ASTVผู้จัดการรายวัน- เจ๊เกียวยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบ”โสภณ-ชัยรัตน์”รับขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนเป็นรถตู้ถูกกฎหมาย ไม่โปร่งใส กระทำหน้าที่ส่อทุจริต ก่อนบุกคมนาคมทวงถาม”โสภณ”ขู่ไม่หยุดดำเนินการเตรียมร้องศาลปกครองต่อ
วานนี้ (5 พ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น.นางสุจินดา เชิดชัย (เจ๊เกียว) นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสาร ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสกรณีการที่กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รับจดทะเบียนรถตู้โดยสารผิดกฎหมาย เข้ามาระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยกล่าวหา นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อไปทางทุจริต กรณีที่ จะแก้ไขกฎระเบียบ พ.ร.บ.ขนส่งเพื่อผลักดันขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนจำนวน 6,400 คันให้ถูกกฎหมาย
โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2552 ขบ.ได้เรียกผู้ประกอบการรถตู้โดยสารผิดกฎหมายจำนวนประมาณ 6,400 คัน มาลงชื่อแสดงตนเพื่อเตรียมรับจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้น ให้เป็นรถตู้ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถโดยสารที่ได้รับอนุญาตและเป็นคู่สัญญาเดินรถร่วมกับรัฐบาลได้ร้องเรียนให้ขบ.ดำเนินการกับรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้น แต่ทางขบ.ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้มีรถตู้ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 1,000 คัน ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายแต่กลับไม่กระทำ และยังกำหนดนโยบายขึ้นมาโดยมิได้ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน
รวมทั้งกรณีที่ขบ.ได้มอบหมายให้ขนส่งจังหวัดรวบรวมจำนวนรถตู้ผิดกฎหมายแต่ละจังหวัดนั้น มีข้อเท็จจริงว่า ได้มีการเรียกรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้นมาที่พรรคภูมิใจไทยอันเป็นพรรคการเมืองของรมว.คมนาคมสังกัดอยู่ ก่อนที่จะให้รถตู้ดังกล่าวไปแสดงตนกับขบ.ด้วย ซึ่งทางสมาคมฯ จึงได้ขอให้ปปช.ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาโครงการดังกล่าว เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบที่อาจเกิดขึ้น
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น.นางสุจินดาพร้อมสมาชิกได้เดินทางมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอพบกับนายโสภณ รมว.คมนาคมเพื่อทวงถามความคืบหน้าจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยยื่นให้กระทรวงคมนาคมและขบ.หยุดการดำเนินการเพื่อขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อน ซึ่งนางสุจินดากล่าวภายหลังเข้าพบรมว.คมนาคมว่า สมาคมฯ คงไม่สามารถรับแนวทางที่กระทรวงคมนาคมจะขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนและเยียวยามผู้ประกอบการรถโดยสารที่ได้รับผลกระทบ เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไร โดยเห็นว่า รัฐต้องยกเลิกโครงการนี้ ซึ่งจะประเมินการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมก่อนหากยังคงเดินหน้าโครงการต่อไปอีก สมาคมฯจะฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วราวทันที
“กระทรวงคมนาคมปฏิบัติไม่ถูกต้อง และไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเดิม ประกอบกับรถโดยสารที่วิ่งให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ก็เพียงพออยู่แล้ว จึงยอมรับเงื่อนไขไม่ได้ในทุกกรณี หากจะให้รถตู้ผิดกฎหมายขึ้นทะเบียนเป็นรถที่ถูกกฎหมายและประกาศเป็นนโยบายออกมาเมื่อไร จะดำเนินการฟ้องศาลขอคุ้มครอง"นางสุจินดากล่าว
ด้านนายโสภณ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบ และแผนการเยียวยาให้กับผู้ประกอบการเดิมที่มีสัญญากับทางภาครัฐ และหากแผนดังกล่าวเสร็จสิ้นจะนำมาเผยแพร่ให้รับทราบทันที
“ตอนนี้ต้องรอแผนเสร็จจากนั้นจะมากางดูกันว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรก็มาคุยมาร้องเรียนกัน และโครงการดังกล่าวถามว่าผู้ประกอบการที่มีสัญญาอยู่จะเสียประโยชน์ไหม ก็คงเสียประโยชน์ แต่หากกระทรวงคมนาคมไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้รถตู้ผีวิ่งอยู่อย่างนี้ ดูเหมือนกับว่าเรานิ่งเฉย เมื่อเรามีนโยบายขึ้นมาเราก็มีทางเยียวยาให้กับผู้ประกอบการด้วย”นายโสภณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบก ที่มีนายอร่าม ก้อนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯยังไม่มีการพิจารณาการรับจดทะเบียนรถตู้โดยสารผิดกฎหมาย เข้ามาระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากต้องรอผลการพิจารณาการจัดระเบียบ และการแก้ไขผลกระทบให้กับผู้ประกอบการ จากคณะทำงานที่มีนายประกิจ พลเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ก่อนจึงสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมฯ พิจารณาได้
