“ชวน” ลั่นไม่ล้วงลูกแต่งตั้งเก้าอี้ รมว.สธ. ยันให้เกียรติ หน.-กก.บริหารพรรค ปชป.สรรหาคนเต็มที่ แนะลูกพรรคยอมรับผลชี้ขาดของหัวหน้าตามธรรมเนียม รับตำแหน่งน้อยคนมากย่อมมีแรงกระเพื่อมเป็นธรรมดา แต่ดีกว่าไม่มีให้เลือก ตัดพ้อสงสาร“วิทยา” เชื่อไม่เอี่ยวทุจริต สธ.
วันนี้ (3 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการหาบุคคลมาเป็น รมว.สาธารณสุข แทนนายวิทยา แก้วภราดรัย ที่ลาออกไปว่า ตนไม่ได้ใช้สิทธิ์ความเกรงใจใดๆ ขอให้ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะเข้าใจถึงการทำหน้าที่ของคนอื่นๆ จึงจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องของพรรคที่จะพิจารณา เพราะหลายคนมีความเหมาะสมทั้งความอาวุโส ความประพฤติ จึงต้องให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา อย่างไรก็ตาม ตนเป็นผู้แนะนำเองว่าพรรคจะต้องให้เกียรติหัวหน้าพรรค ซึ่งหัวหน้าจะไปหารือกับกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น ตนเองหรือคนอื่นๆจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อำนาจจึงเป็นของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ทุกคนที่มีชื่อเป็นแคดิเดตล้วนก็เป็นรุ่นน้องและใกล้ชิดของตนทั้งนั้น ดังนั้น การจะไปสนับสนุนคนใดคนหนึ่งก็จะมีปัญหา จึงต้องเป็นหน้าที่ของคนที่มีหน้าที่โดยตรง เช่น ตนเองถือว่าเป็นคนนอก ไม่ได้เป็นทั้งครม.หรือกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ละครั้ง ตำแหน่งมีน้อยแต่คนมีมากจะเกิดแรงกระเพื่อมตามมา นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องพิจารณาคนที่เหมาะสมที่สุด ดีกว่าที่ไม่มีคนมาให้เลือกหรือคนไม่พอเลือก หลายคนมีบทบาทในการช่วยงานพรรคมาทั้งนั้น เช่น ในตอนคดียุบพรรค คนเหล่านี้ต่างมีบทบาททั้งนั้น แล้วแต่ว่าจะมอบหมายภารกิจให้ใคร และเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมทำงานด้วยกัน ซึ่งก็ได้รับความเป็นธรรมจากคณะตุลาการรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบัน ซึ่งยังยืนว่าเป็นชุดที่มีความเป็นธรรม ที่มีคนวิ่งเต้นแล้วไม่สำเร็จ จึงมีคนพาลไม่พอใจ จึงไปพูดถึงในทางลบว่าศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันต่างๆนานา พรรคการเมืองต้องมีหลักในการยึดกฏหมายบ้านเมืองตามกฏกติกา
“บางสมัยกรรมการบริหารพรรคก็จะให้อำนาจหัวหน้าพรรค ซึ่งนายกฯ เป็นผู้เลือก เช่นสมัยผม กรรมการบริหารพรรคเขาจะให้ผมเลือก รมว.คลัง และรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจเอง แต่ผมก็ขออนุญาตเขาว่า ผมจะเอาคนนอกมาน่ะ ซึ่งเขาก็ยอมและไม่ได้ว่าอะไร ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเขาไม่ให้อำนาจเรา แล้วเราไปทำ มันก็ขัดแย้งกับกรรมการบริหารพรรค ดังนั้นปกติแล้ว กรรมการบริหารพรรคพิจารณาเรื่องนี้แล้ว ก็จะให้หัวหน้าพรรคไปพิจารณาเอง ส่วนสมาชิกพรรคก็มีหน้าที่รับทราบว่า เมื่อทางหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคตัดสินใจ อย่างไรแล้วก็แจ้งให้ทราบ ทุกอย่างก็จบ นี่เป็นโดยหลักเพราะสมาชิกพรรคได้เลือกกรรมการบริหารพรรคไปแล้ว กรรมการบริหารพรรคก็มีหน้าที่ทำหน้าที่แทนสมาชิก เว้นบางเรื่องที่กรรมกรบริหารพรรคไม่มีเวลาพิจารณามาประชุม ก็มอบอำนาจเรื่องนั้นๆ ให้หัวหน้าพรรคต้ดสินเองได้” นายชวนกล่าว
นอกจากนี้ นายชวนยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายวิทยาไปกราบอวยพรปีใหม่ที่บ้านใน จ.ตรัง ว่า ก็รู้สึกสงสารนายวิทยา เพราะส่วนตัวรู้จักกันมานาน รู้ว่าเขาไม่ใช่คนทุจริต ตลอดเวลาที่มีข่าวออกมา เขาก็เป็นคนสั่งตั้งกรรมการสอบสวน และตนไม่คิดว่าจะส่อเจตนาให้เกิดการทุจริต ก็ไม่มี และไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ทุจริตแล้วจะไปวางแผนให้คนอื่นมาทุจริต ก็ไม่มี นายวิทยาไม่ใช่คนอย่างนั้น ซึ่งวันที่นายกฯ มาอวยพรปีใหม่ก็ได้เล่าให้ฟังว่าในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเอง ก็ยังมีความขัดแย้งกัน แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ และใรการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็มีการหารือกันถึงการปรับ ครม. แต่ไม่เกี่ยวกับกรณีของนายวิทยา ซึ่งเกิดตามมาทีหลัง ในวันนั้นตนได้แนะนำไปว่า ควรจะให้ความเคารพกับดุลพินิจของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในเรื่องการปรับ ครม. ทุกอย่างก็จบ