เอเอฟพี - ในบริเวณหมู่ปราสาทนครวัด กับนครธม ประเทศกัมพูชา ยังมีคนงานกลุ่มหนึ่งต่างขะมักเขม้นปะติดปะต่อชิ้นส่วนหินทรายของปราสาทเก่าแก่ที่นับได้ว่าเป็นจิ๊กซอว์ปริศนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
ใกล้เสร็จสิ้นลงแล้วสำหรับการบูรณะก่อสร้างปราสาทบาพวน (Baphoun) ปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 11 ซึ่งถูกรื้อชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่ลงในปี 2503 หลังจากที่ปราสาทพังลงจนทำให้ก้อนหินร่วงกระจัดกระจายกว่า 300,000 ก้อน ตามพุ่มหญ้าและบริเวณป่าที่อยู่รายรอบ
ก่อนที่ทีมนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสจะรวบรวมชิ้นส่วนของปราสาทที่สูง 34 เมตร เข้าด้วยกันอีกครั้ง ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับเขมรแดงเรืองอำนาจในปี 2518 ซึ่งทำให้มีชาวเขมรร่วม 2 ล้านเสียชีวิตเพราะทำงานหนัก ขาดอาหารและถูกทรมาน
ทุกอย่างในช่วงเวลานั้นหยุดนิ่งลงหมด ไม่เว้นแม้แต่การบูรณะปราสาทเช่นกัน
“โครงการบูรณะนี้ไม่เหมือนกับการวางแผนการก่อสร้างอาคารทั่วไป” นายปาสกาล โรแยร์ (Pascal Royere) สถาปนิกจากสถาบัน Ecole Francaise d'Extreme-Orient (EFEO) ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมก่อสร้างครั้งนี้ กล่าว
“ข้อมูลเอกสารการบูรณะที่ใช้ระบบตัวเลขในการจัดเรียงก้อนหินถูกขโมยและโดนกลุ่มเขมรแดงทำลาย ทำให้เราต้องเผชิญกับจิ๊กซอว์ที่ไม่มีรูปอ้างอิงให้เราดำเนินต่อได้ง่ายนัก” นายโรแยร์ กล่าว
นักเขียนชาวจีน จูต้ากวน ที่เดินทางพร้อมคณะทูตจีนมายังอาณาจักรเขมรในปี 1769 ได้เขียนบรรยายถึงลักษณะของปราสาทบาพวน ว่า เป็นปราสาทที่มีความวิจิตรบรรจงพร้อมด้วยยอดปราสาทสัมฤทธิ์
ปราสาทบาพวนสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ในปี 1603 ตามศาสนาฮินดูเพื่อถวายแด่พระศิวะ และยังเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น เป็นรองเพียงปราสาทนครวัดที่สร้างขึ้นในอีกราว 100 ปีให้หลัง
“ผมเชื่อว่า เมื่อการบูรณะเสร็จสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะปีนขึ้นไปชมด้านบนของปราสาทกันอย่างมากมาย” นายเซืองกง (Soeung Kong) รองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอัปสรา ที่ดูแลปราสาทโบราณทั้งหมดในกัมพูชา กล่าว
“เพราะความสูงของตัวปราสาททำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนตัวปราสาทสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ”
หลังจากปี 2534 ที่สงครามกลางเมืองได้ยุติลง สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ฌ้าค ดือมาร์คาย (Jacques Dumarcay) ที่เคยรับผิดชอบการบูรณะปราสาทบาพวนตั้งแต่ปี 2507-2513 ได้กลับมาทำงานต่ออีกครั้งและได้มอบหมายงานให้โรแยร์รับช่วงต่อจนจบ
