xs
xsm
sm
md
lg

"จิ๋ว"ร่วมประชุม"เพื่อแม้ว" "เสธ.หนั่น"เสียดาย"เหนาะ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (5 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยได้ประชุม โดยมีนายโอฬาร ไชยประวัติ ขุนพลเศรษฐกิจของพรรค และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมด้วย ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่า จากนี้ไปนายโอฬาร จะเข้าประชุมถี่ขึ้น เพราะพรรคกำลังจัดวางบุคคลเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง เนื่องจากมีสัญญาณที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเกมเพื่อซื้อเวลาของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อปั่นหัวพรรคเพื่อไทย และปิดบังความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมีธงชัดว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ 2550 แต่จะเรียกร้องให้เอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับคืนมา
ดังนั้น การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องรัฐบาล เพราะไม่มีประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย และประชาชน แต่เราจะเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญเร็วที่สุด และไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ โดยเฉพาะที่เสนอให้ทำหลังรับหลักการวาระแรก เพราะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาไม่เคยทำ เป็นการผิดหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย และเมื่อรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ พรรคจะเรียกร้องและกดดันให้มีการยุบสภาทันที
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การประชุมพรรควันที่ 6 ต.ค. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรค จะมาร่วมทานอาหารกับแกนนำพรรคและ แนะนำตัวต่อที่ประชุมพรรคด้วย พวกเราจะขอร้องให้ พล.อ.ชวลิต ทำงานในสิ่งที่ถนัด และมีประสบการณ์ คือแนวทางสมานฉันท์ ส่วนบทบาทหน้าที่ยังไม่ได้มีการหารือกัน ระดับท่านมีประสบการณ์ คงจะต้องมีตำแหน่งไม่น้อยกว่า ประธานที่ปรึกษาพรรคอยู่แล้ว ที่มีการมองกันว่า พล.อ.ชวลิต จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ต้องบอกว่าวันนี้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยังคงเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหัวหน้าจะเป็นใคร คงจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
นายปลอดประสพ กล่าวถึงกรณีนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ประกาศวางมือทางการเมืองว่า เพิ่งทราบจากสื่อ แต่ทุกคนยังอยากให้นายเสนาะ อยู่ในวงการการเมืองต่อไป ท่านเป็นผู้ใหญ่ แต่ยังเชื่อว่าในที่สุด นายเสนาะ คงตัดใจทิ้งการเมืองไม่ได้ ในอนาคตสมาชิกพรรค คงจะมีการไปพูดคุยกับนายเสนาะอีกครั้ง
**ยื่นตีความ"มาร์ค"ถกผู้ถูกตัดสิทธิ์ฯ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมฝ่ายกฎหมายของพรรคได้หารือ และกำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชิญผู้มีบารนอกพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เข้าร่วมหารือที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งทำตัวเหมือนเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นภาพที่ทุกฝ่ายเห็นกันอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นการท้าทายอำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น จะดำเนินการยื่นเรื่องให้ กกต.ให้ตีความว่า เป็นการกระทำที่ขัดคำสั่งตุลาการรัฐธรรมนูญในการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยเคยยื่นตรวจสอบกรณีนายอภิสิทธิ์ กอดกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ผิด และกรณีที่นายเนวิน ไปช่วยพรรคภูมิใจไทยหาเสียงเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร ปรากฏว่า อ้างว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ จึงไม่ทราบว่าการที่นายกฯ นัดหารือกับผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด จะมาเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้ซื้อเวลาให้อยู่เป็นรัฐบาลต่อไป

**"มาตุภูมิ"เชียร์"จิ๋ว"บารมีแน่น

นายสุระ เตชะทัต ผู้ช่วยโฆษกพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ในสังกัดพรรคเพื่อไทยว่า จะผลกระทบต่อความนิยมของคะแนนเสียงของบางพรรค และกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ควรมองว่าการกลับมาของพล.อ.ชวลิต เป็นเรื่องดี แต่การที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ในลักษณะทำให้สังคมตื่นตระหนกนั้น เป็นเพราะอาจมองว่าฐานเสียงเดิมของ พล.อ.ชวลิต และความนิยมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยมากขึ้น
"การกลับมาของพล.อ.ชวลิต ส่งผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ขนาดพล.อ.ชวลิต ยังไม่ได้ขยับอะไรมาก ฝ่ายตรงข้ามก็ดิ้นเหมือนหมูกลัวน้ำร้อน" นายสุระกล่าว

**"เสธ.หนั่น"เสียดาย"เหนาะ"
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรยีมวางมือทางการเมืองของนายเสนาะ เทียนทอง ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้านายเสนาะวางมือทางการเมืองจริงๆ ก็น่าเสียดาย แต่นายเสนาะ ก็คงจะคอยเป็นผู้แนะนำการเมืองให้กับนักการเมืองรุ่นหลังได้ ในฐานะที่เล่นการเมืองมานาน
ส่วนจะมองว่าการเมืองในปัจจุบันนี้ เล่นยากอย่างที่นายเสนาะระบุหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยากขึ้น เพราะสมัยก่อนองค์กรอิสระอะไรก็ไม่มี ก็ยังเป็นการเล่นการเมืองที่ธรรมดา แต่ตอนนี้มีองค์กรตรวจสอบเยอะแยะไปหมด ก็ทำให้ลำบากหน่อย ทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง อย่างเช่น เรื่องหุ้นก็ซื้อไม่ได้ ซึ่งก็ทำให้ปั่นป่วนไปหมดเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น