นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า มีข่าวหนาหูว่า พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะต้นเรื่องมีแนวคิดที่จะยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญมีข้อสรุปนั้น พรรคชาติไทยพัฒนามีความเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะยังรักษคำพูดและความตั้งใจเดิมที่จะแก้ไขรัฐธรรมรูญ แม้จะมีแกนนำพรรคบางคนออกมาแสดงความไม่ชัดเจน คลุมเครือ ส่อว่าจะซื้อเวลา หรือยื้อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เกี่ยวต่อแนวคิดของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่จะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอีกหนึ่งชุดก่อนที่จะนำเสนอสู่สภาอีกครั้ง แต่เมื่อข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯสรุปออกมาแล้ว ก็ควรจะนำเสนอต่อสภาซึ่งจะเปิดในเดือนส.ค.นี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาซ้ำซ้อนอีก
ส่วนที่มองว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ฯไม่ได้มาจากทุกภาคส่วนนั้น นายวัชระ กล่าวว่า กรรมการสมานฉันท์ส่วนใหญ่ก็มาจากภาคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พรรคยืนยันว่าจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งหากมีอุบัติเหตุทางการเมือง ที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากยังใช้รัฐธรรมนูญอยู่ การเลือกตั้งก็จะจมปรักอยู่ความขัดแย้งทางการเมือง อย่ากลัวว่าจะแก้หรือแก้แล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะขณะนี้เราอยู่ในวงวนของความขัดแย้งอยู่แล้ว บางคนกลัวว่าแก้เสร็จแล้วจะยุบสภา ก็ขอฝากไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอย่ากลัวไปเลย เพราะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชน และคืนความยุติธรรมทางการเมือง นายกฯพูดเสมอว่า ไม่มีสองมาตรฐานทางกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ไม่มีสองมาตรฐาน ทางการเมืองด้วย ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้พรรคประชาธิปัตย์
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฎิรูปการเมือง ที่หลายฝ่ายกล่าวหารัฐบาลทำงานล่าช้าว่า ไม่เป็นความจริง เพราะฝ่ายบริหาร ได้นำผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เข้าสู่ที่ประชุมวิปรัฐบาลแล้ว และขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองและครม.จะพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมือง ในเบื้องต้น ทั้งนี้ คงจะมีความชัดเจนก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อจะได้เห็นว่าประเด็นไหนที่จะต้องผ่านกระบวนการสร้างการยอมรับและสร้างความรับรู้จากสังคมในวงกว้าง หลังจากที่พรรคการเมืองได้ข้อสรุปในเบื้องต้นแล้ว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาล แสดงความจริงใจต่อการปฏิรูปการเมือง หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันทฯ มาศึกษาใน 2 เรื่องใหญ่ คือ 1.หาแนวทางให้บ้านเมืองกลับคืนสู่บรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ และ2.ปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จนแล้วเสร็จแต่รัฐบาลกลับมีท่าทีบ่ายเบี่ยงที่จะนำข้อเสนอของคณะกรรมการไปปฏิรูปการเมือง คล้ายกับไม่ให้ความสำคัญและไม่มีความจริงใจ
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยกังวลว่าท่าทีดังกล่าวจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งของคนในชาติมากขึ้น ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล 3 ข้อคือ 1.ตระหนักถึงความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาประเทศชาติเพื่อให้มีการพัฒนาการเมืองการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตยมากกว่าปัญหาของตัวเองและพวกพ้อง 2.ดำเนินการตามแนวทางข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ โดยไม่บิดพลิ้ว หรือล่าช้า และ 3.มอบหมายให้คณะกรรมการสมานฉันท์ฯหรือแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้พรรคการเมืองศึกษาและดำเนินการตามมาตรา 291ของรัฐธรรมนูญต่อไป
ยืนยันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เกี่ยวต่อแนวคิดของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่จะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอีกหนึ่งชุดก่อนที่จะนำเสนอสู่สภาอีกครั้ง แต่เมื่อข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯสรุปออกมาแล้ว ก็ควรจะนำเสนอต่อสภาซึ่งจะเปิดในเดือนส.ค.นี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาซ้ำซ้อนอีก
ส่วนที่มองว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ฯไม่ได้มาจากทุกภาคส่วนนั้น นายวัชระ กล่าวว่า กรรมการสมานฉันท์ส่วนใหญ่ก็มาจากภาคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พรรคยืนยันว่าจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งหากมีอุบัติเหตุทางการเมือง ที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากยังใช้รัฐธรรมนูญอยู่ การเลือกตั้งก็จะจมปรักอยู่ความขัดแย้งทางการเมือง อย่ากลัวว่าจะแก้หรือแก้แล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะขณะนี้เราอยู่ในวงวนของความขัดแย้งอยู่แล้ว บางคนกลัวว่าแก้เสร็จแล้วจะยุบสภา ก็ขอฝากไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอย่ากลัวไปเลย เพราะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชน และคืนความยุติธรรมทางการเมือง นายกฯพูดเสมอว่า ไม่มีสองมาตรฐานทางกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ไม่มีสองมาตรฐาน ทางการเมืองด้วย ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้พรรคประชาธิปัตย์
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฎิรูปการเมือง ที่หลายฝ่ายกล่าวหารัฐบาลทำงานล่าช้าว่า ไม่เป็นความจริง เพราะฝ่ายบริหาร ได้นำผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เข้าสู่ที่ประชุมวิปรัฐบาลแล้ว และขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองและครม.จะพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมือง ในเบื้องต้น ทั้งนี้ คงจะมีความชัดเจนก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อจะได้เห็นว่าประเด็นไหนที่จะต้องผ่านกระบวนการสร้างการยอมรับและสร้างความรับรู้จากสังคมในวงกว้าง หลังจากที่พรรคการเมืองได้ข้อสรุปในเบื้องต้นแล้ว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาล แสดงความจริงใจต่อการปฏิรูปการเมือง หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันทฯ มาศึกษาใน 2 เรื่องใหญ่ คือ 1.หาแนวทางให้บ้านเมืองกลับคืนสู่บรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ และ2.ปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 จนแล้วเสร็จแต่รัฐบาลกลับมีท่าทีบ่ายเบี่ยงที่จะนำข้อเสนอของคณะกรรมการไปปฏิรูปการเมือง คล้ายกับไม่ให้ความสำคัญและไม่มีความจริงใจ
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยกังวลว่าท่าทีดังกล่าวจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งของคนในชาติมากขึ้น ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล 3 ข้อคือ 1.ตระหนักถึงความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาประเทศชาติเพื่อให้มีการพัฒนาการเมืองการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตยมากกว่าปัญหาของตัวเองและพวกพ้อง 2.ดำเนินการตามแนวทางข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ โดยไม่บิดพลิ้ว หรือล่าช้า และ 3.มอบหมายให้คณะกรรมการสมานฉันท์ฯหรือแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้พรรคการเมืองศึกษาและดำเนินการตามมาตรา 291ของรัฐธรรมนูญต่อไป