แม้ว่างานที่ดือมาร์คายจะทำไว้คืบหน้าไปบ้างแล้ว แต่การก่อสร้างปราสาทขึ้นใหม่จำเป็นต้องวัดและชั่งน้ำหนักหินที่จะนำขึ้นไปเรียงแต่ละก้อน และร่างภาพของปราสาทเพื่อให้แต่ละชิ้นส่วนประกอบเข้ากันได้พอดี
เมื่อ โรแยร์ เริ่มต้นงานในปี 2536 ทั้งหญ้า ป่าไม้ เติบโตขึ้นจนคลุมหินที่กระจัดกระจายอยู่รอบปราสาท เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในปี 2537 พยายามหาวิธีในการดำเนินการบูรณะที่ยุ่งยากซับซ้อนนี้
“หินแต่ละก้อนมีที่เฉพาะของมัน เราไม่สามารถจับหินไปวางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะไม่มีตัวเชื่อมติดระหว่างหินแต่ละก้อนนอกจากลักษณะและลวดลาย และผมเชื่อว่าคุณจะไม่มีทางหาหิน 2 ก้อนที่เหมือนกันทั้งขนาดและรูปร่างได้เลยหล่ะ” นายโรแยร์ ระบุ
ในตอนแรก ทีมงานคาดการณ์ไว้ว่าการบูรณะจะเสร็จลงในปี 2546 หรือ 2547 แต่ตอนนี้โรแยร์ระบุว่า การบูรณะคงต้องใช้เวลาไปจนถึงปลายปี 2553 แต่ส่วนที่ยากที่สุดคือการทำให้ตัวปราสาทมั่งคงไม่ถล่มลงมาอีกได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว
งานในตอนนี้คือการจัดเรียงชิ้นส่วนหินสูงขึ้นไป 22 เมตร หลังจากที่ส่วนนี้ได้ถล่มลงในปี 2514 คิดเป็น 1 ส่วน 4 ของตัวปราสาททั้งหมด
“เรารื้อส่วนที่คงค้างอยู่บนตัวปราสาทลงแล้วจัดเรียงขึ้นไปใหม่ โดยสร้างผนังคอนกรีตยึดชิ้นส่วนไว้ภายในด้วย เมื่อเราเอาหินก้อนหนึ่งขึ้นไปเรียง คุณต้องคอยระวังไม่ให้หินก้อนอื่นล่วงหล่นลงมา ทำให้เราต้องใช้เวลาเพิ่มเป็น 2 เท่าในส่วนนี้” นายโรแยร์ กล่าว
เมื่อปี 2551 กษัตริย์นโรดมสีหมุนี ได้ทรงเป็นองค์ประธานในการฉลองการบูรณะปฏิสังขรณ์พระนอน ยาว 70 เมตร บนระเบียงด้านหนึ่งของปราสาท ซึ่งในตอนนี้นายโรแยร์ได้ระบุว่า งานก่อสร้างบูรณะกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย การจัดเรียงชิ้นส่วนหินประดับที่มีลวดลายแกะสลักให้ถูกต้องหลังจากที่ได้ย้ายลงมาเมื่อตอนบูรณะพระนอน
“ตอนนี้เป็นช่วงที่น่าสนใจมากที่สุด เพราะเรามีภาพปราสาทอยู่ในใจแล้วหลังจากที่เราทำงานกันมาเป็นเวลานาน” นายโรแยร์ กล่าวทิ้งท้าย
ปราสาทบาพวน เป็นหนึ่งในปราสาทที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มปราสาทเมืองพระนครซึ่งตั้งอยู่ภายในพระราชวังหลวง เป็นปราสาทที่มีความสูงมากในสมัยนั้น
แต่ในปัจจุบันยอดของปราสาทและปรางค์ต่างๆ ที่พังทลายลงมาตามกาลเวลา กำลังได้รับการบูรณะให้กลับมาปรากฏสู่สายตาประชาชนอีกครั้ง
ตามแบบฉบับดั้งเดิม ปราสาทบาพวนมีความสูง 43 เมตร เป็นทรงพีระมิด 3 ชั้น แทนลักษณะของเขาพระสุเมรุ แต่ชั้นบนของปราสาทได้หักพังลงมาในปี 2488 ครึ่งหนึ่งของฝั่งปราสาททางทิศเหนือ ชั้น 2 และชั้น 3 แตกออกจากกันและพังทลาย