ASTVผู้จัดการรายวัน - "มาร์ค" เผย ได้ รมว.สธ.คนใหม่พุธนี้ หลังประชุม ปชป.เสร็จ เมิน ภท.อุ้ม "มานิต" ลั่นต้องฟังกระแสสังคม อ้อน "เสธ.หนั่น" ให้ช่วยงานต่อ พร้อมเปิดทางปรับอีกรอบหลังศึกซักฟอก "เทพเทือก" มึนถูกสื่อเต้าข่าว ปชป.ขัดแย้งชิงเสนอชื่อคนที่จะมาแทน "วิทยา" ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ ส่วน "ชวรัตน์" นัด "สมศักดิ์" พร้อมแกนนำ ภท.หารืออนาคต "มานิต" วันนี้ ยันไม่จำเป็นต้องฟังเสียงสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า เป็นการหารือเพื่อกำหนดวันประชุม กรรมการบริหารพรรค และการประชุมกรรมการบริหารพรรคกับส.ส.พรรค เพื่อพิจารณาบุคคลที่จะมาแทน นายวิทยา แก้วภารดัย ซึ่งลาออกจาก รมว.สาธารณสุข โดยจะนัดประชุมกันในวันที่ 6 ม.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีการหารือในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามไม่ได้หารือถึงตัวบุคคลกับนายสุเทพ เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคกับที่ประชุม ส.ส.พรรค
ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้ขอท่านมาตลอดว่ายังไม่อยากให้ออก เพราะคิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถใช้ประสบการณ์ช่วยครม. หลายเรื่องและตำแหน่งของพล.ต.สนั่นคือรองนายกฯ ขณะที่ท่านจะเสนอผู้ที่จะมาแทนท่านเป็นรัฐมนตรีช่วย นันก็ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา ก็ได้ขอให้ท่านอยู่ อยากจะให้ช่วยงานกันต่อ เมื่อถามว่า แสดงว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะเป็นการปรับเล็กใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใช่ครับ"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการหาบุคคลมาแทนนายวิทยา ของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ยึดตามโควตาภาค เมื่อถามว่า ขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์เองมีบุคคล เริ่มแสดงออกว่า ตัวเองมีความเหมาะสม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีหลายคนเหมาะสม แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับกติกาของพรรค พรรคมีข้อบังคับชัดเจนว่าวิธีการสรรหารัฐมนตรีได้มาโดยวิธีใด เป็นวิธีการที่เป็นประชาธิปไตยในพรรค ทุกคนก็ต้องยอมรับ
"สำหรับเป้าหมายของการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะรัฐมนตรี 2 ท่านที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข ก็เผชิญกับเหตุการณ์ นายวิทยาที่ลาออกไป ก็ได้ให้เหตุผลชัดเจน ก็ต้องมีคนเข้ามาแทน เราก็หวังว่าคนที่เข้ามาแทนเราจะพิจารณาและดูแลว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และเดินหน้างานกระทรวงได้ นโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ผลักดันกันมาด้านสาธารณสุขก็ต้องเดินต่อ ทั้งเรื่อง อสม. โรงพยาบาบสร้างเสริมสุขภาพระดับตำบล และเป้าหมายในส่วนของไทยเข้มแข็ง"
สวน"ชวรัตน์"ควรฟังกระแสสังคม
สำหรับกรณี นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ซึ่งถูกคณะกรรมการ สอบสวนข้อเท็จจริงสรุปผลว่าส่อเจตนาไม่สุจริตในโครงการการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีนายมานิตก็คงต้องฟังที่ประขุมพรรคภูมิใจไทยในวันที่ 5 ม.ค.นี้ก่อน
ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงสังคมในการตัดสินใจอนาคตของนายมานิตนั้น นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนกล่าวว่า "อย่างนั้นเหรอครับ แต่ว่าผมฟังกระแสสังคมครับ แล้วผมก็ตัดสินใจโดยฟังกระแสสังคม" เมื่อถามว่า ยังยึดตามกฎเหล็ก 9 ข้อใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใช่ครับ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ปรับเล็ก แล้วต่อไปจะมีปรับใหญ่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คำว่าปรับเล็กในขณะนี้ คือจะปรับ ครม.เท่าที่จำเป็น คือจะปรับเฉพาะบุคคล ที่พ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งที่ค้างไว้คือที่จะเอานายกอร์ปศักดิ์ สภาวะสุ รองนายกฯ ไปเป็นเลขาธิการนายกฯเมื่อถามว่า แสดงว่าครั้งนี้ปรับแค่ 3 ตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ตามความเป็นจริง ส่วนเรื่องการแลกกระทรวงยังไม่มีการพูดถึง
ยันลาออกยังต้องรับผิด
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความชัดเจนในการติดตามการทุจริตโครงการ ไทยเข้มแข็ง ของกระ ทรวงสาธารณสุข หลังจากนำรายงานสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน ความยาว 4,000 หน้าไปอ่านในช่วงวันหยุดปีใหม่ว่า ในรายงานมีการระบุชื่อซึ่งจะแตกต่างกันไป มีฝ่ายการเมืองมีระบุ 4 ท่าน ขณะนี้ลาออกไปแล้ว 3 ท่าน ส่วนของฝ่ายข้าราชการประจำมีค่อนข้างเยอะ แต่จะแตกต่างกันไปว่าบทบาทบางท่านก็คือตามสายงาน บางท่านมีบทบาทโดยตรงกับตัวโครงการที่เป็นปัญหา เช่นเป็นผู้ยืนยันว่าจะต้องมีรายการนั้น รายการนี้ หรือไปปรับปรุงแก้ไขอะไรต่างๆ ก็จะถูกระบุในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่ลาออกไปก็จะพ้นความผิดใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คนที่มีความผิดถ้ามีความผิดทางกฎหมายก็ไม่มีทางพ้นความรับผิดชอบทางกฎหมาย ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ เพียงแต่ว่าความรับผิดชอบทางการเมืองก็สิ้นสุดกันไปจากการลาออก โดยจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ แต่ ทั้งนี้ต้องแยกลักษณะที่จะส่งไป มันจะมีคนที่ต้องส่งไปทันทีเพราะว่าไม่สามารถจะใช้กฎหมายอื่นดำเนินการได้ กับจะมีคนที่อาจจะต้องมีการสอบเพิ่มเติม แล้วก็จะมีคนที่อาจจะต้องดำเนินการคู่ขนานกันไป เพราะมันจะมีการเมืองกับกฎหมายแล้วก็วินัยกับกฎหมาย
ต่อข้อถามว่าจะเป็นภาระหนักของคนที่จะเข้ามารับหน้าที่ต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ คนเข้ามาใหม่ก็งานหนัก ต้องพร้อมตรงนี้ ส่วนจะทำอย่างไรในการล้างปัญหาการทุจริตได้และไม่ให้เกิดปัญหากับการทำงานนั้นตนคิดว่าในเมื่อข้อมูล ในรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบจะบ่งบอกชัดเจนถึงที่มาของปัญหา เพราะฉะนั้นถ้าศึกษาตรงนี้ก็จะมองเห็นว่าจะต้องป้องกันแก้ไขอย่างไร เพราะว่าจริง ๆ คณะกรรมการก็มีข้อเสนอแนะอยู่ว่าวิธีการป้องกันและการแก้ไขปัญหานี้น่าจะทำอย่างไร
"เทพเทือก" มึนสื่อเต้าข่าว รมว.สธ.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ารู้สึกงงกับข่าวที่เขียนเป็นตุเป็นตะว่าตนเสนอคนที่จะมาเป็น รมว.สาธารณสุข แทนนายวิทยา แก้วภราดัยที่ลาออกไปแล้วนายกรัฐมนตรีไม่เอา ทั้งๆ ตนยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีเลย คงมีคนพยายามที่จะจัดรูปแบบของการนำเสนอข่าว
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคสนับสนุน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ส่วนนายสุเทพ สนับสนุนนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราชนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก?็นั่นนะซิ ผมยังไม่เห็นเลย ทั้งหมดนี้ ก็ต้องทำตามกระบวนการของพรรค คือต้องประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อผลออกมาอย่างไรก็เอาไปเสนอในที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับส.ส. ซึ่งต้องว่ากันอีกที และเมื่อได้ผลอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
"ในพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนก็สั่งใครไม่ได้ ผมก็สั่งใครไม่ได้ ท่านหัวหน้าพรรคก็สั่งใครไม่ได้ ทุกคนมีความคิดที่เป็นอิสระและมีเหตุมีผล พรรคที่อยู่มาได้ ก็อยู่ด้วยคนส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ด้วยคนใดคนหนึ่ง การทำงานของพรรคมีระบบ มีรูปแบบของการทำงานที่ชัดเจน"
ส่วนจะมีการสลับกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ ปฏิเสธว่า ยังไม่มีความคิดนี้ ต่อข้อถามว่าปีนี้เป็นปีเสือดุ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลเตรียมการ อย่างไรหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "เราก็อย่าไปดุกับเขาซิ" เมื่อถามอีกว่า จะรับมือไหวมั้ย นายสุเทพ กล่าวว่า รับมือได้ และเราก็รับมือมาปีหนึ่งแล้ว
ส่วนกรณีของนายมานิต นพอมรบดี นั้นนายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอดูว่า พรรคภูมิใจไทย พิจารณาแล้วจะมีความเห็นอย่างไร เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นพรรคแกนนำเรามีสิทธิที่จะยื่นเงื่อนไขไปหรือไม่ว่ากรณีนี้สังคมมีความเคลือบแคลงจะขอให้มีการเปลี่ยนตัว นายสุเทพ กล่าวว่า การเมืองก็มีกติกามีมารยาท เรื่องภายในของแต่ละพรรคก็ให้แต่ละพรรคเป็นคนพิจารณา ต่อข้อถามว่า ถ้านายมานิตไม่ออกเราก็ต้องยอมรับสภาพใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดอะไรไปถึงขนาดนั้น
นัด ปชป.หารือปรับ ครม. 6 ม.ค.
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธและนายสุเทพว่า ได้มีการหารือถึงการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคที่ว่างลง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้สั่งการให้เชิญคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุมในวันพุธที่ 6 ม.ค. เวลา 15.30 น. เพื่อพิจารณา บุคคลผู้ที่มีความเหมาะสม ที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขแทนนายวิทยา แก้วภราดรัย ที่ได้ลาออกไป ซึ่งเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบแล้ว ก็จะนำรายชื่อบุคคลดังกล่าวเพื่อไปขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ส.ส.พรรค ซึ่งทางพรรค ได้มีการกำหนดให้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคในวันเดียวกัน แต่เป็นเวลา 16.30 น. เป็นการเฉพาะ ซึ่งการประชุมดังกล่าวหัวหน้าพรรคต้องการให้มีความชัดเจน และเพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นกระแสข่าว ที่ไม่อยู่บนพื้นฐาน ความเป็นจริง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรงกระเพื่อมภายในพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่ถูกวิจารณ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคระบุว่า เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรค ที่จะเสนอรายชื่อต่อกรรมการบริหารพรรค จะใช้กฏเกณฑ์นี้ หรือจะให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้เสนอ นายเทพไท กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้กล่าวเพียงว่า ให้ยึดตามระเบียบข้อบังคับพรรคและประเพณีวิธีปฏิบัติของพรรคที่ปฏิบัติกันมา และในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ หัวหน้าพรรคจะเปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารพรรค ได้พิจารณาและอภิปรายถึง คุณสมบัติ ความเหมาะสมของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวอย่างเปิดกว้าง เต็มที่ ซึ่งท่านยืนยันและเชื่อว่าจะไม่มีการล็อคสเปกหรือมีปัญหาการกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า ตามที่มีกระแสข่าววิเคราะห์วิจารณ์ออกมาทางสื่อแขนงต่างๆ
เปิดทางปรับ ครม.หลังซักฟอก
