4 ประเภทของการข่าวกรองนั้น การข่าวกรองมนุษย์มีความสำคัญยิ่ง เพราะมีความซับซ้อน ขึ้นอยู่กับจิตใจความนึกคิดของจารชน และผู้ให้ข่าว (Informer) ดังนั้น ในยุคสงครามเย็นมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการปฏิบัติการสายลับสองหน้าขึ้นในระบบการข่าวกรองทั้งของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ที่ฝ่ายโซเวียตสามารถเจาะลึกเข้าไปในแก่นของระบบ แต่ที่เป็นตำนานได้แก่เหตุแปรพักตร์ของแมคคลีน (Maclean) เบอร์เจสส์ (Bur Gess) และ คิม ฟิลบี (Kim Philby) ในห้วง ค.ศ. 1950–1963

สงครามจารชนอุดมการณ์เกิดขึ้นในห้วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อความขัดแย้งในประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์ถึงขีดสุด และพัฒนาเป็นกลไกหลักในยุคสงครามเย็น ฝ่ายโซเวียตมีการระดมสรรหาสายลับจากกลุ่มชนชั้นกลางที่มีการศึกษาดีในสถาบันมีชื่อเสียง เช่น มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และแคมบริดจ์ และส่งไส้ศึกที่สมบูรณ์ด้วยอุดมการณ์คอมมิวนิสต์เข้าสู่สงครามข่าวกรอง

เครือข่าวไส้ศึกที่ฝังตัวในโลกตะวันตกถูกเปิดโปงเมื่อ อีกอร์ กูเชนโกะ (Igor Gouzeko) เสมียนรหัสลับประจำสถานเอกอัครราชทูตสหภาพโซเวียต ประจำกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา แปรพักตร์เข้าอยู่ในอาณัติของหน่วยต่อต้านข่าวกรองอังกฤษ ในเดือนกันยายน ค.ศ.1945 และได้เปิดโปงความลับเครือข่ายจารชนโซเวียตทั่วอเมริกาเหนือ สร้างความตื่นตระหนกต่อหน่วยต่อต้านข่าวกรอง ทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษอย่างมหาศาล เพราะเป้าหมายการจารกรรม คือ ความลับนิวเคลียร์ของโลกตะวันตก ในที่สุด ดร.นันน์ เมย์ (Nunn May) ดร.เคลาซ ฟุคส์ (Claus Fuchs) นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน และแฮรี่ โกลด์ (Harry Gold) ถูกจับข้อหากระทำการจารกรรม และศาลพิพากษาจำคุก 2 คนแรก 14 และ 30 ปี ตามลำดับ

ส่วนจูเลียส และอิเทล โรเชนเบอร์ก (Julius, Ethel Rosenberg) ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยข้อหาทรยศต่อชาติ ที่ส่งมอบความลับเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ให้กับศัตรูในปี 1951 และเป็นนักโทษประหารคู่แรกในศตวรรษที่ 20 ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกายามปกติ นอกนั้นยังมีเจ้าหน้าที่องค์การข่าวกรองของสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับสงครามจารกรรม เช่น เอลเกอร์ ฮีส (Anger Hiss) อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี จนกระทั่งวุฒิสมาชิก โจเซฟ แมคคาร์ที่ (Joseph Mccarthy) ในฐานะประธานกรรมาธิการข่าวกรองแห่งชาติทำการกวาดล้างแบบเดาสุ่มขนานใหญ่ ช่วง ค.ศ. 1953–1954 สร้างความเดือดร้อนในวงข้าราชการที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และต่อมา แมคคาร์ที่ถูกกล่าวโทษว่ากระทำการเกินอำนาจ ผิดธรรมเนียมวุฒิสมาชิกพ้นสภาพไป

