นครศรีธรรมราช - โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เบรกสมาชิกพรรคสงบคำพูดเรื่องปรับ ครม. หวั่นถูกบางกลุ่มนำไปขยายผลใส่ร้ายให้พรรค และพรรคไม่มีหลายมุ้งหลายกลุ่ม ชี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมปรับ ครม.ว่าในเรื่องนี้สมาชิกพรรคไม่ควรที่จะออกมาพูด หรือขยายผลให้สังคมเห็นว่าภายในพรรคมีความขัดแย้งและเห็นต่าง อาจจะนำไปให้บางกลุ่มบางฝ่ายขยายผลตอกลิ่มให้เกิดความขัดแย้งในพรรคได้
การปรับ ครม.ครั้งนี้เพื่อเอาคนเข้ามาแทนตำแหน่งที่ว่างไม่ใช่ปรับเพื่อการทำงานหรือประสิทธิภาพของกาสรทำงานในรอบปี น่าจะมอบเรื่องนี้ให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาหาบุคคล และนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค เรื่องนี้หากคุยในวงแคบอาจจะทำให้ได้ข้อยุติเร็วขึ้นหากสมาชิกแสดงความคิดเห็นหลากหลายอาจมทำให้เกิดกระแส
ทั้งนี้ เชื่อว่าคนใกล้ชิดใครก็เชียร์พวกของเขาทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อตัวบุคคลที่เป็นแคนดิเดตเกิดข้อเปรียบเทียบ เรื่องนี้จึงไม่น่าเอาเรื่องเกี่ยวกับโควตาภาคหรือโควตากลุ่ม โควตาจังหวัดมาเกี่ยวข้องน่าจะเอาเรื่องของศักยภาพ ประสิทธิภาพของคนเข้ามาแก้ปัญหากอบกู้ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
“เพราะฉะนั้นเป็นใครก็ได้ที่นายกฯ เห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปแก้ปัญหาได้นายกจะมอบคนนั้นไป ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใน ครม.จะพูดถึงกลุ่มถึงก้อนเป็นประจำแต่ข้อเท็จจริงในประชาธิปัตย์คือจะไม่มีกลุ่มมุ้งทางการเมือง ใครก็ตามที่พยายามจะอ้างตัวเรียกร้องในนามกลุ่มจะทำให้ถูกปฏิเสธจากสมาชิกส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นหนึ่งเดียวและเคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หากเห็นต่างควรพูดในที่ประชุมพรรคมากกว่าผ่านสื่อ” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมปรับ ครม.ว่าในเรื่องนี้สมาชิกพรรคไม่ควรที่จะออกมาพูด หรือขยายผลให้สังคมเห็นว่าภายในพรรคมีความขัดแย้งและเห็นต่าง อาจจะนำไปให้บางกลุ่มบางฝ่ายขยายผลตอกลิ่มให้เกิดความขัดแย้งในพรรคได้
การปรับ ครม.ครั้งนี้เพื่อเอาคนเข้ามาแทนตำแหน่งที่ว่างไม่ใช่ปรับเพื่อการทำงานหรือประสิทธิภาพของกาสรทำงานในรอบปี น่าจะมอบเรื่องนี้ให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาหาบุคคล และนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค เรื่องนี้หากคุยในวงแคบอาจจะทำให้ได้ข้อยุติเร็วขึ้นหากสมาชิกแสดงความคิดเห็นหลากหลายอาจมทำให้เกิดกระแส
ทั้งนี้ เชื่อว่าคนใกล้ชิดใครก็เชียร์พวกของเขาทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อตัวบุคคลที่เป็นแคนดิเดตเกิดข้อเปรียบเทียบ เรื่องนี้จึงไม่น่าเอาเรื่องเกี่ยวกับโควตาภาคหรือโควตากลุ่ม โควตาจังหวัดมาเกี่ยวข้องน่าจะเอาเรื่องของศักยภาพ ประสิทธิภาพของคนเข้ามาแก้ปัญหากอบกู้ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
“เพราะฉะนั้นเป็นใครก็ได้ที่นายกฯ เห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปแก้ปัญหาได้นายกจะมอบคนนั้นไป ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใน ครม.จะพูดถึงกลุ่มถึงก้อนเป็นประจำแต่ข้อเท็จจริงในประชาธิปัตย์คือจะไม่มีกลุ่มมุ้งทางการเมือง ใครก็ตามที่พยายามจะอ้างตัวเรียกร้องในนามกลุ่มจะทำให้ถูกปฏิเสธจากสมาชิกส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นหนึ่งเดียวและเคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค หากเห็นต่างควรพูดในที่ประชุมพรรคมากกว่าผ่านสื่อ” นายเทพไทกล่าว