วานนี้ (5 พ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น.นางสุจินดา เชิดชัย (เจ๊เกียว) นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร พร้อมตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสาร ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสกรณีการที่กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รับจดทะเบียนรถตู้โดยสารผิดกฎหมาย เข้ามาระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยกล่าวหา นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อไปทางทุจริต กรณีที่ จะแก้ไขกฎระเบียบ พ.ร.บ.ขนส่งเพื่อผลักดันขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนจำนวน 6,400 คันให้ถูกกฎหมาย
โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2552 ขบ.ได้เรียกผู้ประกอบการรถตู้โดยสารผิดกฎหมายจำนวนประมาณ 6,400 คัน มาลงชื่อแสดงตนเพื่อเตรียมรับจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้น ให้เป็นรถตู้ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถโดยสารที่ได้รับอนุญาตและเป็นคู่สัญญาเดินรถร่วมกับรัฐบาลได้ร้องเรียนให้ขบ.ดำเนินการกับรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้น แต่ทางขบ.ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้มีรถตู้ผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 1,000 คัน ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายแต่กลับไม่กระทำ และยังกำหนดนโยบายขึ้นมาโดยมิได้ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน
รวมทั้งกรณีที่ขบ.ได้มอบหมายให้ขนส่งจังหวัดรวบรวมจำนวนรถตู้ผิดกฎหมายแต่ละจังหวัดนั้น มีข้อเท็จจริงว่า ได้มีการเรียกรถตู้ผิดกฎหมายเหล่านั้นมาที่พรรคภูมิใจไทยอันเป็นพรรคการเมืองของรมว.คมนาคมสังกัดอยู่ ก่อนที่จะให้รถตู้ดังกล่าวไปแสดงตนกับขบ.ด้วย ซึ่งทางสมาคมฯ จึงได้ขอให้ปปช.ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาโครงการดังกล่าว เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบที่อาจเกิดขึ้น
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น.นางสุจินดาพร้อมสมาชิกได้เดินทางมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอพบกับนายโสภณ รมว.คมนาคมเพื่อทวงถามความคืบหน้าจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยยื่นให้กระทรวงคมนาคมและขบ.หยุดการดำเนินการเพื่อขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อน ซึ่งนางสุจินดากล่าวภายหลังเข้าพบรมว.คมนาคมว่า สมาคมฯ คงไม่สามารถรับแนวทางที่กระทรวงคมนาคมจะขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนและเยียวยามผู้ประกอบการรถโดยสารที่ได้รับผลกระทบ เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไร โดยเห็นว่า รัฐต้องยกเลิกโครงการนี้ ซึ่งจะประเมินการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมก่อนหากยังคงเดินหน้าโครงการต่อไปอีก สมาคมฯจะฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วราวทันที
“กระทรวงคมนาคมปฏิบัติไม่ถูกต้อง และไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเดิม ประกอบกับรถโดยสารที่วิ่งให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ก็เพียงพออยู่แล้ว จึงยอมรับเงื่อนไขไม่ได้ในทุกกรณี หากจะให้รถตู้ผิดกฎหมายขึ้นทะเบียนเป็นรถที่ถูกกฎหมายและประกาศเป็นนโยบายออกมาเมื่อไร จะดำเนินการฟ้องศาลขอคุ้มครอง"นางสุจินดากล่าว
ด้านนายโสภณ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบ และแผนการเยียวยาให้กับผู้ประกอบการเดิมที่มีสัญญากับทางภาครัฐ และหากแผนดังกล่าวเสร็จสิ้นจะนำมาเผยแพร่ให้รับทราบทันที
“ตอนนี้ต้องรอแผนเสร็จจากนั้นจะมากางดูกันว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรก็มาคุยมาร้องเรียนกัน และโครงการดังกล่าวถามว่าผู้ประกอบการที่มีสัญญาอยู่จะเสียประโยชน์ไหม ก็คงเสียประโยชน์ แต่หากกระทรวงคมนาคมไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้รถตู้ผีวิ่งอยู่อย่างนี้ ดูเหมือนกับว่าเรานิ่งเฉย เมื่อเรามีนโยบายขึ้นมาเราก็มีทางเยียวยาให้กับผู้ประกอบการด้วย”นายโสภณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบก ที่มีนายอร่าม ก้อนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯยังไม่มีการพิจารณาการรับจดทะเบียนรถตู้โดยสารผิดกฎหมาย เข้ามาระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากต้องรอผลการพิจารณาการจัดระเบียบ และการแก้ไขผลกระทบให้กับผู้ประกอบการ จากคณะทำงานที่มีนายประกิจ พลเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ก่อนจึงสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมฯ พิจารณาได้