นายเทพไท กล่าวว่าการพิจารณาปรับ ครม.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ เป็นการพิจารณาเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลง แต่นายกฯยอมรับว่า หลังการอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลจบลงแล้ว หากจำเป็นจะต้องมีการปรับ ครม.เพื่อประสิทธิภาพ ในการบริหารงานแผ่นดินในส่วนของพรรคตามมาอีก ก็ค่อยมาพิจารณากันใหม่ ทั้งในส่วนของผู้ที่จะถูกปรับออกและถูกปรับเข้ามาทำหน้าที่แทนใหม่อีกครั้ง โดยการปรับ ครม.หลังการอภิปรายฯนี้ พรรคจะดูตามความเหมาะสมและประสิทธิภาพการทำงาน ว่า ได้บรรลุวัตุประสงค์และนโยบายของแต่ละกระทรวงที่วางไว้หรือไม่ อย่างไร
"ชวรัตน์"ไม่กดดันปลด"มานิต"
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่มีโอกาสหารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา กรณีนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารสุข ถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สรุปผลส่อเจตนาไม่สุจริตในโครงการการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข แต่ความชัดเจนจะมีหลังประชุมพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ โดยอาจจะมีการเชิญนายสมศักดิ์ มาร่วมหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสสังคมมีความกดดันนายมานิต จะต้องลาออกจาก ตำแหน่งเหมือนนายวิทยา แก้วภราดัย หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้นายมานิต ยังทำงานอยู่ ส่วนกระแสกดดัน อย่าไปฟัง ให้เป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ดีกว่า เพราะจะต้องพิจารณาจากความถูกต้องเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมานายมานิต ก็ทำงานได้ดี ส่วนจะมีเจตนาที่จะส่อไปตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการหรือไม่นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการสอบสวนในเชิงลึก จึงไม่สามารถที่จะไปวิจารณ์ได้
"มานิต" ทำงานปกติแต่รูดซิปปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.)นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงสาธารณตามปกติ โดยไม่ตอบข้อซักถามใดๆ ของสื่อมวลชนเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง เนื่องจากต้องรอมติ พรรคภูมิใจไทยจะมีการประชุมในวันที่ 5 ม.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ใดหรือไม่ นายมานิต ตอบด้วยหน้าตาที่แจ่มใสขึ้นว่า ได้ไปสวดมนต์ข้ามปีกับบุตรสาวที่วัดไตรมิตรวิทยารามและสักการะพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เพื่อเป็นสิริมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจนกระทั่งเวลา ประมาณ 14.20 น. นายมานิต ได้เดินทางออกจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างเงียบๆ โดยเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น ไม่ใช่ลิฟต์ที่ใช้เป็นปกติ ขณะที่มีสื่อมวลชนดักรอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า เป็นการหารือเพื่อกำหนดวันประชุม กรรมการบริหารพรรค และการประชุมกรรมการบริหารพรรคกับส.ส.พรรค เพื่อพิจารณาบุคคลที่จะมาแทน นายวิทยา แก้วภารดัย ซึ่งลาออกจาก รมว.สาธารณสุข โดยจะนัดประชุมกันในวันที่ 6 ม.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีการหารือในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามไม่ได้หารือถึงตัวบุคคลกับนายสุเทพ เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคกับที่ประชุม ส.ส.พรรค
