xs
xsm
sm
md
lg

รถร่วมบขส.ค้านขึ้นทะเบียนรถตู้ ขู่ไม่เลิกนโยบายหยุดวิ่งแถมฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- รถร่วมบขส.เตรียมหารือก่อนเดินหน้าค้านขึ้นทะเบียนรถตู้เถื่อนวิ่งทับเส้นทาง หลังยื่น”โสภณ”ยกเลิกนโยบายไม่ได้ผล ขู่ถึงขั้นหยุดวิ่งทั่วประเทศ-ฟ้อง”โสภณ-ขบ.-บขส.”ทั้ง 157 และอาญา ชี้รถตู้เถื่อนผิดกฎหมายทับเส้นทางผู้ประกอบการที่มีสัญญาถูกต้อง ต้องหยุดวิ่งเพราะขาดทุนจำนวนมาก แฉมีผลประโยชน์แอบแฝงกับบริษัทผลิตรถตู้ ด้าน”เจ้เกียว”มาแปลกชี้เชื่อใจ”โสภณ”รับปากให้ความเป็นธรรม

วานนี้ (26 ต.ค.) สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร และ สมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย พร้อมสมาชิกประมาณ 100 คนได้เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขอให้ยกเลิกการรับจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายเป็นรถโดยสารประจำทางซึ่งนเป็นโยบายของรมว.คมนาคมที่สั่งไปทางคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้รับจดทะเบียนรถตู้โดยสารผิดกฎหมายเป็นรถโดยสารประจำทาง (รถป้ายเหลือง รหัส 10) จำนวน 6,400 คัน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.52 ที่เมืองทองธานี เนื่องจากทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารที่มีสัญญาสัมปทานอย่างถูกต้องเดือดร้อนและเป็นนโยบายที่ริดรอนสิทธิ์ผู้ประกอบการที่ถูกกฎหมาย โดยรมว.คมนาคมมอบหมายให้ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

โดยนายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทยกล่าวภายหลังหารือกับนายโสภณว่า ผู้ประกอบการขอให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการขึ้นทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมาย และให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางยกเลิกการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันนี้ (27 ต.ค.) แต่ยอมรับผลการเจรจาได้ เนื่องจากรมว.คมนาคมยืนยันเดินหน้านโยบายต่อไปไม่สั่งหยุดเพื่อตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นนโยบายที่เอาความเดือดร้อนของคนกลุ่มหนึ่งไปให้เกิดประโยชน์กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้การจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายครั้งนี้ยังมีบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งถือว่าไม่โปร่งใส

ดังนั้น สมาคมฯ จะเรียกประชุมสมาชิกเพื่อหารือถึงแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ โดยผู้ประกอบการรถโดยสารที่มีสัมปทานอย่างถูกต้องจะร่วมมือกัน รวมถึงรถหมวด 3 , 4 วิ่งระหว่างจังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยหากมีความจำเป็นต้องพร้อมกันหยุดเดินรถทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายนี้ก็จำเป็น และในขณะเดียวกัน จะรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวกับสัญญาสัมปทานที่ผู้ประกอบการปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อเตรียมเป็นข้อมูลสำหรับฟ้องศาลเพื่อเอาผิดกับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางบก , ผู้จัดการใหญ่ บขส.,และคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาว ทั้งมาตรา 157 และอาญา หากมีการจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายเกิดขึ้น

“รมต.ให้เราหยุดต่อต้านแต่รัฐไม่หยุดพิจารณาให้รอบคอบก่อน ตรงนี้รับไม่ได้ เพราะทั้ง บขส.และ ขบ.ก็ยืนยันว่าพร้อมจะรับรถตู้ผิดกฎหมายเข้าระบบตามนโยบาย พอจะเสนอเหตุผลรมต.ก็ให้หยุดพูดทนฟังเสียงผู้ประกอบการไม่ได้ ในขณะที่ผ่านมาผู้ประกอบการรับฟังรัฐมาตลอด แต่ครั้งนี้เดือดร้อนมาก เพราะถูกริดรอนสิทธิ์จึงยอมไม่ได้”

นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ผู้ประกอบการอยากให้ ขบ.สำรวจและทดลองก่อนว่าสามารถจัดระเบียบรถตู้ผิดกฎหมายได้จริง เพราะที่ผ่านมา การจัดระเบียนรถตู้ในเขตกรุงเทพฯ ล้มเหลวมากแล้วจะสามารถจัดระเบียบทั่วประเทศได้อย่างไรทุกวันนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ขาดรายได้ปีละ3,200 ล้านบาทก็เพราะมีรถตู้วิ่งแข่งทำให้รัฐต้องใช้งบประมาณช่วยเหลือขสมก.จำนวนมาก และประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการรถตู้

โดยขณะนี้ผู้ประกอบการรถโดยสารในระยะทางจากกรุงเทพ300 กม.เช่น บางปะอิน, สมุทรสงคราม. สมุทรสาคร,อยุธยา เป็นต้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรถตู้ผิดกฎหมายวิ่งทับเส้นทางและต้องหยุดวิ่งไปถึง 75% แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ความพยายามในการจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายนั้นมีกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากปัจจุบันรถตู้ที่นำมาวิ่งให้บริการนั้นเป็นตลาดผูกขาดเพียงรายเดียว ซึ่งมีราคาขายคันละประมาณ 1.2 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ลดภาษีกรณีใช้ก๊าซเอ็นจีวีจาก 40% เหลือ 22% ทำให้ราคาขายลดลงเหลือคันละประมาณ 1 ล้านบาทแต่ราคาขายจริงตามตลาดสูงถึง1.38 ล้านบาท

“เจ้เกียว”เชื่อ”โสภณ”รับปากให้ความเป็นธรรม

ด้านนางสุจินดา เชิดชัย (เจ๊เกียว) นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร กล่าวว่า การจัดระเบียบรถตู้ผิดกฎหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารสาธารณะและยังไม่เคยมีการหารือกับผู้ประกอบการก่อนว่า มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เป็นการดำเนินการที่รวบรัด จึงขอให้มีการศึกษาอย่างรอบคอบก่อน ซึ่งหากกระทรวงคมนาคม ไม่รับพิจารณาก็อาจจะมีการหยุดเดินรถ เหมือนกับรถไฟ และหากกระทรวงคมนาคมมีการอนุมัติจดทะเบียนรถตู้โดยสารที่ผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการจะเดินหน้าฟ้องร้องศาลเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป

อย่างไรก็ตาม จะรอฟังผลการประชุมของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ในวันนี้ ( 27 ต.ค.) ว่าจะมีแนวทางในเรื่องดังกล่าวอย่างไร หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะหารือและกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว ต่อไป

“ขณะนี้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเป็นจำนวน บางรายถึงขั้นต้องทิ้งกิจการเนื่องจากทนแบกรับภาระไม่ไหว ซึ่งผลกระทบดังกล่าวขณะนี้อยู่ที่ 45-50% ของรายได้ทั้งหมดต่อเดือน โดยมีรถตู้โดยสารเถื่อนประมาณ 6,000 คันทั่วประเทศ และปัจจุบันมีรถตู้ที่ถูกกฎหมายวิ่งอยู่ประมาณ 5 % เท่านั้น” นางสุจินดา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น