โฆษกหัวหน้าพรรค ปชป.อัด"เหลิม" ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องลูกชาย แฉคลิปตัดต่อจากรายการ”นายกฯ”2 ครั้ง รวม 51 จุด เชื่อเชื่อมโยงพรรคเพื่อไทย ขู่ยื่น กกต.ยุบพรรค ขัด รธน.ม.104 พร้อมเอาผิดคนที่นำออกเผยแพร่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเทพไท เสนพงศ์ แถลงตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ออกมารับรองว่าคลิปเสียงนายกฯ เป็นของจริงว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ยืนยันแล้วว่าเป็นการตัดต่อ ร.ต.อ.เฉลิม ทำตัวเป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องลูกตัวเอง ซึ่งจากการข้อมูลยืนยันได้ว่าคลิปเสียงได้ตัดต่อมาจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ 2 ครั้ง คือ วันที่ 19 เม.ย.52 ตัดต่อ 19 จุด และวันที่ 26 เม.ย.52 ตัดต่อ 32 จุด ข้อมูลตรงนี้คงทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม และส.ส.เพื่อไทยสงบปากได้สักที อย่างไรก็ตาม ขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมายืนยันคำพูดตัวเองที่ระบุว่า เป็นคลิปเสียงจริงนั้นได้ฟังได้เห็นมาจากไหน ต้องโชว์ต้นฉบับให้เห็นด้วย และต้องบอกได้ว่าได้มาจากไหน เพราะหากมีการดำเนินคดีก็ต้องแสดงความรับผิดชอบตามกฎหมายด้วย
นายเทพไทกล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการไล่ล่าหาความจริงของตำรวจคืบหน้าพอสมควร มีการควบคุมตัวเจ้าหน้าที่บริษัท เอสซีฯ จำนวน 2 คน ซึ่งได้ให้การรับสารภาพ โดยตำรวจกำลังขยายผลสอบไปยังพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่ง ส.ส.และผู้บริหารหลายคนระบุว่าได้รับซีดีที่เป็นคลิปเสียงจริง โดยเฉพาะนายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่เป็นถึงรองหัวหน้าพรรค จะมาพูดง่ายๆ ไม่ได้ว่ามอเตอร์ไซค์มาให้ที่พรรค เพราะอยากรู้ว่าทำไมไม่ให้คนอื่นบ้าง แต่ให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ซึ่งต้องหาข้อเท็จจริงว่ามีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะอาจมีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 104 ถึงขั้นยุบพรรคได้ ซึ่งเรากำลังรอหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมาประกอบการยื่นให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตรวจสอบ
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอท้านายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่ามีคลิปเสียงของจริงความยาว 4 นาที ซึ่งพร้อมนำมาเปิดเผย หากมีเกียรติภูมิก็ขอให้นำคลิปที่กล่าวอ้างมาพิสูจน์ความจริง จะที่ไหนก็ได้ขอให้กล้าตามที่พูด สำหรับเส้นทางการส่งนั้น เท่าที่ตรวจสอบไม่ใช่เป็นการส่งในเมลขยะ หรือเมลโจ๊ก เพราะเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลสอบสวนทราบว่าได้มีการเริ่มต้นส่งในประเทศไทยวันที่ 20 ส.ค.จนถึงวันที่ 26 ส.ค. ข้อมูลได้ส่งผ่านคนในพรรคเพื่อไทย และคืนเดียวกันเวลา 01.30 น.มีการเผยแพร่คลิปที่สถานีดีสเตชั่น จากนั้นมีการนำไปลงเว็บไซต์ที่สามารถดาวน์โหลดได้ เข้าเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ฟ้าเดียวกัน และยูทิวบ์ และมีการอัดเป็นซีดีมาเผยแพร่ จนขณะนี้มีการนำเข้ามูลมาเผยผ่านวิทยุชุชน จึงขอเตือนว่าจะมีความผิดตามกฎหมาย