“ชินวรณ์” ปัดเสนอชื่อ “เสนาะ” เป็นประธานแก้ไขปรองดอง-แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยัน ยุบสภาไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ แต่ต้องแก้ที่กติกาก่อน ยืนยันคณะกรรมการ 3 ฝ่ายไม่เป็นมวยล้มต้อคนดูแต่จะถือเป็นก้าวแรกเพื่อศึกษาแก้ปัญหาการเมือง
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เพื่อความปรองดองสมานฉันท์และแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ คาดว่าแต่ละพรรคการเมืองจะส่งรายชื่อให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อแต่งตั้งตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 8 (5) ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ จากนั้นจะนัดประชุมเพื่อวางกรอบการพิจารณาเลือกตำแหน่งประธาน และตำแหน่งอื่น สำหรับเงื่อนเวลาที่นายชัยกำหนดไว้ 15 วันนั้น ส่วนตัวคิดว่าอาจดำเนินการไม่ครบถ้วนกระบวนการ จึงอยากให้คณะกรรมการชุดนี้ไปกำหนดกรอบเวลาเพื่อรวบรวมประเด็นนำเสนอต่อรัฐสภาอย่างรอบคอบ และรับฟังความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวาง
เมื่อถามว่า ประธานรัฐสภาได้เสนอชื่อนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว นายชินวรณ์กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน ที่ประชุมยังไม่พูดถึงตัวบุคคลควรเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะไปดำเนินการ อย่างน้อยที่สุดตัวบุคคลที่จะเป็นประธานต้องได้รับการยอมรับจากสังคมสามารถขับเคลื่อนการดำเนินการของคณะกรรมการ ไปตามเป้าหมายของการปรองดองและสมานฉันท์ เมื่อถามย้ำว่าคุณสมบัติของนายเสนาะ เหมาะสมและมีความเป็นกลางพอหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่อยากก้าวล่วง ให้คณะกรรมการไปคัดเลือกกันเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เองยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงกระบวนการที่ให้แต่ละพรรคไปรวบรวมประเด็น ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็จะหารือในที่ประชุมพรรคในวันนี้ แต่การตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวก็มาจากการรวบประเด็นความคิดเห็นของสมาชิก กรณีที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 คือ สมาชิกรัฐสภาจำนวน 1 ใน 5 เข้าชื่อเสนอเป็นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีข้อสังเกตว่าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2534 หรือ 2540 ก็เปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็เปิดให้ทำประชามติ จึงมีข้อสังเกตในส่วนนี้ที่จะเสนอต่อคณะกรรมการว่า หากจะให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับการยอมรับจากสังคมก็ควรเปิดให้ประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม
เมื่อถามว่า แกนนำกลุ่ม นปช.ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวอยากให้ยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งใหม่มากกว่า นายชินวรณ์กล่าวว่า อยากให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่วมกันว่าจะต้องรับผิดชอบในการคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองไปสู่ความสงบสุขโดยเร็ว คำถามคือ หากจะยุบสภาโดยไม่แก้ไขกฎกติกาที่มีปัญหาอยู่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของการเมืองได้ เมื่อยังไม่มีข้อยุติในเรื่องความปรองดองและสมานฉันท์ถึงให้มีการเลือกตั้งก็จะวุ่นวาย แนวคิดของนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าหมายหรือจะพัฒนาประชาธิปไตย อย่างแท้จริง แต่กลับปกป้องตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมากกว่า เมื่อถามว่าทางฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลพยายามยื้อเวลา นายชินวรณ์กล่าวว่า คิดว่าฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็ตระหนักถึงวิกฤตของบ้านเมือง แต่กรณีของนายจตุพร พรมพันธุ์ แกนนำ นปช.ที่คัดค้าน ไม่ต่างอะไรจากนายจักรภพ แต่วันนี้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าไปพอสมควร จึงอยากเรียกร้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ร่วมมือกัน เจรจาพูดคุยเพื่อหาทางออกให้ประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาอาจจะเป็นมวยล้ม นายชินวรณ์กล่าวว่า เชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลตระหนักดี จึงเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม หวังว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นก้าวแรกเพื่อนำไปสู่เป้าหมายตามที่สังคมต้องการ
