นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคได้หารือและวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง โดยเห็นว่า ขณะนี้สังคมไทยจมลึกอยู่กับความขัดแย้งรุนแรง หากปล่อยให้จมอยู่ในความขัดแย้งจะยากต่อการแก้ปัญหา ทั้งนี้ พรรคมั่นใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่เป็นประชาธิปไตย และเป็นต้นเหตุแห่งความแตกแยก ถือเป็นผลผลิตของการปฏิวัติรัฐประหาร ขาดความเชื่อมโยงและปฏิสัมพันธ์กับประชาชน พรรคจึงเห็นว่าถึงเวลาที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว รวมทั้งรู้สึกชื่นชมและขอสนับสนุน ส.ส. และ ส.ว.ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขอแสดงจุดยืนจะร่วมกับ ส.ว.ที่คาดว่า จะมีจำนวนประมาณ 170 คน เพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามหากจะทำให้สมบูรณ์ ก็ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยและขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามแนวทางข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ทั้งนี้ พรรครู้สึกผิดหวังต่อนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์ที่มีจุดยืนไม่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประวิงเวลาเพื่อยื้อการแก้ไข เห็นได้จากการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ กรณีนี้อาจถือว่า รัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการสร้างความสมานฉันท์
ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยและขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามแนวทางข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ทั้งนี้ พรรครู้สึกผิดหวังต่อนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์ที่มีจุดยืนไม่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประวิงเวลาเพื่อยื้อการแก้ไข เห็นได้จากการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ กรณีนี้อาจถือว่า รัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการสร้างความสมานฉันท์