ASTVผู้จัดการรายวัน-“ คมนาคม”ตรวจความพร้อมด้านขนส่งทางบกและทางน้ำ รับเทศกาลปีใหม่ “ประจักษ์”รณรงค์ประชาชนตรวจสภาพรถก่อนใช้เพื่อลดอุบัติเหตุ และร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาตั้งจุดให้บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมแซมรถเบื้องต้น บนถนนสายหลักและสายรอง กว่า 250 จุด ด้าน”เกื้อกูล”กำชับท่าเรือ และเรือโยสาร-ท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยผู้โดยสาร เร่งดัน ติด GPS บนเรือและทำประกันภัยบุคคลที่ 3
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม"ตรวจก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่กรมการขนส่งทางบก ว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันให้ประชาชนร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง และระหว่างวันที่ 1-30 ธ.ค.นี้ กรมการขนส่งร่วมกับภาคเอกชนกว่า 20 รายเปิดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถ ระบบเครื่องยนต์ และซ่อมแซมรถเบื้องต้นให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ศูนย์ที่มีป้ายข้อความ"ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน"
และระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.2552 - 4 ม.ค. 2553 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาได้จัดนักศึกษาในสังกัด ตั้งจุดให้บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมแซมรถเบื้องต้น บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศกว่า 250 จุด พร้อมจุดพักรถระหว่างทางทุก 100 กิโลเมตรไว้คอยบริการประชาชน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจในปีที่ผ่านมามีประชาชนตื่นตัวร่วมตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางเป็นจำนวนมากและคาดว่าในปี 2552 นี้จะมีประชาชนมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น แต่กระทรวงคมนาคมไม่มีการตั้งเป้าเป็นปริมาณที่จะลดอุบัติเหตุแต่ต้องการรณรงค์ให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดหรือไม่เกิดอุบัติเหตุเลย
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าด้านการตรวจสภาพรถโดยสารได้มีการตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่สถานีขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะสถานีหลักที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งพบว่ามีปริมาณรถโดยสารกว่า 100 คันที่ไม่พร้อมใช้งาน จึงได้สั่งการให้ซ่อมแซมให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว และจากนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่กำหนดว่า ในปี 2553 เป็นปีแห่งความปลอดภัย กรมการขนส่งทางบกได้ย้ำไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยในแต่ละชุมชน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการลดจำนวนอุบัติเหตุ
ขณะที่นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจความพร้อมของท่าเทียบเรือ และเรือโยสาร เรือท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก นอกจากนี้ให้นโยบายด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมว่า จะเร่งผลักดันอีก 2 มาตราการได้แก่ การติดตั้งระบบ GPS บนเรือทุกประเภทเพื่อสามารถติดตามและระบุตำแหน่งของเรือได้ และยังสามารถรวบคุมเวลาในการให้บริการได้
และการให้มีประกันภัยบุคคลที่ 3 ซึ่งสามารถคุ้มครองแก่บุคคลต่าง ๆ ที่ประสบอุบัติเหตุได้ เช่นเดียวกับรถยนต์ โดยจะต้องหารือเพื่อขอความร่วมมือกับภาคเอกชนต่อไป
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม"ตรวจก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่กรมการขนส่งทางบก ว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันให้ประชาชนร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง และระหว่างวันที่ 1-30 ธ.ค.นี้ กรมการขนส่งร่วมกับภาคเอกชนกว่า 20 รายเปิดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถ ระบบเครื่องยนต์ และซ่อมแซมรถเบื้องต้นให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ศูนย์ที่มีป้ายข้อความ"ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน"
และระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.2552 - 4 ม.ค. 2553 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาได้จัดนักศึกษาในสังกัด ตั้งจุดให้บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมแซมรถเบื้องต้น บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศกว่า 250 จุด พร้อมจุดพักรถระหว่างทางทุก 100 กิโลเมตรไว้คอยบริการประชาชน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจในปีที่ผ่านมามีประชาชนตื่นตัวร่วมตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางเป็นจำนวนมากและคาดว่าในปี 2552 นี้จะมีประชาชนมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น แต่กระทรวงคมนาคมไม่มีการตั้งเป้าเป็นปริมาณที่จะลดอุบัติเหตุแต่ต้องการรณรงค์ให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดหรือไม่เกิดอุบัติเหตุเลย
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าด้านการตรวจสภาพรถโดยสารได้มีการตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่สถานีขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะสถานีหลักที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งพบว่ามีปริมาณรถโดยสารกว่า 100 คันที่ไม่พร้อมใช้งาน จึงได้สั่งการให้ซ่อมแซมให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว และจากนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่กำหนดว่า ในปี 2553 เป็นปีแห่งความปลอดภัย กรมการขนส่งทางบกได้ย้ำไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยในแต่ละชุมชน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการลดจำนวนอุบัติเหตุ
ขณะที่นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตรวจความพร้อมของท่าเทียบเรือ และเรือโยสาร เรือท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก นอกจากนี้ให้นโยบายด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมว่า จะเร่งผลักดันอีก 2 มาตราการได้แก่ การติดตั้งระบบ GPS บนเรือทุกประเภทเพื่อสามารถติดตามและระบุตำแหน่งของเรือได้ และยังสามารถรวบคุมเวลาในการให้บริการได้
และการให้มีประกันภัยบุคคลที่ 3 ซึ่งสามารถคุ้มครองแก่บุคคลต่าง ๆ ที่ประสบอุบัติเหตุได้ เช่นเดียวกับรถยนต์ โดยจะต้องหารือเพื่อขอความร่วมมือกับภาคเอกชนต่อไป
