“นช.แม้ว”ยิ่งเล่นเกมเขมร ยิ่งประจานตัวเอง

สัปดาห์ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร ยังคงพยายามเก็บตกหากินกับฉากจบของละครลวงโลกเรื่องเขมรจับวิศวกรไทย โดยการพุ่งเป้าไปที่นายคำรบ ปาลวัฒน์วิชัย เลขานุการเอก สถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ที่โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลการบินเข้ากัมพูชาของ นช.ทักษิณ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

ความจริงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็ระบุชัดอยู่แล้วว่ากว่าร้อยละ 60 เห็นว่า เรื่องนี้เป็นการจัดฉาก เพื่อหวังผลทางการเมือง

ยิ่งฉากท้ายๆ ยิ่งหลุดให้เห็นว่านี่คือการวางพล็อตเรื่อง ตั้งแต่การให้กษัตริย์กัมพูชาพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ทั้งที่ญาติยังไม่ได้ยื่นขอ แม้พรรคเพื่อไทยที่ประกาศอยู่ปาวๆ ว่าจะช่วยขอพระราชทานอภัยโทษให้ ก็ไปยื่นที่สถานทูตกัมพูชาไม่ทัน เพราะสมเด็จพระนโรดมสีหมุนีทรงลงพระปรมาภิไธยในหนังสือพระราชทานอภัยโทษตามคำขอของนายฮุนเซนตั้งแต่เช้าวันที่ 11 ธ.ค.แล้ว

แต่ทักษิณและบริวารก็ยังดันทุรัง เดินทางไปรับตัวนายศิวรักษ์ โดยในวันก่อนที่จะมีการปล่อยตัว นช.ทักษิณได้เดินทางไปพบนายศิวรักษ์ที่เรือนจำเพซอล แล้วซักถามพูดคุยถึงการถูกจับกุม ซึ่ง นช.ทักษิณก็เล่นละครว่าตนเองถึงจะโกรธนายศิวรักษ์ ที่แจ้งข้อมูลเที่ยวบินแก่นายคำรบ แต่ก็ให้อภัยเพราะถือว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือ และบอกว่าเรื่องนี้ นายคำรบต้องรับผิดชอบที่ทำให้นายศิวรักษ์ถูกจับกุม

วันที่ 14 ธ.ค.วันปล่อยตัว นายศิวรักษ์เป็นอดีตผู้ต้องหาขโมยความลับอันเป็นอัตรายต่อความมั่นคงของประเทศกัมพูชา แต่ปรากฏว่านายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กลับจัดพิธีปล่อยตัวอย่างเอิกเกริกที่บ้านพักของตัวเอง โดยนายฮุนเซนได้จับไม้จับมือถ่ายรูปคู่กับนายศิวรักษ์และแม่ ราวกับว่าเป็นแขกวีไอพีของประเทศ

นายฮุนเซนอ้างว่าที่อภัยโทษให้ เพราะถือว่านายศิวรักษ์ทำตามคำสั่งของนายคำรบ แต่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจริง จึงต้องให้ศาลตัดสินก่อน จึงค่อยขอพระราชทานอภัยโทษ แถมยังบอกว่าจะให้นายศิวรักษ์ทำงานในกัมพูชาต่อได้อีก และบอกให้บริษัท แคมโบเดีย แอร์ แทรฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ CATS ต้นสังกัดของนายศิวรักษ์ ช่วยจ่ายเงินเดือนช่วงที่นายศิวรักษ์ถูกจำคุกเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนด้วย

ขณะที่นายศิวรักษ์ก็ดูเหมือนจะมีท่าทีที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเขียนจดหมายบรรยายถึงการถูกจับกุมและให้การต่อศาลกัมพูชาว่า การส่งข้อมูลเรื่องเที่ยวบินของ นช.ทักษิณให้นายคำรบนั้น ไม่ใช่การล้วงความลับ และเป็นการแจ้งหลังจากเครื่องบินของ นช.ทักษิณลงจอดแล้วถึง 20 นาที

แต่หลังจาก นช.ทักษิณไปพบที่คุกเพซอลแล้ว นายศิวรักษ์กลับแสดงความข้องใจที่นายคำรบโทรศัพท์ไปหา และเรียกร้องให้นายคำรบออกมารับผิดชอบ และภายหลังการปล่อยตัว ก็ได้ให้สัมภาษณ์ที่บ้านนายฮุนเซน เรียกร้องให้นายคำรบออกมาชี้แจง และตีโพยตีพายว่านายคำรบไม่เคยโทร.หาตนและมารดาเลย หลังจากถูกจับกุม

เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นายศิวรักษ์ยังแถลงย้ำประเด็นเดิมเรื่องการเรียกร้องให้นายคำรบออกมารับผิดชอบ และตีโพยตีพายเรื่องที่นายคำรบไม่โทร.หาเช่นเคย และปฏิเสธข้อหาจัดฉาก อ้างว่าไม่มีใครอยากจะติดคุก ตบท้ายการเอาความดีความชอบให้ทักษิณ ชินวัตร และ ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ช่วยให้ได้รับการอภัยโทษ โดยอ้างว่ากระทรวงการต่างประเทศช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่มีสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลนายฮุนเซน โดยระหว่างพูดกับผู้สื่อข่าว ก็มีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นประกับแจอยู่ข้างๆ

หลังจากนายศิวรักษ์เดินทางกลับ ลิ่วล้อระบบทักษิณในสภา ก็เดินเกมต่อโดยนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกตัวนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายคำรบ ไปชี้แจงเรื่องดังกล่าว

เกมทั้งหมด ที่ทักษิณและบริวารกำลังเล่นอยู่ขณะนี้ก็คือ การชูประเด็นที่ว่า เป็นเพราะนายคำรบโทรศัพท์ไปหานายศิวรักษ์เพื่อถามข้อมูลเที่ยวบินของทักษิณ ทำให้นายศิวรักษ์ถูกจับกุมในความผิดฐานล้วงความลับตามคำตัดสินของศาลกัมพูชา โดยพยายามย้ำว่านายศิวรักษ์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้าง นช.ทักษิณ

ประเด็นนี้ ถูกย้ำในรายการวิทยุทางอินเทอร์เน็ต ที่ นช.ทักษิณคุยกับสาวกเมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค.โดย นช.ทักษิณโยงเรื่องเป็นตุเป็นตะว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเอาข้อมูลไปเพื่อเตรียมทำร้ายเขา โดยเปรียบเทียบไปถึงเหตุการณ์ “คาร์บ๊อง”ที่ เขายังพยายามหลอกสาวกของเขาว่าเป็นเรื่องจริง

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงประเด็นเดียวที่ทักษิณและบริวารพยายามจะใช้กรณีเขมรจับวิศวกรไทยให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง แต่ยิ่งทักษิณเอาประเด็นนี้มาเล่น กลับยิ่งเป็นการประจานตัวเองเสียมากกว่า

นายกษิต เขียนแถลงการณ์เรื่องนี้ ในนามกระทรวงการต่างประเทศอย่างนุ่มๆ ว่า รัฐบาลยินดีกับการที่นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพ ส่วนการที่นายคำรบโทร.ไปหานายศิวรักษ์ก็เป็นการทำหน้าที่หาข้อมูลพื้นฐานตามปกติ ก่อนที่จะดำเนินเรื่องขอตัว นช.ทักษิณเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป และยังรักษาน้ำใจนายศิวรักษ์ โดยบอกว่าเหตุการณ์นี้คงไม่ใช่การจัดฉาก

ขณะที่ตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศที่ไปชี้แจงต่อ กรรมาธิการการต่างประเทศ ก็ระบุว่านายคำรบแค่ถามนายศิวรักษ์ว่า “มาถึงหรือยัง”เท่านั้น ซึ่งเป็นการหาข่าวตามปกติ ไม่ถือเป็นการจารกรรมหรือเป็นสายลับ

กระนั้นก็ตาม ลิ่วล้อระบอบทักษิณ ยังไม่หยุด มีการให้ข่าวออกมาจากพรรคเพื่อไทยเองว่านายศิวรักษ์จะฟ้องนายคำรบและกระทรวงการต่างประเทศ ฐานทำให้ตัวเองต้องติดคุก

ประเด็นนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่า ทักษิณและบริวารกำลังเอาสีข้างเข้าถู เพื่อให้ตัวเองได้คะแนนกลับคืนมาบ้าง โดยหวังว่าหากนายศิวรักษ์ฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ ก็คงจะดิสเครดิตรัฐบาลลงไปได้ไม่น้อย

แต่อย่าลืมข้อเท็จจริงที่ว่า การที่นายคำรบโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากนายศิวรักษ์นั้น เป็นการทำหน้าที่ปกติ ตามขั้นตอนที่จะขอตัว นช.ทักษิณเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน

การที่ทักษิณและลิ่วล้อพยายามจะบอกว่าการหาข้อมูลการบินของ นช.ทักษิณเป็นเรื่องที่ผิด ก็เหมือนโจรที่กำลังวิ่งหนีตำรวจ แล้วบอกว่าตำรวจทำผิด เพราะทำให้เขาเหนื่อย และถ้าถูกจับได้เขาจะต้องติดคุก

ที่สำคัญคือ หลักฐานที่ทางกัมพูชาใช้เอาผิดนายศิวรักษ์นั้น คือเทปบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายคำรบกับนายศิวรักษ์ ซึ่งถ้ามีจริง ฝ่ายที่จะโดนข้อหาล้วงความลับก็คือรัฐบาลนายฮุนเซน ที่มี นช.ทักษิณเป็นที่ปรึกษานั่นเอง