xs
xsm
sm
md
lg

ภท.ปัดเปลี่ยนขั้ว แค่หาแนวร่วมแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "มาร์ค" ระบุสื่อเข้าใจผิด เชื่อพรรคร่วมฯ ไม่เปลี่ยนขั้วกดดันแก้ รธน. ชี้แค่ร่วมฝ่ายค้านแก้ รธน.เท่านั้น ยัน ปชป.ไม่เคยผิดสัญญา แต่ถ้าพรรคร่วมฯหันไปหนุน รธน. 40 ถือว่าผิดสัญญา เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม "เทพเทือก" ติงจะทำอะไรให้คำนึงถึงประชาชน หากหนุน รธน.40 เข้าทาง "นช.แม้ว" ที่ต้องการพ้นผิด ไม่ถูกยึดทรัพย์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 2 ประเด็นคือ แก้ไขมาตรา 190 และมาตรา 165 ประเด็นเขตเลือกตั้งจากเขตใหญ่เรียงเบอร์เป็นเขตเดียวเบอร์เดียวว่า เท่าที่พูดคุยกันการแก้ไขใน 2 ประเด็น ไม่น่าจะเป็นความความขัดแย้งในระดับของสังคม เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองน่าจะมีอิสระในการเสนอเรื่องนี้ได้ โดยไม่กระทบกระเทือนต่อรัฐบาล ก็ให้เสนอไป เพียงแต่พรรคร่วมต้องการคะแนนเสียงในการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ในประเด็นที่ทางพรรคประชาธิปัตย์เคยไม่เห็นด้วย ตนจึงบอกว่า ทางพรรคต้องมาพิจารณาดูเท่านั้นเอง

"คงไม่มีเรื่องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เพียงเขาบอกว่าถ้าเรื่องนี้ไม่สามารถเดินได้ มันก็จะมีร่างที่พรรคฝ่ายค้านเสนอรัฐธรรมนูญปี 2540 อยู่ ซึ่งบังเอิญมีเรื่อของ เขตเลือกตั้งที่เขาต้องการ และเขาได้สอบถามมาว่า เขาจะไปสนับสนุนทางนั้นได้หรือไม่ เท่านั้นเอง แต่ความเป็นจริงก็แปลกว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยบอกว่า รัฐธรรมนูญปี40 ดีทุกอย่าง ก็ต้องสนับสนุนการเลือกตั้งเขตละคน ฉะนั้นก็ถือว่าคะแนนเสียงเขาเพียงพอ อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้"

แก้เขตเลือกตั้งไม่น่ามีปัญหา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งมีทั้งข้อดี ข้อเสียง เขตใหญ่ก็มีข้อดี ข้อเสีย เขตเล็กก็มีข้อดี ข้อเสีย พรรคก็พิจารณาได้ในเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่า พรรคประชาธิปัตย์จะหารือได้ข้อสรุปในการประชุม ส.ส.ตามวาระปกติ ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ระบุว่าจะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 ม.ค. คงเป็นเพราะต้องการให้ได้ข้อสรุปก่อนวเปิดประชุมสภา คือในวันที่ 21 ม.ค. พรรคต้องมีคำตอบในเรื่องนี้ และเชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่มีแรงกระเพื่อมกับรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะพูดคุยกันแล้วว่าหากฝ่ายค้านไม่ร่วมแก้ไขตามกระบวนการของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯเสนอ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่าเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น แม้แต่พรรคเดียวกันยังมีความเห็น ต่างกัน รวมทั้งในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ฉะนั้นพรรคก็สามารถนำมาพิจารณาอีกครั้งก็ได้ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ ระบุว่าถ้าไม่ทำประชามติจะออกมาคัดค้านนั้น ตนเห็นว่าถ้าจะแก้ประเด็นแบ่งเขตเลือกตั้ง นี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เพราะไม่ได้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน ทำประชามติก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าเป็นประเด็นเรื่องการยุบพรรค เพิ่มอำนาจส.ส. อย่างนี้ มันก็เป็นปัญหาที่ประชาชนมองว่า เอื้อประโยชน์โดยตรง แต่ถ้าเป็นเรื่องระบบเลือกตั้ง ซึ่งทั่วโลกใช้กันหลากหลายระบบมันไม่ได้เป็นประเด็นที่เอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองโดยรวมอะไรทั้งสิ้น คิดว่าเป็นเรื่องที่สภาพิจารณาได้

