นครศรีธรรมราช - "ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล" ให้กำลังใจ “วิทยา” มั่นใจไม่มีเอี่ยวทุจริต ยังไม่คิดนั่งแท่นรัฐมนตรีสาธารณสุข ขอลุยหาเสียงให้น้องชายชิงเก้าอี้นายก อบจ.นครศรีธรรมราช – พร้อมเตรียมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้ง 3 กก.รับมือยันข้อมูลเพียบ
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวนายพิชัย บุณยเกียรติ น้องชายและทีมบริหาร ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มกราคม 2553นี้ว่า ตนยังไม่ทราบข่าวเรื่องที่นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศลาออก เนื่องจากตนอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามตนขอให้กำลังใจกับนายวิทยา ตนเชื่อว่าคุณวิทยาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
“พี่น้องประชาชนต้องติดตามฟังคำชี้แจงจากรัฐมนตรีเอง ผมเชื่อว่าชาวนครศรีธรรมราชทุกคนก็ให้กำลังใจท่านรัฐมนตรี ผมยังไม่ได้คิดอะไร ในช่วงนี้ขอให้กำลังใจกันก่อน ใครผิดก็ว่ากันไป ส่วนคนไม่ผิดก็ควรให้กำลังใจ ชาวนครต้องให้กำลังใจท่านให้มาก ท่านทำงานอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา ท่านทำดีที่สุดแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังจากที่มีข่าวนายวิทยาลาออกจากกระทรวงสาธารณสุข ทำให้บรรดาแกนนำกลุ่ม อสม. ประชาชนต่างรู้สึกตกใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พร้อมกับจะมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มประชาชนเพื่อแสดงความเสียใจกับรัฐมนตรี
นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าต่ออีกว่า เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) ได้มีการประชุมวิปรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งได้มีการเตรียมรับมือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ฝ่าย คือคณะทำงานสำหรับการรวบรวมข้อมูล คณะทำงานสำหรับการชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนทั้งก่อนการอภิปราย ระหว่างการอภิปราย หลังการอภิปรายและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับ เราเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบให้เต็มที่ โดยไม่มีการสกัดกั้นจากอำนาจรัฐ คิดว่าพวกเรายืนยันตรงกันว่า 275 เสียงยังมีความพร้อมเพรียง หากเป็นเช่นนี้เสียงไม่ไว้วางใจคงไม่ถึงกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน เป็นหน้าที่ของ รมต.ที่ถูกอภิปรายที่จะต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพราะว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลแพ้เสียงในสภา แต่ว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้หรือรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ก็เพราะว่าไม่สามารถทำความเข้าใจได้
เราได้มีการวิเคราะห์ถึงแนวทางของฝ่ายค้านทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนกลางเดือนกุมภาพันธ์ และจะอภิปรายไม่ไว้วางใจต้นเดือนมีนาคม โดยไปยึดโยงกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและหวังเสี้ยมให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความแตกแยก
“วันนี้ผมอยากบอกฝ่ายค้านว่าเสียใจด้วย เพราะฝ่ายรัฐบาลรู้ทันโดยเฉพาะผมเองมีข้อมูลของฝ่ายค้านของฝ่ายค้านอยู่ในมือเยอะ เพราะผมเป็น สส.มาหลายสมัย เพราะฉะนั้นต่างคนต่างรู้ทันกัน ถ้าหวังว่าจะเสี้ยมให้แตกไม่มีปัญหาแน่นอน สิ่งที่เรากังวลอย่างเดียวก็คือว่า เราจะต่อสู้ด้านข้อมูลเพื่อให้ประชาชนให้ความศรัทธากับฝ่ายใดเท่านั้นเอง”
ต่อข้อถามจะมีการปรับ ครม.ก่อนและหลังอภิปรายหรือไม่ นายชินวรณ์ ตอบว่า อันนี้ผมไม่ทราบเพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เข้าใจว่าเรื่องเดิมก็คงเป็นเรื่องของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี กับ รมต.พฤทธิชัย ดำรงรัตน์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องของท่านนายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวนายพิชัย บุณยเกียรติ น้องชายและทีมบริหาร ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มกราคม 2553นี้ว่า ตนยังไม่ทราบข่าวเรื่องที่นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศลาออก เนื่องจากตนอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามตนขอให้กำลังใจกับนายวิทยา ตนเชื่อว่าคุณวิทยาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
“พี่น้องประชาชนต้องติดตามฟังคำชี้แจงจากรัฐมนตรีเอง ผมเชื่อว่าชาวนครศรีธรรมราชทุกคนก็ให้กำลังใจท่านรัฐมนตรี ผมยังไม่ได้คิดอะไร ในช่วงนี้ขอให้กำลังใจกันก่อน ใครผิดก็ว่ากันไป ส่วนคนไม่ผิดก็ควรให้กำลังใจ ชาวนครต้องให้กำลังใจท่านให้มาก ท่านทำงานอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา ท่านทำดีที่สุดแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังจากที่มีข่าวนายวิทยาลาออกจากกระทรวงสาธารณสุข ทำให้บรรดาแกนนำกลุ่ม อสม. ประชาชนต่างรู้สึกตกใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พร้อมกับจะมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มประชาชนเพื่อแสดงความเสียใจกับรัฐมนตรี
นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าต่ออีกว่า เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) ได้มีการประชุมวิปรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งได้มีการเตรียมรับมือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ฝ่าย คือคณะทำงานสำหรับการรวบรวมข้อมูล คณะทำงานสำหรับการชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนทั้งก่อนการอภิปราย ระหว่างการอภิปราย หลังการอภิปรายและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับ เราเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบให้เต็มที่ โดยไม่มีการสกัดกั้นจากอำนาจรัฐ คิดว่าพวกเรายืนยันตรงกันว่า 275 เสียงยังมีความพร้อมเพรียง หากเป็นเช่นนี้เสียงไม่ไว้วางใจคงไม่ถึงกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน เป็นหน้าที่ของ รมต.ที่ถูกอภิปรายที่จะต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพราะว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลแพ้เสียงในสภา แต่ว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้หรือรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ก็เพราะว่าไม่สามารถทำความเข้าใจได้
เราได้มีการวิเคราะห์ถึงแนวทางของฝ่ายค้านทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนกลางเดือนกุมภาพันธ์ และจะอภิปรายไม่ไว้วางใจต้นเดือนมีนาคม โดยไปยึดโยงกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและหวังเสี้ยมให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความแตกแยก
“วันนี้ผมอยากบอกฝ่ายค้านว่าเสียใจด้วย เพราะฝ่ายรัฐบาลรู้ทันโดยเฉพาะผมเองมีข้อมูลของฝ่ายค้านของฝ่ายค้านอยู่ในมือเยอะ เพราะผมเป็น สส.มาหลายสมัย เพราะฉะนั้นต่างคนต่างรู้ทันกัน ถ้าหวังว่าจะเสี้ยมให้แตกไม่มีปัญหาแน่นอน สิ่งที่เรากังวลอย่างเดียวก็คือว่า เราจะต่อสู้ด้านข้อมูลเพื่อให้ประชาชนให้ความศรัทธากับฝ่ายใดเท่านั้นเอง”
ต่อข้อถามจะมีการปรับ ครม.ก่อนและหลังอภิปรายหรือไม่ นายชินวรณ์ ตอบว่า อันนี้ผมไม่ทราบเพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เข้าใจว่าเรื่องเดิมก็คงเป็นเรื่องของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี กับ รมต.พฤทธิชัย ดำรงรัตน์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องของท่านนายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินการในเรื่องนี้