“เพื่อไทย” ยังไม่สำนึกแบบอย่างที่ดี!! “ปลอด” ได้ทีผสมโรงจี้ “มาร์ค” ลาออกตาม “วิทยา” หวังโชว์จิตสำนึกสูงส่ง บอกพรรคจะแซ่ซ้องให้ ทำขึงขังจ่อเชิญข้าราชการสอบไทยเข้มแข็ง “วิชาญ” อ้างเตือนมานานแล้ว “เด็จพี่” สุดด้าน ฉกผลสอบตีกิน จ่อชง ป.ป.ช.ฟัน 7 ม.ค.53
วันนี้ (30 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงสาธารณสุข ในโครงการไทยเข้มแข็ง โดยนายปลอดประสพกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าโครงการไทยเข้มแข็งต้องยุติโดยทันทีแล้วเอาแผนงานทั้งหมดมาคิดใหม่ทำใหม่ นอกจากนี้ งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาทนั้น ขณะนี้อนุมัติไปแล้ว 1.5 แสนล้านบาท ยังเหลือที่ยังไม่ได้อนุมัติอีก 2 แสนล้านบาท ต้องชะลอการอนุมัติแล้วทำแผนใหม่ทั้งหมดจากนั้นจึงนำเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาใหม่ ซึ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคยพูดว่า เงินจาก พ.ร.ก.4 แสนล้านบาทนั้นจะดูแลด้วยตัวเอง จะไม่ให้มีการฉ้อฉลหรือโกงเกิดขึ้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบกับการทุจริตใน 3 โครงการนี้ คือ โครงการชุมชนพอเพียง ปลากระป๋องเน่า และโครงการไทยเข้มแข็ง ด้วยการลาออก นายอภิสิทธิ์ต้องแสดงสปิริตของนักเรียนออกซฟอร์ด แล้วพรรคจะแซ่ซ้องสรรเสริญที่กล้าทำในสิ่งเหล่านี้ แต่ตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีทางลาออก เพียงแต่พูดเอาไว้เผื่อว่าจะมีจิตสำนึกสูงส่ง สำหรับข้าราชการประจำนั้นขอเตือนว่าอย่าไปร่วมสังฆกรรมเพื่อทำความผิดกับคนเหล่านี้ เพราะเมื่อถึงเวลาเขาก็บอกแค่ว่าขอลาออก แต่พวกท่านจะยังต้องถูกสอบวินัยและมีโทษ แม้ว่าเขาจะแบ่งสตางค์ให้ก็แค่เศษแค่เลย ไม่มีความหมาย ขอให้เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
นายปลอดประสพกล่าวอีกว่า จากนี้ไปพรรคจะเชิญข้าราชการมาให้ข้อมูลกับพรรค โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.2553 เป็นต้นไป เริ่มจากการเชิญปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักหนี้ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน เลขาธิการสภาพัฒน์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการไทยเข้มแข็งทั้งหมดมาให้ข้อมูลต่อพรรคเพื่อที่เราจะได้ข้อมูลที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม พรรคหวังว่านายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง จะไม่ห้ามไม่ให้ข้าราชการเหล่านี้มาให้ข้อมูลกับเรา
ด้าน นายวิชาญกล่าวว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงมาตั้งแต่ต้น และได้ท้วงติงไปหลายครั้งแล้วว่ามีที่มาที่ที่ไม่โปร่งใสแต่รัฐบาลก็ไม่รับฟัง ซึ่งการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงสาธารณสุขนั้น เป็นการแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทุจริตเชิงนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์มักจะพูดเสมอนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์จึงมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือ ยุบสภาหรือลาออก
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า โครงการไทยเข้มแข็งนั้นขณะนี้กลายเป็นการใช้งบประมาณเพื่อขยายผลทางการเมือง และเพื่อสร้างฐานทางการเมืองของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นในวันที่ 7 ม.ค. เวลา 10.00 น. ตนและทีมกฎหมายของพรรคจะเดินทางไปยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินการต่อข้าราชการการเมืองทั้ง 4 คน คือ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และที่ปรึกษารัฐมนตรี รวมทั้งข้าราชการประจำทั้ง 8 คน