ภท.ไม่ได้เปลี่ยนขั้วสื่อเข้าใจผิด

ส่วนที่มีข่าวว่านายชวรัตน์ ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าหาก ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญจะเปลี่ยนขั้วนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเข้าใจกันผิด ตนไม่ได้คิดว่าเป็นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า ถ้ามีปํญหาขัดแย้งกันมากก็จะยุบสภา นายอภิสิทธิ์ หัวเราะเบาๆ ก่อนตอบว่า "ผมไม่ได้ยินใครบอกว่าจะย้ายขั้วเลยครับ มีแต่พูดถึงว่า จะไปคุยกับฝ่ายค้านเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเขาไม่เรียกย้ายขั้วครับ"

ผู้สื่อข่าวถามว่าต่อจากนี้ถ้าตามใจเรื่องรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะมีการขออีก นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า "ตามใจเรื่องอะไรครับ ก็ไม่รู้ใครตามใจใครครับ เดิมทีทุกอย่างเปลี่ยนแปลงมาตลอด เดิมรัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ แต่ตอนนี้บอกว่ารัฐบาลจะไม่เป็นเจ้าภาพก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่รู้ใครตามใจใครผมก็ไม่ทราบ ก็เห็นเขาบอกกันว่าขัดใจกันอยู่ไม่ใช่หรือ ตกลงตามใจหรือขัดใจ"

พรรคร่วมหนุน รธน.40 ไม่รักษาสัญญา

ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่ากรณีทวงสัญญาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า ก็เดินหน้ามาตลอด อย่างมาตรา 190 เพียงแต่ว่า เรื่องสัญญากันก็บอกว่าจะไม่แก้ไขประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนให้เกิดความขัดแย้งซึ่งไม่มีการนิรโทษกรรม

"ถ้าจะทวงสัญญากัน ก็ต้องบอกว่า รัฐธรรมนูญฉบับไหนที่มีการนิรโทษกรรมกันก็ต้องไม่มีใครเข้าไปร่วม ก็เป็นสัญญากันไม่ใช่เหรอครับ ผมก็รักษาสัญญา ถ้ามีเรื่องนิรโทษกรรมอีกก็แสดงว่า เขาไม่รักษาสัญญา ถ้าเขาดูเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 อีก ก็นี่ไงครับต้องถามว่า ผมเองบอกว่า จริงๆ ตอนตั้งรัฐบาลจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หลีกเลี่ยงประเด็นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง และพูดกันชัดว่าไม่มีความคิดที่จะไปทำเช่นนั้น จะเรียกว่าสัญญาหรือข้อตกลง ผมก็เดินตามนี้"

ต่อข้อถามว่าถ้าเกิดมีการผิดสัญญาจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขายังไม่ผิด คิดว่าไม่ผิด พรรคก็ต้องรักษาจุดยืนและข้อตกลงที่ทำไว้ เมื่อถามอีกว่า นายกฯจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ผิดสัญญาในเมื่อสมประโยชน์กัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า คงคุยกันชัดเจนว่าเราต้องการทำอะไรในการทำงานร่วมกัน คิดว่าไม่เกิดขึ้นหรอก

"สุเทพ"ติงพรรคร่วมฯ ให้คำนึงถึง ปชช.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความไม่พอใจของพรรคร่วมรัฐบาลกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เดินหน้า แก้ไขรฐธรรมนูญจนขู่ว่าอาจจะเปลี่ยนขั้วไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยที่ผลักดันใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ว่า การเมือง ไม่ใช่เรื่องที่คนใดหรือพรรคใดพรรคหนึ่งจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ แต่ต้องคำนึงถึงประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจ มีระบอบประชาธิปไตยที่มีกฎเกณฑ์กติกาที่เป็นมาตรฐานโดยมีรัฐบาลทำงานให้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจรติ นั่นคือความคาดหวังของประชาชน เพราะฉะนั้นใครจะแหวกไปทำอะไร เป็นการเฉพาะคงยาก

"เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลสามารถประคับประคองอยู่ได้ ก็เพราะพลังของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งก็ต้องขอบคุณประชาชนที่ยืนหยัดกันอย่างเหนียวแน่นเป็นพลังให้รัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ และเชื่อว่าปีนี้พลังของประชาชนก็จะเข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะเห็นแล้วว่าเมื่อประชาชนส่วนใหญ่แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ ประเทศที่ชัดเจนก็ทำให้ฝ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง องค์กรต่างๆ ก็จะต้องฟังเสียงของประชาชนมากขึ้น"

