ซากศพบ้านเลขที่ 111+37 จัดออกรอบควงวงสวิงครั้งที่ 3 ชิงถ้วย “พ่อแม้ว” แกนนำต่างตบเท้าร่วมงาน ขณะที่ “ประชา-ลูกพรรคเพื่อแผ่นดิน” ร่วมวงสวิง ด้าน “สมชาย” ติงรัฐบาล-ปชป.เตะถ่วงแก้รัฐธรรมนูญ เหน็บไม่จริงจังแก้จะเสียเวลาตั้งกรรมการขึ้นมาทำไม ออกโรงป้อง “หางแดง” ชุมนุมเชื่อไม่รุนแรง ขณะที่ “จาตุรนต์” แนะเสื้อน้ำเงิน-ทหาร-มือที่ 3 จับตามือที่ 3 ป่วน
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่สนามกอล์ฟเลควูด บางนา-ตราด เมื่อเวลา 10.00 น.มีการแข่งขันกอล์ฟสานสัมพันธ์สามัคคี 111+37 = เพื่อไทย ครั้งที่ 3 ชิงถ้วยรางวัลจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ตลอดจน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมแข่งขัน อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สส. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมว.ยุติธรรม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ยังมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน และ นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ก็เดินทางมาร่วมแข่งขันด้วย
ทั้งนี้ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ผอ.จัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันได้ทำหนังสือเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย แต่ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ตอบรับ
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมครบรอบ 3 ปี การรัฐประหารของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.ว่า เท่าที่ตนรับฟังมา กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าจะชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องถือว่าเป็นการแสดงออกโดยใช้สิทธิตามที่รัฐธรรมนูญรองรับ และคิดว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตกอยู่ในภาวะเดียวกัน คือ เมื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงไปรวมตัวต่อต้าน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ นายสมชาย กล่าวว่า เท่าที่ติดตามปัญหาเหล่านี้ ส่งผลให้รัฐบาลทำงานไม่ราบรื่น สมัยรัฐบาลของตน นายกรัฐมนตรีก็ออกมาแนะนำให้ยุบสภา แต่ตนเห็นว่า ไม่มีเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม ตนเคยพูดไปหลายครั้ง ว่า ถ้าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม ก็ให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนชนเป็นผู้เลือกเข้ามา ถ้าประชาชนเลือกให้เป็นเสียงข้างมาก ท่านก็จะเข้าทำเนียบรัฐบาลอย่างสง่างาม เมื่อประชาชนส่วนใหญ่เลือกใคร ผู้ที่คิดจะออกมาต่อต้านก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะหาข้ออ้างออกมาเคลื่อนไหว แต่ตนก็ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้ท่านเดือดร้อนวุ่นวาย ซึ่งการแก้ปัญหาต้องเร่งทำงาน แต่ตนคิดว่าเวลานี้นายกรัฐมนตรียังทำงานน้อยไป เพราะถ้าบริหารงานดีคงไม่มีใครออกมาต่อต้าน
สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 16-17 ก.ย.เพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสมชาย กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวไม่ใช่การประชุมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นซึ่งเคยทำมาหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ หากไม่ใช่การประชุมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาอีกทำไมให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและเสียเวลา ส่วนรัฐบาลจะเปิดประชุมสภาแก้เกี้ยวหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่อ่านจากสื่อบอกว่ารัฐบาลเตะถ่วงหรือไม่ อันนี้ตนไม่ได้พูดเองนะ แต่อ่านจากสื่อ
ด้าน นายจาตุรนต์ กล่าวถึงการเปิดประชุมประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ประเทศกำลังมาถึงทางออกสำคัญที่จะคลี่คลายวิกฤตในระยะสั้นหรือจะเป็นวิกฤตยาวต่อเนื่องไป ก็อยู่ที่การอภิปรายของ ส.ส.และ ส.ว.ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ที่สำคัญคือ ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิสิทธิ์ หากยังเป็นแบบเดิมคือจะแก้ไขเพียงแค่ 2 ประเด็น คือ ในมาตรา 190 และเรื่องระบบเลือกตั้งก็จะทำให้การหาทางออกจะวิกฤตครั้งนี้ยากยิ่งขึ้น เพราะทั้งสองประเด็นไม่เกี่ยวกับวิกฤตประเทศ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน และ ส.ว.ต่างก็เห็นตรงกันกับข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ที่เสนอแก้ไขวิกฤตการเมืองด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น โดยในระยะสั้นควรมีการแก้ไขเรื่องการเลือกตั้งและการยุบพรรคก่อน จากนั้นจัดการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับ จากนั้นจึงค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งได้รับการยอมรับจากประชาชน
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานได้แล้ว อยู่ต่อไปประเทศก็มีแต่สูญเปล่า และยังมีข่าวว่าแกนนำในรัฐบาลมีปัญหากับพรรคร่วม ประสานงานระหว่างกระทรวงก็ไม่ได้ และยังมีปัญหากับกองทัพและผู้ใหญ่ในกองทัพ จนมีข่าวเรื่องการปฏิวัติออกมาบ่อยครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ ควรจริงใจและสนับสนุนให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นั้นคนเสื้อแดงได้ประกาศชัดว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบและไม่ยืดเยื้อ จึงไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่รัฐบาลต้องระวังเรื่องมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซงและสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะคนเสื้อน้ำเงินและลูกน้องของผู้ใหญ่ในกองทัพที่ต้องการสร้างสถานการณ์จากปัญหาความขัดแย้งของแกนนำรัฐบาลกับกองทัพ ส่วนการจะประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น มองว่าเป็นการประกาศพร่ำเพรื่อ โดยไม่จำเป็น และอาจจะกลายเป็นว่ารัฐบาลใช้กฎหมายนี้เพื่อป้องกันการชุมนุม ซึ่งจะกระทบกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