ส่วนกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้ขอท่านมาตลอดว่ายังไม่อยากให้ออก เพราะคิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถใช้ประสบการณ์ช่วยครม. หลายเรื่องและตำแหน่งของพล.ต.สนั่นคือรองนายกฯ ขณะที่ท่านจะเสนอผู้ที่จะมาแทนท่านเป็นรัฐมนตรีช่วย นันก็ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา ก็ได้ขอให้ท่านอยู่ อยากจะให้ช่วยงานกันต่อ เมื่อถามว่า แสดงว่าการปรับครม.ครั้งนี้จะเป็นการปรับเล็กใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใช่ครับ"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการหาบุคคลมาแทนนายวิทยา ของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ยึดตามโควตาภาค เมื่อถามว่า ขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์เองมีบุคคล เริ่มแสดงออกว่า ตัวเองมีความเหมาะสม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีหลายคนเหมาะสม แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับกติกาของพรรค พรรคมีข้อบังคับชัดเจนว่าวิธีการสรรหารัฐมนตรีได้มาโดยวิธีใด เป็นวิธีการที่เป็นประชาธิปไตยในพรรค ทุกคนก็ต้องยอมรับ
"สำหรับเป้าหมายของการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะรัฐมนตรี 2 ท่านที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข ก็เผชิญกับเหตุการณ์ นายวิทยาที่ลาออกไป ก็ได้ให้เหตุผลชัดเจน ก็ต้องมีคนเข้ามาแทน เราก็หวังว่าคนที่เข้ามาแทนเราจะพิจารณาและดูแลว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และเดินหน้างานกระทรวงได้ นโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ผลักดันกันมาด้านสาธารณสุขก็ต้องเดินต่อ ทั้งเรื่อง อสม. โรงพยาบาบสร้างเสริมสุขภาพระดับตำบล และเป้าหมายในส่วนของไทยเข้มแข็ง"
สวน"ชวรัตน์"ควรฟังกระแสสังคม
สำหรับกรณี นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ซึ่งถูกคณะกรรมการ สอบสวนข้อเท็จจริงสรุปผลว่าส่อเจตนาไม่สุจริตในโครงการการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีนายมานิตก็คงต้องฟังที่ประขุมพรรคภูมิใจไทยในวันที่ 5 ม.ค.นี้ก่อน
ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงสังคมในการตัดสินใจอนาคตของนายมานิตนั้น นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนกล่าวว่า "อย่างนั้นเหรอครับ แต่ว่าผมฟังกระแสสังคมครับ แล้วผมก็ตัดสินใจโดยฟังกระแสสังคม" เมื่อถามว่า ยังยึดตามกฎเหล็ก 9 ข้อใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใช่ครับ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ปรับเล็ก แล้วต่อไปจะมีปรับใหญ่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คำว่าปรับเล็กในขณะนี้ คือจะปรับ ครม.เท่าที่จำเป็น คือจะปรับเฉพาะบุคคล ที่พ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งที่ค้างไว้คือที่จะเอานายกอร์ปศักดิ์ สภาวะสุ รองนายกฯ ไปเป็นเลขาธิการนายกฯเมื่อถามว่า แสดงว่าครั้งนี้ปรับแค่ 3 ตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ตามความเป็นจริง ส่วนเรื่องการแลกกระทรวงยังไม่มีการพูดถึง
ยันลาออกยังต้องรับผิด
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความชัดเจนในการติดตามการทุจริตโครงการ ไทยเข้มแข็ง ของกระ ทรวงสาธารณสุข หลังจากนำรายงานสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน ความยาว 4,000 หน้าไปอ่านในช่วงวันหยุดปีใหม่ว่า ในรายงานมีการระบุชื่อซึ่งจะแตกต่างกันไป มีฝ่ายการเมืองมีระบุ 4 ท่าน ขณะนี้ลาออกไปแล้ว 3 ท่าน ส่วนของฝ่ายข้าราชการประจำมีค่อนข้างเยอะ แต่จะแตกต่างกันไปว่าบทบาทบางท่านก็คือตามสายงาน บางท่านมีบทบาทโดยตรงกับตัวโครงการที่เป็นปัญหา เช่นเป็นผู้ยืนยันว่าจะต้องมีรายการนั้น รายการนี้ หรือไปปรับปรุงแก้ไขอะไรต่างๆ ก็จะถูกระบุในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนที่ลาออกไปก็จะพ้นความผิดใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คนที่มีความผิดถ้ามีความผิดทางกฎหมายก็ไม่มีทางพ้นความรับผิดชอบทางกฎหมาย ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ เพียงแต่ว่าความรับผิดชอบทางการเมืองก็สิ้นสุดกันไปจากการลาออก โดยจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ แต่ ทั้งนี้ต้องแยกลักษณะที่จะส่งไป มันจะมีคนที่ต้องส่งไปทันทีเพราะว่าไม่สามารถจะใช้กฎหมายอื่นดำเนินการได้ กับจะมีคนที่อาจจะต้องมีการสอบเพิ่มเติม แล้วก็จะมีคนที่อาจจะต้องดำเนินการคู่ขนานกันไป เพราะมันจะมีการเมืองกับกฎหมายแล้วก็วินัยกับกฎหมาย
ต่อข้อถามว่าจะเป็นภาระหนักของคนที่จะเข้ามารับหน้าที่ต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ คนเข้ามาใหม่ก็งานหนัก ต้องพร้อมตรงนี้ ส่วนจะทำอย่างไรในการล้างปัญหาการทุจริตได้และไม่ให้เกิดปัญหากับการทำงานนั้นตนคิดว่าในเมื่อข้อมูล ในรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบจะบ่งบอกชัดเจนถึงที่มาของปัญหา เพราะฉะนั้นถ้าศึกษาตรงนี้ก็จะมองเห็นว่าจะต้องป้องกันแก้ไขอย่างไร เพราะว่าจริง ๆ คณะกรรมการก็มีข้อเสนอแนะอยู่ว่าวิธีการป้องกันและการแก้ไขปัญหานี้น่าจะทำอย่างไร
"เทพเทือก" มึนสื่อเต้าข่าว รมว.สธ.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ารู้สึกงงกับข่าวที่เขียนเป็นตุเป็นตะว่าตนเสนอคนที่จะมาเป็น รมว.สาธารณสุข แทนนายวิทยา แก้วภราดัยที่ลาออกไปแล้วนายกรัฐมนตรีไม่เอา ทั้งๆ ตนยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีเลย คงมีคนพยายามที่จะจัดรูปแบบของการนำเสนอข่าว
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคสนับสนุน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ส่วนนายสุเทพ สนับสนุนนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราชนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก?็นั่นนะซิ ผมยังไม่เห็นเลย ทั้งหมดนี้ ก็ต้องทำตามกระบวนการของพรรค คือต้องประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อผลออกมาอย่างไรก็เอาไปเสนอในที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับส.ส. ซึ่งต้องว่ากันอีกที และเมื่อได้ผลอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
"ในพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนก็สั่งใครไม่ได้ ผมก็สั่งใครไม่ได้ ท่านหัวหน้าพรรคก็สั่งใครไม่ได้ ทุกคนมีความคิดที่เป็นอิสระและมีเหตุมีผล พรรคที่อยู่มาได้ ก็อยู่ด้วยคนส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ด้วยคนใดคนหนึ่ง การทำงานของพรรคมีระบบ มีรูปแบบของการทำงานที่ชัดเจน"
ส่วนจะมีการสลับกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ ปฏิเสธว่า ยังไม่มีความคิดนี้ ต่อข้อถามว่าปีนี้เป็นปีเสือดุ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลเตรียมการ อย่างไรหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "เราก็อย่าไปดุกับเขาซิ" เมื่อถามอีกว่า จะรับมือไหวมั้ย นายสุเทพ กล่าวว่า รับมือได้ และเราก็รับมือมาปีหนึ่งแล้ว
ส่วนกรณีของนายมานิต นพอมรบดี นั้นนายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอดูว่า พรรคภูมิใจไทย พิจารณาแล้วจะมีความเห็นอย่างไร เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นพรรคแกนนำเรามีสิทธิที่จะยื่นเงื่อนไขไปหรือไม่ว่ากรณีนี้สังคมมีความเคลือบแคลงจะขอให้มีการเปลี่ยนตัว นายสุเทพ กล่าวว่า การเมืองก็มีกติกามีมารยาท เรื่องภายในของแต่ละพรรคก็ให้แต่ละพรรคเป็นคนพิจารณา ต่อข้อถามว่า ถ้านายมานิตไม่ออกเราก็ต้องยอมรับสภาพใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิดอะไรไปถึงขนาดนั้น
นัด ปชป.หารือปรับ ครม. 6 ม.ค.