ส่วนหน่วยต่อต้านข่าวกรองอังกฤษ ที่ได้รับการนับถือว่าเป็นยอดไม่แพ้โซเวียต เรียกว่า Secret Intelligence Service – SSS หรือเรียกเล่นๆ ว่า MI6 ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1905 โดยในปี ค.ศ. 1951 ปฏิบัติการคู่ขนานกับสหรัฐอเมริกา และในการล่าจารชนของ SIS ทำให้นักการทูตระดับสูงของอังกฤษ นายเบอร์เจส และ โดเนลก์ แมคคลีน แปรพักตร์หนีไปมอสโกในปีนั้นเอง และต่อมาในปี ค.ศ. 1963 คิม ฟิล สุดยอดสายลับ ที่รอจนวินาทีสุดท้ายถึงได้หนีตามไปมอสโกเพราะฟิลบี้ กำลังจะถูกเปิดเผยว่าเป็น “บุคคลที่ 3” เมื่อมีการเจาะลึกในเครือข่ายสายลับสองหน้าของคดี เบอร์เจสส์ – แมคคลีน ส่วน จอร์จ เบลค (George Blake) สายลับอังกฤษ ถูกจับเช่นกันข้อหาทรยศ ในปี ค.ศ. 1961 ต้องโทษ 42 ปี

สงครามจารชนจึงเป็นส่วนหนึ่งของสงครามข่าวกรองที่ต้องศึกษาอย่างลึกซึ้ง เพราะการบรรจุข้าราชการ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญยิ่ง โซเวียตทำการบรรจุสายลับตั้งแต่บุคคลเหล่านั้นยังเป็นนักศึกษา แต่มีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ดังนั้น การฝึกอบรม และมอบหมายงานจึงกระทำได้ง่าย เพราะหัวใจเต็มร้อยที่จะสนองตอบคำสั่ง โดยไม่ได้คิดว่าเป็นการทรยศต่อองค์การและชาติของตัว

เมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกทลายลงในปี ค.ศ. 1989 และปีต่อมามีการปฏิวัติทางการเมืองในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกแยกตัวออกจากการชี้นำของอดีตสหภาพโซเวียต และมุ่งสู่ระบอบประชาธิปไตย สงครามเย็นก็ยุติลงด้วย แต่กลับเกิดสภาวะสงครามเศรษฐกิจขึ้นแทน ตำนานสงครามจารกรรมอุดมการณ์ ก็เปลี่ยนแปลงเป็นการจารกรรมทางเศรษฐกิจการเมืองนำหน้า เพื่อหวังครอบงำด้วยอำนาจเงิน/เทคโนโลยี และข้อมูลสารสนเทศที่เหนือกว่า จึงดูเหมือนว่าสงครามจารกรรมเศรษฐกิจมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น และมีกลไกในการยุทธ์ที่แยบยล เช่น การเข้ายึดกิจการกระดูกสันหลัง หรือมีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ

การที่ ฮุนเซน ซึ่งสร้างเงื่อนไขการจับกุมอดีต นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ฐานเป็นจารชนให้รัฐบาลไทยที่ต้องการข้อมูลการบินของทักษิณ ซึ่งรัฐบาลเขมรถือว่าเป็นความมั่นคงของเขมร ทั้งๆ ที่ทักษิณมิได้มีอำนาจรัฐในเขมรเลย ไม่เคยรู้ความลับของเขมร เว้นแต่ว่า ฮุนเซน นำความลับของเขมรมาบอกทักษิณ และการเดินทางของทักษิณเข้าเขมรไม่ได้ทำให้เขมรเสียหายเชิงความมั่นคงอะไรนอกจากสังคมโลกได้ข้อพิสูจน์ว่าสัมพันธ์ของไทย – กัมพูชาเข้าขั้นวิกฤตเพราะฮุนเซน ประกาศไม่ส่งตัวทักษิณ ให้รัฐบาลไทยในฐานะเป็นนักโทษคดีอาญา ซึ่งฮุนเซนบอกว่าเป็นคดีการเมือง ทั้งๆ ที่เรื่องภายในประเทศไทย ซึ่งฮุนเซน จะต้องรักษามารยาทในฐานะผู้นำประเทศ ต้องไม่กล่าวพาดพิงกระบวนการยุติธรรมของไทย และเข้ามาวิเคราะห์กรณีพิพาทเรื่องการเมืองภายในของไทย เพราะหากไทยกระทำบ้างก็จะกระทบต่อโครงสร้างอาเซียนทันที