เตือนดันใช้ รธน.40 เข้าทาง"นช.แม้ว"

"การเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ ถ้าใช้หมดทุกมาตราก็จะสอดคล้องกับข้อเรียกร้องที่กลุ่มคนของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กำลังเรียกร้องอยู่ นั่นคือว่าหลังผลจากรัฐธรรมนูญ ปี2540 ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ต้องติดคุก และทำให้ได้ทรัพย์สินคืนมาทั้งหมด รวมทั้งจะได้สถานภาพทางการเมืองกลับคืนมาทั้งหมด นั่นก็เป็นอีกมุขหนึ่ง ของการเรียกร้อง ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลต้องคิดให้มากหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร จะให้เป็นไปตามนี้หรือไม่"

ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะนัดกับนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ในวันที่ 10 ม.ค.เพื่อหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความเห็นตรงกันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ในทางการเมืองใครจะไปมาหาสู่กัน ใครจะพูดคุยกับใคร ปรึกษาอะไรกับใครก็ได้ ไม่ได้หมายความว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไปหานายบรรหาร แล้วนายบรรหาร จะตกลงด้วยทั้งหมด

"นายบรรหาร ก็เป็นถึงอดีตนายกฯ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ย่อมมองการเมืองออก เห็นหมดว่าเป็นอย่างไร เราไม่ต้องไปตื่นเต้นเรื่องที่จะมีการพบกัน ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่า อยากจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนจะเป็นวิธีใด ก็กำลังหาทางกันอยู่ ก็ขอให้ดูกันต่อไป"

เข้าใจพรรคร่วมฯ อยากแก้เขตเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าคำพูดของนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังมองในแง่ดี ได้หรือไม่ ที่ขู่ว่าจะเปลี่ยนไปจับขั้วกับพรรคเพื่อไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอะไรในแง่ร้าย และไม่ได้มองว่าท่านข่มขู่

"ผมทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลดิ้นรนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะพรรคร่วมรัฐบาลอยากจะให้การเลือกตั้งเป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียวซึ่งผมเข้าใจดี แต่ก็อยู่ที่ พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าสามารถจะมีมติ หรือมีความเห็นอย่างนี้ได้ตรงกับพรรคร่วมรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญในรูปแบบนี้ ก็เป็นไปได้ และอาจจะมีความสำเร็จ พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ต้องไปดิ้นรนหาวิถีทางอื่น แต่ถ้าทำอย่างนี้ไม่ได้ เขาก็ต้องไปหาแนวร่วมอย่างอื่น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"

สำหรับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นเขตใหญ่เรื่องเบอร์เพื่อป้องกันการทุจริต ซื้อเสียงเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ แต่ก็มีหลายคนในพรรคออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ท้ายที่สุดแล้วตนคิดว่าเรื่องนี้ พรรคก็คงต้องมีมติให้ชัดเจน

ปชป.ขู่ปัญหามากยุบสภาเลือกตั้งใหม่

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จุดยืน ของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าจะให้ความร่วมมือกับข้อเสนอของคณะกรรมการ สมานฉันท์ฯ แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลหยิบ 2 ประเด็นจาก 6 ประเด็นมาข้อแก้ไข พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นว่าน่าจะยืนอยู่ในจุดยืนเดิมของพรรคก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากความเห็นของ ส.ส. คือควรจะให้มีส่วนร่วม และถามความเห็นจากประชาชน ตนจึงไมเข้าใจว่าการที่จะหยิบแค่ 2 ประเด็นขึ้นมาแก้ไข ทำไมไม่ใช้กรอบแนวความคิดของคณะกรรมการสมานฉันท์มาผลักดัน เพรา นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมทุกพรรคแล้ว ในส่วนของ ส.ว.ก็น่าจะให้การสนับสนุนด้วย และน่าจะเดินหน้าไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปขอความร่วมมือกับฝ่ายค้าน แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลหยิบ 2 ประเด็นขึ้นมา ซึ่งวันนี้ก็ชัดเจนว่า ส.ว.ประกาศท่าทีชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุน ฉะนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเฉพาะฝ่ายรัฐบาลโดยปราศจากส.ว. จะสำเร็จได้อย่างไร

