ที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย มีมติเห็นชอบตั้งกรรมาธิการ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุมทางการเมืองสงกรานต์เดือดและศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้อำนาจเต็มในการสอบสวน เรียกหาพยานหลักฐานก่อนสรุปผลภายใน 45 วัน ดึงผู้ทรงวุฒิจากองค์กรอิสระร่วมคณะ
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ตามที่ประชุมร่วมรัฐสภาเห็นพ้องต้องกันว่าจะใช้กลไกของรัฐสภาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ภายหลังการประชุมนายชินวรณ์แถลงว่า ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการชุมนุมทางการเมือง ระหว่างวันที่ 8-15 เม.ย.2552 โดยมีอำนาจศึกษา สอบสวน ข้อมูลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้กรรมาธิการฯดำเนินการเรียกบุคคล เอกสาร หลักฐาน เพื่อมาตรวจสอบ โดยมีจำนวนกรรมาธิการทั้งสิ้น 40 คน เป็นสมาชิกรัฐสภา 30 คน แบ่งเป็น ส.ส.23 คน ส.ว.7 คน ผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรอิสระที่มีความเป็นกลาง 10 คน โดยใช้เงื่อนไขดำเนินการ 45 วัน
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญรัฐสภาเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง และกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาสืบสวน สอบสวน เรียกเอกสารหลักฐาน ให้มีหน้าที่ศึกษารวบรวมประเด็นแก้ไขปัญหาทางการเมืองและกฎหมายรัฐธรรมนูญ พิจารณาดำเนินการในการสอบสวน หรือเรียกเอกสารหลักฐานจากบุคคลอื่น ตลอดจนกระบวนการหาแนวความคิดร่วมของบุคคลต่างๆทุกภาคส่วนในสังคม อำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ที่สำคัญเพื่อหนทางในการแก้ไข เพื่อสร้างความปรองดองแห่งชาติ โดยมีจำนวนกรรมาธิการทั้งสิ้น 40 คน เป็นสมาชิกรัฐสภา 30 คน แบ่งเป็น ส.ส.23 คน ส.ว.7 คน ผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรอิสระที่มีความเป็นกลาง 10 คน ส่วนกรอบเวลาเบื้องต้นให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ไปรวบรวมประเด็นปัญหา เรื่องการแก้ไชปัญหาทางการเมือง และแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน ส่วนกรอบเวลาที่คณะกรรมาธิการฯชุดนี้จะดำเนินการ ให้คณะกรรมาธิการฯไปปรึกษาหารือ เพื่อพำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเวลา 16.00 น.ของวันนี้ ตัวแทนของวิปทั้ง 3 ฝ่ายจะร่วมประชุมกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับรายชื่อ และกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ ว่ามีกฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา ที่จะมารองรับการทำงานของคณะกรรมาธิการทั้ง 2ชุดนี้อย่างไร
เมื่อถามว่าจะมีหลักประกันว่าการดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯ ทั้ง 2 ชุดจะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายอย่างไร นายชินวรณ์กล่าวว่า ถึงได้มาประชุมร่วมกัน เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน
นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานวิปวุฒิสภากล่าวว่า ถือเป็นมิติใหม่ที่เราจะแก้ไขปัญหา แก้รัฐธรรมนูญ โดยใช้ระบบของรัฐสภา ไม่ใช่ระบบปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งในอดีตเราจะแก้รัฐธรรมนูญโดยวิธีทำรัฐประหารมาโดยตลอด แต่วันนี้เราใช้เวทีของรัฐสภา ซึ่งเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสัดส่วนของคณะกรรมาธิการทั้ง 2 คณะที่มีกรรมาธิการคณะละ 40 คนนั้นจะออกเป็นจากพรรคเพื่อไทย 9 คน ประชาธิปัตย์ 8 คน ภูมิใจไทย 2 คน เพื่อแผ่นดิน 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน กิจสังคมรวมกับรวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน ราษฎรรวมกับประชาราช 1 คน
