โดย...กรงเล็บ
เรียน คุณ ศิวรักษ์ ชุติพงษ์
คนไทยทั้งประเทศรับทราบข่าวรัฐบาลกัมพูชาจับกุมตัว คุณศิวรักษ์ ด้วยความสะเทือนใจ เจ็บแค้นไปกับชะตากรรมที่ทางการกัมพูชายัดเยียดข้อหาให้กับคุณโดยไม่เป็นธรรม
จดหมายเปิดผนึกที่คุณส่งผ่านซี่กรงเรือนจำออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า “ตอนนี้ผมถูกคุมตัวอยู่ที่เรือนจำไปรซอ ด้วยข้อหาจารกรรมข่าวสาร ผมมาที่นี่เพื่อที่จะมาทำงานสุจริต ไม่เคยคิดร้ายกับใคร อยู่ที่กัมพูชามาเกือบ 8 ปี ไม่เคยทำอะไรผิด และผมก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับทางการเมืองด้วย ไม่เคยคิดร้ายกับประเทศกัมพูชาเลย ไม่อย่างนั้นผมคงอยู่ที่นี่ไม่ได้นานขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมก็ทำงานของผมตามปกติ ข่าวสารที่กล่าวหาผมก็เป็นข้อมูลทั่ว ๆ ไป ที่สามารถรู้กันได้ มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือไม่เข้าใจกันของรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย
ผมได้ทราบข่าวว่า คนไทยทุกคนให้ความสนใจ และเป็นห่วงผม ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ผมไม่อยากให้กรณีของผมเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้งระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชาเหมือนกรณีที่ผมได้ทราบข่าวมาที่ชลบุรี อยากให้ปัญหาของผมแก้ไขด้วยสันติวิธี ผมคิดว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลือผมให้ออกไปจากที่นี่อย่างสุดความสามารถ เพราะรัฐบาลรู้ดีว่าผมไม่ใช่สายลับหรือจารชนของทางรัฐบาลตามที่ทางกัมพูชากล่าวหา หวังว่าทางรัฐบาลกัมพูชา และศาล จะให้ความยุติธรรมกับผม ผมอยากจะออกไปใช้ชีวิตตามปกติของผม อยู่กับครอบครัวของผม แม่ผม ทำงานตามปกติ ผมไม่ใช่คนเลว ผมไม่เคยทำอะไรไม่ดี ทำงานทุกวันนี้ก็มีส่วนช่วยพัฒนาประเทศกัมพูชา ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนที่เป็นห่วงและสนใจข่าวสารของผม และเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณรัฐบาลที่พยายามช่วยเหลือผม หวังว่าผมคงจะได้ออกไปและบอกขอบคุณทุกๆ คนจากปากของผมเอง”
ในห้วงเวลานั้น หัวใจทุกดวงของคนไทย กังวล เป็นทุกข์
หูของคนไทยต่างก็คอยสดับตรับฟังเพื่อแบ่งเบาความห่วงใยของ คุณสิมารักษ์ มารดาของคุณ
ทุกเสียงต่างปลอบประโลม เห็นใจ กับเคราะห์กรรมที่คุณศิวรักษ์และครอบครับไม่ได้เป็นผู้ก่อ
แล้วทำไมความรู้สึกเหล่านั้นจึงเปลี่ยนมาเป็น การตั้งคำถาม และตามมาด้วยข้อสงสัยมากมาย ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลอธิบายได้
นับตั้งแต่คุณศิวรักษ์ถูกจับกุมตัวในวันที่ 12 พ.ย. 52 กระทรวงการต่างประเทศของไทยก็เดินหน้าประสานงานไปยังรัฐบาลกัมพูชาเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ทูตได้ไปพบกับคุณศิวรักษ์ และจัดหาทนายความให้ ตามสิทธิที่พึงมี มาประสบความสำเร็จในวันที่ 17 พ.ย.
10 วันหลังจากนั้นในวันที่ 27 พ.ย.52 คุณกับแม่ก็ได้พบกันครั้งแรกนาน 90 นาที จากการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศอีกเช่นกัน
ในระหว่างที่คดีกำลังคืบหน้ามีการขอยื่นประกันตัวเพื่อให้คุณออกมาสู้คดีนอกคุก และศาลกำลังจะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว มารดาของคุณกลับเคลื่อนไหวไปพบกับคนของพรรคเพื่อไทย และวิจารณ์การทำงานของกระทรวงการต่างประเทศที่กำลังขมีขมันทำทุกวิถีทางที่จะคืนความเป็นธรรมให้กับคุณว่า มีความล่าช้า พร้อมกับหันไปขอความช่วยเหลือจาก ทักษิณ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พรรคเพื่อไทย โดยปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ และยกเลิกการขอประกันตัว พร้อม ๆ กับเปลี่ยนทนายความที่เขาพร้อมเป็นปากเป็นเสียงสู้แทนคุณในศาลกัมพูชา มาเป็นทนายความที่พร้อมจะสยบยอมกับอำนาจมืดที่รุกคืบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกัมพูชา โดยไม่ได้ใช้วิชาชีพทนายความในการช่วยเหลือให้คุณพ้นความผิด แต่กลับเลือกที่จะให้คุณรับผิดเพื่อพ้นโทษ
คุณศิวรักษ์ไม่ได้ฉุกคิดสักนิดเลยหรือว่า เหตุใดรัฐบาลกัมพูชาที่ตั้งข้อหาคุณอย่างรุนแรงกลับส่งคนระดับรัฐมนตรีไปต้อนรับมารดาคุณ และให้สิทธิพิเศษกับคุณที่เป็นผู้ต้องหาสำคัญ รวมทั้งกษัตริย์กัมพูชาก็ยังอภัยโทษให้กับคุณก่อนที่จะมีการยื่นขอพระราชทานทานอภัยโทษไปเสียอีก และทำไมพรรคเพื่อไทยจึงรู้ล่วงหน้าว่า
คุณจะถูกตัดสินว่ามีความผิด และปิดท้ายด้วยการที่คุณได้รับอิสรภาพจากพระเมตตาของกษัตริย์กัมพูชา
คุณศิวรักษ์ ไม่สงสัยบ้างเลยหรือว่า ทำไมทันทีที่คุณได้รับอิสรภาพ ผู้นำกัมพูชาก็ประกาศพร้อมให้คุณทำงานในกัมพูชาต่อไป ทั้งที่เป็นบุคคลที่มีประวัติเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลตามคำพิพากษาของศาลกัมพูชา มันสะท้อนใช่ไหมว่า ความจริงแล้วผู้นำกัมพูชารู้ดีว่าข้อกล่าวหาต่อคุณนั้นมันเลื่อนลอย ไม่เป็นความจริง จึงพยายามที่จะให้คุณรับผิดแลกกับอิสรภาพ ซึ่งทำให้รัฐบาลกัมพูชาไม่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับ
ที่มาของแถบบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างคุณกับคุณคำรบ (ปาลวัฒน์วิไชย) ว่าได้มาจากการดักฟังโทรศัพท์ใช่หรือไม่ แล้วคุณก็ต้องไปก้มกราบขอบคุณคนที่ยัดคุณเข้าคุก แสดงความสำนึกในบุญคุณว่า “ขอบคุณนะครับที่กรุณาจับและก็ปล่อยผม?”
คุณศิวรักษ์ รู้หรือไม่ว่า ผลลัพธ์จากการใช้ความห่วงใยของคนเป็นแม่มาเป็นเครื่องมือ ส่งผลกระทบต่อตัวคุณศิวรักษ์อย่างไร
แม้คุณศิวรักษ์จะพ้นโทษ แต่คุณก็ถูกตีตราประทับ มีมลทินว่า เป็นอาชญากรจารกรรมข้อมูลลับของกัมพูชา ซึ่งจะติดตัวคุณไปชั่วชีวิต
ในทางกลับกันถ้าคุณศิวรักษ์ เลือกที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม คุณย่อมมีสิทธิได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีนอกคุก และมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะชนะคดี เพราะคุณเป็นผู้บริสุทธิ์และสิ่งที่คุณทำไม่ได้ผิดต่อกฎหมายของกัมพูชา มิเช่นนั้นในคำพิพากษาที่ให้คุณติดคุก 7 ปี คงมีการอ้างข้อกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อ คุณศิวรักษ์ ตัดสินใจไปแล้ว คนไทยก็ยังเข้าใจว่า คุณคงอยากพ้นทุกข์จากการถูกจองจำให้เร็วที่สุด ไม่เคยมีใครคิดว่าคุณมีส่วนร่วมในการจัดฉากนี้ แต่ทุกคนรู้ดีว่าคุณเป็นเพียงเหยื่อชิ้นโอชะที่เป็นจุดเริ่มต้นให้คนไร้มนุษยธรรมสร้างบทละครต่อเท่านั้น
วันนี้ คุณศิวรักษ์ ได้รับอิสรภาพแล้ว ไม่มีกำแพงคุกไปรซอขวางกั้นระหว่างคุณกับคนไทยอีก ลองใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตั้งสติหน่อยจะดีไหม
จริงหรือที่อิสรภาพของคุณศิวรักษ์สูญสิ้นไปเพราะให้ข้อมูลการบิน ทักษิณ กับคุณคำรบ
หรือแท้จริงแล้วอิสรภาพของคุณถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของใครบางคน
คุณศิวรักษ์ สงสัยบ้างไหมว่า ทำไมทันทีที่คุณได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา พรรคเพื่อไทยก็หยิบยกเอาคดีของทักษิณมาบีบรัฐบาลและกดดันพระมหากษัตริย์ของไทยให้พระราชทานอภัยโทษให้กับทักษิน นั่นเท่ากับว่าพวกเขาต้องการใช้เรื่องของคุณมาตีวัวกระทบคราดไปถึงสถาบันกษัตริย์ของไทยใช่ไหม
ถ้ากษัตริย์กัมพูชามีความเมตตาต่อคุณก็เท่ากับว่ากษัตริย์ของไทยจะถูกมองในทิศทางตรงกันข้ามใช่หรือไม่
คุณศิวรักษ์ ยังคิดที่จะตอบแทนบุญคุณกับคนที่หวังแต่ประโยชน์ของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องต่อไปอีกหรือ เพราะคดีของคุณกับทักษิณนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
คุณศิวรักษ์รับโทษติดคุกนาน 32 วัน ไม่คิดหนี ขณะที่ ทักษิณ ยังไม่เคยลิ้มรสการถูกตีตรวนเลยแม้แต่วันเดียวแถมยังหนีคดีและไม่เคยสำนึกถึงการกระทำผิดของตัวเองอีกด้วย
คุณศิวรักษ์ บอกใช่ไหมว่า ผมไม่อยากให้กรณีของผมเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้งระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชา แต่วันนี้เรื่องของคุณศิวรักษ์กำลังถูกนำไปกัดกร่อนสถาบันหลักของประเทศ
คุณศิวรักษ์ คิดจะจบเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเองในฐานะคนไทยหัวใจไทยบ้างไหม
จะยอมเปลี่ยนจากการตกเป็นเหยื่อมาเป็นเครื่องมือให้คนไร้มนุษยธรรมนำมาใช้ประหัตร ประหารรัฐบาลและประเทศไทยต่อไปหรือไม่ หรือจะจบละครเรื่องนี้ด้วยมือของคุณเอง คือ พาตัวเองและแม่ของคุณเดินออกจากวังวนของเกมนี้เสียที คืนความสงบสุขให้กับชีวิตตัวเองและประเทศชาติได้ไหม
คนไทยขอร้อง