แต่หากฮุนเซน เป็นอาจารย์รัฐศาสตร์ หรือนักข่าว หรือนักเขียนบทความ ก็อาจจะกระทำได้ทางอาชีพของเขา แต่ฮุนเซนเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่จะต้องรักษามารยาททางการเมือง มิฉะนั้นแล้วเป็นการแสดงความเป็นศัตรูกับรัฐบาลไทย ซึ่งขณะนี้ฮุนเซน ก็พิสูจน์ครบถ้วนแล้ว

การดักฟังโทรศัพท์ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญนั้น เป็นมาตรการจารกรรม และรัฐบาลกัมพูชาต้องรับผิดชอบ

รัฐบาลกัมพูชาใช้เหตุผลอะไรที่ต้องการและมาดักฟังการสนทนาในสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศไทยจำเป็นต้องประท้วงตอบโต้การกระทำสงครามจารกรรมนี้ หรือต้องพิสูจน์ให้สังคมโลกได้รับรู้ หรืออย่างน้อยกลุ่มประเทศอาเซียนต้องรับรู้

ในขั้นต้นนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นผู้เปิดประเด็นเชิงการจารกรรมเองว่า ทางการกัมพูชามีเทปลับ 2 ม้วน บันทึกการสนทนาระหว่างอดีตนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ กับนายคำรบ เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตไทย และการสนทนาระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กับนายคำรบซึ่งพลเอกเตีย บัน รมว.กลาโหมกัมพูชา มหามิตรของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีการดักฟังโทรศัพท์ แต่ทำไมนายจตุพร ยังกล้าพูดชัดเจนว่ามีเทปลับ และอดีต นายศิวรักษ์ ให้การในศาลว่ารู้จักนายคำรบมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนไทยจะรู้จักกัน แต่เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีมาแล้ว

ดังนั้น นายจตุพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องรับผิดชอบการอ้างเงื่อนงำการจารกรรมเพื่อข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายไทยและให้การเท็จอันเป็นความเสียหายของชาติ ซึ่งนัยสำคัญนายจตุพร กำลังบอกคนไทยว่ารัฐบาลฮุนเซน ก็กำลังทำสงครามจารกรรมกับไทยเพื่อเป้าหมายหลายประการ

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์ ที่ข้อมูลสารสนเทศเป็นกุญแจสำคัญ รัฐบาลจะต้องตระหนักถึงภัยของสงครามจารชนยุคโลกไร้พรมแดน ซึ่งยากที่จะพิสูจน์ทราบได้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู ดังนั้น ความหย่อนยานในความคิดและขาดความตื่นตัวในการกำหนดวินัยในการรักษาความลับต่างๆ ตลอดจนความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของกลไกย่อยในหน่วยงานข่าวกรอง ซึ่งอาจจะติดกับกลลวงของกระแสการเมืองที่ใครคนหนึ่งสร้างไว้ก็ได้ เพราะมีสิ่งบอกเหตุบางประการในห้วงปี 2552 ที่เกิดช่องว่างในระบบข่าวกรอง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้เพราะระบบขาดเอกภาพ หรืออาจจะมีอิทธิพลทางการเมืองครอบงำ หรือขาดนโยบายที่ชัดเจน

ดังนั้น ในสงครามข่าวกรอง ทุกคนเป็นพลรบ ด้วยการสร้างจิตสำนึกถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ


                      nidd.riddhagni@gmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น