xs
xsm
sm
md
lg

“พรทิวา”ขู่เอกชนชงขึ้นภาษี-ห้ามนำเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-แผนนำเข้ากากถั่วเหลืองส่อบานปลาย หลังเอกชนยืมมือ “อภิสิทธิ์” สั่งพาณิชย์ทำให้เสร็จก่อน 23 ธ.ค.นี้ “พรทิวา” เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการอาหาร 9 ธ.ค. งัดไม้เด็ดขู่เอกชนขี้ฟ้องคงหรือเพิ่มภาษี หรืออาจถึงขั้นไม่ให้นำเข้า หากเปิดเสรีอาฟตาทำให้มีเมล็ดถั่วเหลืองเข้ามาเพียงพอ

นายธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายอาหาร เพื่อพิจารณาแผนนำเข้ากากถั่วเหลืองปี 2553 ซึ่งจะสามารถสรุปผลเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันวันที่ 23 ธ.ค. ตามคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยสาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่สามารถเรียกประชุมคณะกรรมการฯได้ เนื่องจากรมว.พาณิชย์ ติดภารกิจเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (WTO) ที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

“กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ดึงเรื่องกากถั่วเหลือง ตามที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยกล่าวอ้าง แต่ที่ไม่สามารถประชุมช่วงต้นธ.ค.ได้ เพราะรมว.พาณิชย์ติดไปประชุม WTO โดยคาดว่าจะประชุมเรื่องนี้ได้เร็วสุดภายในวันที่ 9 ธ.ค. หรืออย่างช้าก็หลังจากเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่ฮ่องกง” นายธนพรกล่าว

นายธนพร กล่าวว่า เหตุผลที่กระทรวงพาณิชย์ ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาแผนนำเข้ากากถั่วเหลือง เพราะต้องนำผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ในวันที่ 1 ม.ค.2553 ที่จะมีการลดภาษีเมล็ดถั่วเหลืองเหลือ 0% มาพิจารณาร่วมด้วย เพราะเชื่อว่าหลังการเปิดเสรีอาฟาตาจะมีการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนกากถั่วเหลืองภายในประเทศลดลง ดังนั้น จึงต้องคำนวณสัดส่วนกากถั่วเหลืองในส่วนนี้ว่ามีเพียงพอต่อการใช้ภายในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์หรือไม่ หากมีเพียงพอ อาจพิจารณาไม่ให้นำเข้ากากถั่วเหลืองจากต่างประเทศเข้ามา หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เป็นมากกว่าหรือน้อยกว่า 2% ก็ได้

“การประชุมคณะกรรมการนโยบายอาหาร จะได้ข้อสรุปว่าแผนนำเข้ากากถั่วเหลืองจะเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะปรับลดหรือเพิ่มภาษีมากกว่า 2% ก็ได้ หรืออาจไม่อนุญาตให้นำเข้ากากถั่วเหลืองก็ได้ เพราะหากเปิดเสรีแล้ว และมีการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองมากจนมีปริมาณกากถั่วเหลืองเพียงพอสำหรับอุตสาหกรรมภายใน”นายธนพรกล่าว

นายธนพรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ผลิตอาหารสัตว์ ที่ต้องใช้กากถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบผลิตกังวลว่าผลการพิจารณาแผนนำเข้ากากถั่วเหลืองที่ล่าช้า อาจทำให้การออกประกาศอัตราภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองเสร็จสิ้นไม่ทันวันที่ 1 ม.ค.2553 ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของเอกชนเพิ่มขึ้น และอาจมีการฟ้องร้องกระทรวงพาณิชย์ต่อศาลปกครองถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องที่เอกชนสามารถทำได้ แต่กระทรวงพาณิชย์มองว่าเอกชนไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้าดังกล่าว เพราะในการทำธุรกิจต้องมีการสต๊อกวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า หากล่าช้าไป 1-2 เดือน ก็คงไม่มีผลกระทบต่อต้นทุน และไม่ใช่เหตุผลที่จะปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์

“เป็นวิธีเก่าๆ ในการสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความเสียหายว่ามีคนใกล้ชิดรัฐมนตรี เรียกรับเงินจากเอกชน ซึ่งไม่เป็นความจริง ถ้ามีข้อมูลเอกชนก็ควรไปฟ้องศาลปกครอง หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพราะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้อยู่”นายธนพรกล่าว

สำหรับความขัดแย้งในเรื่องการออกประกาศอัตราภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองปี 2553 ได้เสนอให้คณะกรรมการนโยบายอาหาร พิจารณาเมื่อปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่หาข้อสรุปไม่ได้ในส่วนของกากกั่วเหลือง จึงอนุมัติเฉพาะแผนนำเข้าปลาป่น และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งประเด็นนี้ทางภาคชนทั้ง 8 สมาคมที่มีสิทธิ์นำเข้ากากถั่วเหลืองได้ทำหนังสือเร่งรัดนางพรทิวาหลายครั้ง

จนล่าสุดเร่งรัดในที่ประชุมคณะกรรมร่วมรัฐบาลและเอกชน (กรอ.) จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องมีคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 23 ธ.ค. เพื่อให้สามารถออกประกาศทันวันที่ 1 ม.ค.2553 หากล่าช้าภาคเอกชนจะต้องเสียภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองอัตรา 10% ตามมติครม.ปี 2539 ทั้งที่ภาษีปัจจุบันอยู่ 2% ทำให้เหลือภาษีที่เป็นภาระต้นทุนค้างอยู่ที่กรมศุลกากร 8% กว่าจะใช้ระยะเวลาขอคืนภาษีใช้เวลาอย่างต่ำ 1-2 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น