"หากการเปลี่ยนขั้วเกิดขึ้นจริง ผมคิดว่าการเมืองจะเกิดปัญหาตามมามากมาย และเชื่อว่าการเมืองจะถึงทางตัน หากถึงวันนั้นท่าทีของนายกฯ น่าจะประกาศได้ชัดเจนว่า หากการเมืองถึงทางตันรัฐบาลก็พร้อมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน"

"ชวรัตน์"ปัดเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาล

ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ที่ตนพูดว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญอาจเป็นไปได้ว่า พรรคภูมิใจไทยจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล แต่หมายถึงจับมือแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคเพื่อไทย

"ที่ผมพูดคือให้ทุกพรรคไปในทิศทางเดียวกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ความต้องการของแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน แต่หากมีการหารือกันแล้วคุยกันไม่รู้เรื่อง ค่อยมาว่ากันว่าจะเปลี่ยนขั้วหรือไม่ เพราะนี้เป็นเรื่องของซิกเซ้นส์"

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีดูท่าทีไม่พอใจที่พรรคภูมิใจไทยที่จะเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนขั้ว แต่สื่อถามนำ ตนก็ตอบว่าทุกอย่างเป็นไปได้ และย้ำว่าทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ทางด้านการเมือง ซึ่งตอนนี้ต้องรอแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมีท่าทีไม่เห็นด้วยหากจะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ เพราะจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดคดี นายชวรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดว่าจะใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนที่พรรคเพื่อไทยต้องการที่จะใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ต้องมีการเรียกประชุมกัน แล้วในที่ประชุมว่ากันอย่างไร หากไม่เห็นด้วยก็ต้องบันทึกว่าไม่เห็นด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าควรจะมีการเร่งรัดพรรคประชาธิปัตย์ให้มีการหารือการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะดูเหมือนจะยื้อไม่สนใจ นายชวรัตน์ กล่าวว่า "ในเมื่อของมันคาราคาซังอยู่ก็แก้ไขให้มันเรียบร้อยไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ทำงานทำการกัน"

พท.ไม่แก้ รธน.กับพรรคร่วม

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทยว่า พรรคข้อประกาศว่า 1.ผู้ที่นำเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพูดให้เกิดปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการสร้างเรื่อง หลอกประชาชน เนื่องจากภายในพรรคร่วมรัฐบาลกำลังมีปัญหา ข้อขัดแย้งและพยายามต่อรองอะไรบางอย่างอยู่ จึงนำเรื่องนี้มาพูด เพื่อต่อรองผลประโยชน์กันภายใน ด้วยการหลอกให้ประชาชนงงเล่น เช่นมาบอกว่าจะมาจับมือกับพรรคเพื่อไทย ทั้งๆที่พรรคเพื่อไทยได้นำมือไปไว้ในกระเป๋าแล้วก็ต้องขอบอกเลยว่าพวกเรารู้ทัน 2.นอกเหนือจากการต่อรองผลประโยชน์ แล้วยังเป็นความพยายามกลบเกลื่อน เบี่ยงเบนความสนใจปัญหาคอรัปชั่นในรัฐบาลของประชาชน

3.พรรคเพื่อไทยขอเตือนพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งว่าอย่าพยายามดึงเกม เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปและควรหยุดเล่นละครบทนี้ได้แล้วเนื่องจากผู้ชมคือประชาชนเบื่อหน่ายที่จะชมต่อไปแล้ว 4.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามเชิญชวนพรรคเพื่อไทยให้ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 หลายครั้ง ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอชวนให้นายอภิสิทธิ์ มาร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการเอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ทั้งฉบับเพื่อความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

5.ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว หรือร่วมสังฆกรรมใดๆกับรัฐบาลไม่ว่า จะแก้ไข6ประเด็น หรือ 2 ประเด็น เพราะง้วนแต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของคนในรัฐบาลทั้งนั้น และ6.พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันอย่างเดียวว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นบ่อเกิดของปัญหาและเป็นผลผลิตของเผด็จการ คมช.และรัฐธรรมนูญ 2540 เท่านั้นที่เป็นประชาธิปไตยและจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับคืนมา
กำลังโหลดความคิดเห็น