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังเดินทางเข้าพบนายอภิสิทธและนายสุเทพว่า ได้มีการหารือถึงการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคที่ว่างลง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้สั่งการให้เชิญคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุมในวันพุธที่ 6 ม.ค. เวลา 15.30 น. เพื่อพิจารณา บุคคลผู้ที่มีความเหมาะสม ที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขแทนนายวิทยา แก้วภราดรัย ที่ได้ลาออกไป ซึ่งเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบแล้ว ก็จะนำรายชื่อบุคคลดังกล่าวเพื่อไปขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ส.ส.พรรค ซึ่งทางพรรค ได้มีการกำหนดให้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคในวันเดียวกัน แต่เป็นเวลา 16.30 น. เป็นการเฉพาะ ซึ่งการประชุมดังกล่าวหัวหน้าพรรคต้องการให้มีความชัดเจน และเพื่อไม่ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จนกลายเป็นกระแสข่าว ที่ไม่อยู่บนพื้นฐาน ความเป็นจริง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรงกระเพื่อมภายในพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่ถูกวิจารณ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคระบุว่า เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรค ที่จะเสนอรายชื่อต่อกรรมการบริหารพรรค จะใช้กฏเกณฑ์นี้ หรือจะให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้เสนอ นายเทพไท กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้กล่าวเพียงว่า ให้ยึดตามระเบียบข้อบังคับพรรคและประเพณีวิธีปฏิบัติของพรรคที่ปฏิบัติกันมา และในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ หัวหน้าพรรคจะเปิดโอกาสให้คณะกรรมการบริหารพรรค ได้พิจารณาและอภิปรายถึง คุณสมบัติ ความเหมาะสมของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวอย่างเปิดกว้าง เต็มที่ ซึ่งท่านยืนยันและเชื่อว่าจะไม่มีการล็อคสเปกหรือมีปัญหาการกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า ตามที่มีกระแสข่าววิเคราะห์วิจารณ์ออกมาทางสื่อแขนงต่างๆ
เปิดทางปรับ ครม.หลังซักฟอก
นายเทพไท กล่าวว่าการพิจารณาปรับ ครม.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ เป็นการพิจารณาเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลง แต่นายกฯยอมรับว่า หลังการอภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลจบลงแล้ว หากจำเป็นจะต้องมีการปรับ ครม.เพื่อประสิทธิภาพ ในการบริหารงานแผ่นดินในส่วนของพรรคตามมาอีก ก็ค่อยมาพิจารณากันใหม่ ทั้งในส่วนของผู้ที่จะถูกปรับออกและถูกปรับเข้ามาทำหน้าที่แทนใหม่อีกครั้ง โดยการปรับ ครม.หลังการอภิปรายฯนี้ พรรคจะดูตามความเหมาะสมและประสิทธิภาพการทำงาน ว่า ได้บรรลุวัตุประสงค์และนโยบายของแต่ละกระทรวงที่วางไว้หรือไม่ อย่างไร
"ชวรัตน์"ไม่กดดันปลด"มานิต"
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่มีโอกาสหารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา กรณีนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารสุข ถูกคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สรุปผลส่อเจตนาไม่สุจริตในโครงการการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข แต่ความชัดเจนจะมีหลังประชุมพรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ โดยอาจจะมีการเชิญนายสมศักดิ์ มาร่วมหารือด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสสังคมมีความกดดันนายมานิต จะต้องลาออกจาก ตำแหน่งเหมือนนายวิทยา แก้วภราดัย หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้นายมานิต ยังทำงานอยู่ ส่วนกระแสกดดัน อย่าไปฟัง ให้เป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ดีกว่า เพราะจะต้องพิจารณาจากความถูกต้องเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมานายมานิต ก็ทำงานได้ดี ส่วนจะมีเจตนาที่จะส่อไปตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการหรือไม่นั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการสอบสวนในเชิงลึก จึงไม่สามารถที่จะไปวิจารณ์ได้
"มานิต" ทำงานปกติแต่รูดซิปปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4 ม.ค.)นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงสาธารณตามปกติ โดยไม่ตอบข้อซักถามใดๆ ของสื่อมวลชนเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง เนื่องจากต้องรอมติ พรรคภูมิใจไทยจะมีการประชุมในวันที่ 5 ม.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ใดหรือไม่ นายมานิต ตอบด้วยหน้าตาที่แจ่มใสขึ้นว่า ได้ไปสวดมนต์ข้ามปีกับบุตรสาวที่วัดไตรมิตรวิทยารามและสักการะพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เพื่อเป็นสิริมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจนกระทั่งเวลา ประมาณ 14.20 น. นายมานิต ได้เดินทางออกจากกระทรวงสาธารณสุข อย่างเงียบๆ โดยเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น ไม่ใช่ลิฟต์ที่ใช้เป็นปกติ ขณะที่มีสื่อมวลชนดักรอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก