ASTVผู้จัดการรายวัน - กรมการขนส่งทางบกเตรียมสั่งยกเลิกประมูลซื้อที่ดินก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังแก้ปมทุจริตไม่ได้ เล็งหาที่ดินแปลงใหม่ เพื่อตัดปัญหาร้องเรียน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีปัญหาการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ว่า ล่าสุดกรมการขนส่งฯ ได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะยกเลิกการประมูลการจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งใช้งบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง วงเงิน130 ล้านบาท หลังจากที่คณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีปลัดจังหวัดเป็นประธาน ได้เสนอที่จะซื้อที่ดิน ขนาด10ไร่ ของ นางสาว สาวิณี สินธู และนายชัยศล อันทรวิเชียร ในวงเงิน 84 ล้านบาท แทนที่ดินแปลงของนายศศิธร รติพัฒนรบิล ที่เสนอราคาขาย 52ล้านบาท
คณะกรรมการจัดซื้อที่ดินฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้หาทางออกไว้ 2ทาง คือจัดให้มีการประมูลใหม่หรือ การไปใช้ที่ดินของทางราชการที่มีอยู่ ซึ่งอยู่ไกลจากพื้นที่เดิมที่คัดเลือกไว้ หลังจากที่พบว่า ที่ดินแปลงที่จะเสนอซื้อ ติดปัญหาคุณสมบัติ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ประกาศไว้ โดยมีที่ดินบางแปลงยังเป็นเพียงหนังสือรับรองการครอบครองสิทธิตามกฎหมายหรือ นส.3 และนส3 ก. ที่มีแนวเขตไม่แน่นอน ไม่ใช่โฉนดที่ดิน รวมทั้งยังติดจำนองกับธนาคาร และยังรุกล้ำที่ดินสาธารณะ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวพยายามที่จะเร่งให้ทันการเบิกใช้งบประมาณที่จะต้องจัดหาที่ดินให้ได้ภายในเดือน ม.ค. 2553 นี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า การยกเลิกการประมูลจัดซื้อที่ดินดังกล่าว ถือว่า ไม่เป็นธรรมต่อ ผู้เสนอขายที่ดินอีกรายคือ ที่ดินของ นายศศิธร รติพัฒนรบิล ที่เสนอราคาขาย 52ล้านบาท เนื่องจากเข้าประมูลแข่งขันโดยมีคุณสมบัติอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และยังเสนอราคาขายที่ต่ำกว่า คู่แข่งถึง32 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบที่ดินของทั้งสองแปลง ยังพบว่าที่ดินของนายศศิธรมีการปรับถมที่ ให้สูง4เมตรตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ ในขณะที่อีกแปลงยังไม่มีการถมที่ และอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ที่จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ จากการใช้บริการของสถานีขนส่ง มากกว่า อย่างไรก็ตาม คระกรรมการ ยังไม่เคยที่การเจรจากับเจ้าของที่ดินดังกล่าว ทั้งๆที่ ผู้รับอำนาจในการเสนอขายที่ดิน พร้อมที่จะเจรจาและชี้แจงข้อมูล
แหล่งข่าวในจังหวัดนครศรีธรรมราชกล่าวถึงกรณี การจะยกเลิกการประมูลจัดซื้อที่ดินว่า เป็นการเปิดโอกาสที่จะให้ที่ดินแปลงที่ได้รับการคัดเลือกของนางสาว สาวิณี และนายชัยศล ได้มีเวลาปรับถมที่และเปลี่ยนเอกสาร นส.3 และนส.3 ก.ให้กลายเป็นโฉนดที่ดินเพื่อให้ตรงตามหลักเกณฑ์ และเสนอตัวเข้าแข่งขันใหม่ โดยที่ได้มีการแก้ไขข้อมูลผังเมือง
สำหรับการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารทุ่งสงให้สอดคล้องกับที่ดินดังกล่าว โดยที่มีข้าราชการ อักษรย่อ ภ.,ย.และ ส. และนักการเมืองท้องถิ่น อักษรย่อ อ. ร่วมมือกันช่วยเหลือ ให้มีการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวสำเร็จ พร้อมมีการย้าย หัวหน้าสำนักงานที่ดิน อ.ทุ่งสง ออกจากพื้นที่ เพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ควรจะต้องลงมาตรวจสอบ
ก่อนหน้านี้ นายศศิธร รติพัฒนรบิล ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจในการเสนอราคาขายที่ดินเพื่อจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร อำเภอทุ่งส่ง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรและนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแล กรมการขนส่งทางบก พร้อมยืนยันที่จะเสนอขายที่ดินดังกล่าวและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง อย่างโปร่งใส โดยคณะกรรมาธิการคมนาคม จะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ในเดือนธันวาคมนี้
แผนการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอทุ่งสง ได้ถูกบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (SP 2)ตามโครงการปรับปรุงเพิ่มเติมสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัดทั่วประเทศ วงเงิน 1,183.9 ล้านบาท ของกรมการขนส่งทางบก โดยจะดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจำนวน 17 แห่ง มีระยะเวลาดำเนินการ 28 เดือน แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2554.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีปัญหาการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ว่า ล่าสุดกรมการขนส่งฯ ได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะยกเลิกการประมูลการจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งใช้งบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง วงเงิน130 ล้านบาท หลังจากที่คณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีปลัดจังหวัดเป็นประธาน ได้เสนอที่จะซื้อที่ดิน ขนาด10ไร่ ของ นางสาว สาวิณี สินธู และนายชัยศล อันทรวิเชียร ในวงเงิน 84 ล้านบาท แทนที่ดินแปลงของนายศศิธร รติพัฒนรบิล ที่เสนอราคาขาย 52ล้านบาท
คณะกรรมการจัดซื้อที่ดินฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้หาทางออกไว้ 2ทาง คือจัดให้มีการประมูลใหม่หรือ การไปใช้ที่ดินของทางราชการที่มีอยู่ ซึ่งอยู่ไกลจากพื้นที่เดิมที่คัดเลือกไว้ หลังจากที่พบว่า ที่ดินแปลงที่จะเสนอซื้อ ติดปัญหาคุณสมบัติ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ประกาศไว้ โดยมีที่ดินบางแปลงยังเป็นเพียงหนังสือรับรองการครอบครองสิทธิตามกฎหมายหรือ นส.3 และนส3 ก. ที่มีแนวเขตไม่แน่นอน ไม่ใช่โฉนดที่ดิน รวมทั้งยังติดจำนองกับธนาคาร และยังรุกล้ำที่ดินสาธารณะ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวพยายามที่จะเร่งให้ทันการเบิกใช้งบประมาณที่จะต้องจัดหาที่ดินให้ได้ภายในเดือน ม.ค. 2553 นี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า การยกเลิกการประมูลจัดซื้อที่ดินดังกล่าว ถือว่า ไม่เป็นธรรมต่อ ผู้เสนอขายที่ดินอีกรายคือ ที่ดินของ นายศศิธร รติพัฒนรบิล ที่เสนอราคาขาย 52ล้านบาท เนื่องจากเข้าประมูลแข่งขันโดยมีคุณสมบัติอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และยังเสนอราคาขายที่ต่ำกว่า คู่แข่งถึง32 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบที่ดินของทั้งสองแปลง ยังพบว่าที่ดินของนายศศิธรมีการปรับถมที่ ให้สูง4เมตรตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ ในขณะที่อีกแปลงยังไม่มีการถมที่ และอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ที่จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ จากการใช้บริการของสถานีขนส่ง มากกว่า อย่างไรก็ตาม คระกรรมการ ยังไม่เคยที่การเจรจากับเจ้าของที่ดินดังกล่าว ทั้งๆที่ ผู้รับอำนาจในการเสนอขายที่ดิน พร้อมที่จะเจรจาและชี้แจงข้อมูล
แหล่งข่าวในจังหวัดนครศรีธรรมราชกล่าวถึงกรณี การจะยกเลิกการประมูลจัดซื้อที่ดินว่า เป็นการเปิดโอกาสที่จะให้ที่ดินแปลงที่ได้รับการคัดเลือกของนางสาว สาวิณี และนายชัยศล ได้มีเวลาปรับถมที่และเปลี่ยนเอกสาร นส.3 และนส.3 ก.ให้กลายเป็นโฉนดที่ดินเพื่อให้ตรงตามหลักเกณฑ์ และเสนอตัวเข้าแข่งขันใหม่ โดยที่ได้มีการแก้ไขข้อมูลผังเมือง
สำหรับการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารทุ่งสงให้สอดคล้องกับที่ดินดังกล่าว โดยที่มีข้าราชการ อักษรย่อ ภ.,ย.และ ส. และนักการเมืองท้องถิ่น อักษรย่อ อ. ร่วมมือกันช่วยเหลือ ให้มีการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวสำเร็จ พร้อมมีการย้าย หัวหน้าสำนักงานที่ดิน อ.ทุ่งสง ออกจากพื้นที่ เพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ควรจะต้องลงมาตรวจสอบ
ก่อนหน้านี้ นายศศิธร รติพัฒนรบิล ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจในการเสนอราคาขายที่ดินเพื่อจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร อำเภอทุ่งส่ง ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรและนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแล กรมการขนส่งทางบก พร้อมยืนยันที่จะเสนอขายที่ดินดังกล่าวและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ทุ่งสง อย่างโปร่งใส โดยคณะกรรมาธิการคมนาคม จะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ในเดือนธันวาคมนี้
แผนการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอทุ่งสง ได้ถูกบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (SP 2)ตามโครงการปรับปรุงเพิ่มเติมสถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัดทั่วประเทศ วงเงิน 1,183.9 ล้านบาท ของกรมการขนส่งทางบก โดยจะดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารจำนวน 17 แห่ง มีระยะเวลาดำเนินการ 28 เดือน แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2554.