xs
xsm
sm
md
lg

วิปรัฐชูตั้งส.ส.ร.3แก้รธน.พท.บี้อภิสิทธิ์žเลิกซื้อเวลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงเรื่องที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ส่งมอบผลสรุปการศึกษา ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯให้นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความก้าวหน้า ไปมาก เพราะทั้งตัวแทนของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และส.ว.ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ คิดว่า นาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา คงจะนำผลสรุปดังกล่าวไปปฏิบัติให้ได้ผล อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตนอยากให้นายชัย รายงานให้สมาชิกรัฐสภาทราบถึงผลสรุป จะเปิดหารือในการประชุมสมัยนิติบัญญัติก็ได้ เพื่อให้ ส.ส.ทุกคนได้มีส่วนร่วม
ถ้าแสดงความคิดร่วมกันได้ คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คงใช้เวลาไม่มากนัก แต่ถ้าเร่งรัด ก็จะหาว่ารัฐบาลตั้งธงในการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้ยังไม่มีตกผลึก จึงมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือการสมานฉันท์
นายชินวรณ์ กล่าวว่า อยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์อย่างถาวร หรือจะตั้งคณะกรรมการชุดเดิมก็ได้ ขึ้นมาเพื่อดำเนินการและพิจารณาการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องตามด้วยมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 ทั้งนี้วันที่ 27 ก.ค.นี้วิปรัฐบาลจะประชุมกันถึงข้อกฎหมายสำคัญๆ ก่อนเข้าประชุมสภา ที่ทำเนียบรัฐบาล
ด้าน นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าการที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนุญ 6 ประเด็นโดยเสนอความเห็นต่อประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี เป็นความเห็นที่ชอบ มีความหลากหลายในข้อมูล ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยรับว่าหากความเห็นของคณะกรรมการฯซึ่งประกอบไปด้วย 3 ฝ่ายคือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เป็นอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม ซึ่งบัดนี้ผลได้ออกมาแล้ว ปัญหาก็คือหากเปิดสมัยประชุมสภาแล้ว หากยังไม่มีการดำเนินการใดจากนายกรัฐมนตรี เราก็คงต้องมาพิจารณากัน
นายวิทยา กล่าวว่าหากรัฐบาลไม่เร่งรัดดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องถามรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีว่าคิดอะไรอยู่ เกิดอะไรขึ้น เพราะทุกฝ่ายในคณะกรรมการสมานฉันฑ์ฯก็เห็นตรงกันแล้ว โดยผู้ที่นั่งเป็นประธานแต่ละคณะมีแต่ส.ว. และส.ว.แต่ละท่านก็ตั้งใจเต็มที่ ใช้เวลาศึกษากว่า 45 วัน ทุกคนตั้งใจทำงานกันไม่ได้พักได้ผ่อน แต่ถึงเวลาจะเก็บไว้ในแฟ้ม เราคงไม่ยอมให้ผ่านเลยไป ต้องทวงถามกับนายกรัฐมนตรีตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ยังมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ซึ่งมี นพ.เหวง โตจิราการ เป็นแกนนำ หากจะผลักดันแก้ใน 6 ประเด็น จะยอมถอยร่างของ คปพร.หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการถอย เพราะร่างของ คปพร.เป็นการยื่นโดยความบริสุทธิ์ของประชาชน ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ มีการตรวจสอบรายชื่อถูกต้องแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมแก้รัฐธรรมนูญจะมีปัญหากับพรรคร่วมหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีคงต้องแยกแยะ เพราะรัฐบาลก็มีเผือกร้อนมากอยู่แล้ว จนไม่รู้เป็นความชาชินหรืออย่างไร เงื่อนไขก็มากอยู่แล้วดูเหมือนจะซื้อเวลาอีก รัฐบาลต้องยอมรับความจริงว่ามีปัญหาหมักหมมทุกวัน รัฐบาลมีเครื่องมือที่จะทำได้ทุกอย่าง แต่อย่าใช้เครื่องมือนั้นซื้อเวลา
ส่วนที่กลุ่ม40 ส.ว.ออกมาคัดค้านและขู่ว่าหากนายกรัฐมนตรีผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเป็นชนวนวิกฤติอีกครั้งนั้น นายวิทยากล่าวว่า ก่อนรัฐธรรมนูญ 50 จะออกมา ก็มีคนคัดค้านเยอะ ฝ่ายที่หนุนก็บอกให้รับไปก่อนแล้วมาแก้ทีหลัง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็มีแต่คนขู่ ขู่กันทุกเรื่อง ปัญหารัฐบาลนี้คือ ทุกปัญหาที่รอการแก้ไข แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม้แก้
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่าข้อเสนอของคณะกรรมการ สมานฉันท์ฯตนไม่แนใจว่าจะนำไปสู่ความสมานฉันท์ได้หรือไม่ แต่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯที่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น แต่ยังมีบางคนไม่เห็นด้วย ส.ว.ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้ตนเป็นห่วงการเคลื่อนไหวนอกสภา หากเกิดขึ้นก็จะไม่เกิดความสมานฉันท์ ดังนั้นควรมาตัดสินกันที่รัฐสภา แต่คงไม่จำเป็นต้องทำประชามติ พราะต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก และต้องฟังและพิจารณารายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เพราะอุตส่าห์ตั้งมาและมีผลการศึกษาออกมาให้พิจารณา
ส่วนที่วิปรัฐบาลเสนอตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ถาร นายประสพสุขกล่าวว่า เห็นด้วย แต่ควรใช้คณะกรรมการสมานฉันท์ฯชุดที่มีอยู่ เพราะองค์ประกอบดีอยู่แล้ว น่าจะทำหน้าที่ติดตามผลการทำงานว่าทำอย่างไรจึงสมานฉันท์กันได้ ส่วนการตั้งส.ส.ร.3 จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว หากยังไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร.3 ก็เกิดไม่ได้ ทั้งนี้ตนเห็นด้วยหากให้มีส.ส.ร.3 เพื่อจะได้ฟังความเห็นของ ทุกฝ่าย และนำไปสู่การทำประชาพิจารณ์ว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น