สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมขับ “นช.แม้ว” ออกนอกประเทศ หากใช้เป็นฐานปลุกระดมทางการเมืองและโจมตีองคมนตรี “พนิช” ยัน “ทักษิณ” เปลี่ยนชื่อในพาสปอร์ตจริง ด้าน“นพดล” อ้างลูกพี่ไม่คิดใช้ต่างประเทศทำร้ายประเทศไทย และยังเทิดทูลสถาบันตลอด พร้อมยังปากแข็งปฏิเสธเปลี่ยนชื่อหนีหมายจับ
วานนี้(29 พ.ย.) นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี (UAE) ได้รับปากกับไทย ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ยูเออีเป็นฐานในการปลุกระดมทางการเมือง หรือมีการโจมตีองคมนตรี จะทำการเชิญตัวออกนอกประเทศโดยทันที แต่หากอยู่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง หรือนักธุรกิจ ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะปักหลักอยู่ที่ดูไบตลอดไปนั้น นายพนิช กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศทราบแล้ว และได้ทำหนังสือแจ้งไปยังยูเออีแล้ว หลังมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปพบที่ดูไบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจสากล ในการติดตามตัว
นายพนิช ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด หลังถอนหนังสือเดินทาง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะการถอนหนังสือเดินทางถือเป็นการทำตามระเบียบปฏิบัติ เพราะหากมีใครคนใดคนหนึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ก็ต้องถูกถอนหนังสือเดินทางเช่นกัน
นายพนิช ย้ำด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเปลี่ยนชื่อจริง เพราะหลายประเทศแจ้งมาว่าไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าประเทศนั้นๆ ขณะที่หน่วยงาน ที่เชื่อถือได้ก็รายงานเช่นเดียวกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทาง
“ติ่งเหล่” การันตีแทนนาย
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึง ข้อกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ต่างประเทศเป็นฐานที่มั่นโจมตีประเทศไทยว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีวันทำร้ายประเทศไทย และเทิดทูนสถาบันตลอดมาดังนั้นประเด็นดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง
ส่วนที่นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ออกมาระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณปลี่ยนชื่อเป็น “ทักกี้ ชินากร้า” เพื่อใช้หลบเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศต่างๆ นั้น เป็นการพูดแบบตีหัวเข้าบ้าน ตามหลักกฎหมายแล้ว ผู้ใดกล่าวอ้างผู้นั้นต้องพิสูจน์ ถ้าคิดจะจับตัวก็ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อ แค่ระบุรูปพรรณ สัณฐานก็ได้ เรื่องนี้เป็นเพียง เจตนาดิสเครดิตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หนีหัวซุกหัวซุนเท่านั้นแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ตอนนี้ก็อยู่ที่ดูไบ แต่กระทรวงต่างประเทศไม่มีน้ำยาไปจับเพราะไปข่มขู่ประเทศเขาไม่ได้
จับตาความจริงใจแขกดูไบ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ยูเออีรับปากจะดูความเคลื่อนไหวของ นช.ทักษิณ ที่ใช้เมืองดูไบเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เราจะจับตารัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) มีความจริงใจเพียงใด เพราะมีกระแสข่าวว่า ทางยูเออีกก็อาจจะไม่ให้นช.ทักษิณใช้ประเทศเขามาเคลื่อนไหวทางการเมือง และหากไม่มีความจริงใจ เราก็อาจจะต้องทำหนังสือเปิดผนึกไปยังยูเออีถึงกรณีของ นช.ทักษิณด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า ทางยูเออีเคยรับปากกับทางไทยหลายครั้งแล้ว ล่าสุดเมื่อกลางเดือนนี้ กรณีการให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ของทักษิณ และก่อนหน้านี้ในเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ก็ได้เคยติดต่อไปยังทางการยูเออีเพื่อทวงถามสิ่งที่ได้รับปากจะไม่ ยอมให้ บุคคลใดเข้าไปใช้ประเทศเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งทางการยูเออี รับปากแล้วว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวดังกล่าว และแจ้งให้ ทักษิณทราบถึงขอบเขตที่สามารถดำเนินการได้ในระหว่างที่อยู่ยูเออี เพราะนายพนิชได้แจ้งรายละเอียดถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ รวมถึงการโฟนอินของ ทักษิณไปด้วย
วานนี้(29 พ.ย.) นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี (UAE) ได้รับปากกับไทย ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ยูเออีเป็นฐานในการปลุกระดมทางการเมือง หรือมีการโจมตีองคมนตรี จะทำการเชิญตัวออกนอกประเทศโดยทันที แต่หากอยู่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง หรือนักธุรกิจ ก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะปักหลักอยู่ที่ดูไบตลอดไปนั้น นายพนิช กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศทราบแล้ว และได้ทำหนังสือแจ้งไปยังยูเออีแล้ว หลังมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปพบที่ดูไบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจสากล ในการติดตามตัว
นายพนิช ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด หลังถอนหนังสือเดินทาง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะการถอนหนังสือเดินทางถือเป็นการทำตามระเบียบปฏิบัติ เพราะหากมีใครคนใดคนหนึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ก็ต้องถูกถอนหนังสือเดินทางเช่นกัน
นายพนิช ย้ำด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเปลี่ยนชื่อจริง เพราะหลายประเทศแจ้งมาว่าไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าประเทศนั้นๆ ขณะที่หน่วยงาน ที่เชื่อถือได้ก็รายงานเช่นเดียวกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทาง
“ติ่งเหล่” การันตีแทนนาย
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึง ข้อกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ต่างประเทศเป็นฐานที่มั่นโจมตีประเทศไทยว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีวันทำร้ายประเทศไทย และเทิดทูนสถาบันตลอดมาดังนั้นประเด็นดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง
ส่วนที่นายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ออกมาระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณปลี่ยนชื่อเป็น “ทักกี้ ชินากร้า” เพื่อใช้หลบเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศต่างๆ นั้น เป็นการพูดแบบตีหัวเข้าบ้าน ตามหลักกฎหมายแล้ว ผู้ใดกล่าวอ้างผู้นั้นต้องพิสูจน์ ถ้าคิดจะจับตัวก็ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อ แค่ระบุรูปพรรณ สัณฐานก็ได้ เรื่องนี้เป็นเพียง เจตนาดิสเครดิตว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หนีหัวซุกหัวซุนเท่านั้นแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ตอนนี้ก็อยู่ที่ดูไบ แต่กระทรวงต่างประเทศไม่มีน้ำยาไปจับเพราะไปข่มขู่ประเทศเขาไม่ได้
จับตาความจริงใจแขกดูไบ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ยูเออีรับปากจะดูความเคลื่อนไหวของ นช.ทักษิณ ที่ใช้เมืองดูไบเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เราจะจับตารัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) มีความจริงใจเพียงใด เพราะมีกระแสข่าวว่า ทางยูเออีกก็อาจจะไม่ให้นช.ทักษิณใช้ประเทศเขามาเคลื่อนไหวทางการเมือง และหากไม่มีความจริงใจ เราก็อาจจะต้องทำหนังสือเปิดผนึกไปยังยูเออีถึงกรณีของ นช.ทักษิณด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า ทางยูเออีเคยรับปากกับทางไทยหลายครั้งแล้ว ล่าสุดเมื่อกลางเดือนนี้ กรณีการให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ของทักษิณ และก่อนหน้านี้ในเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ก็ได้เคยติดต่อไปยังทางการยูเออีเพื่อทวงถามสิ่งที่ได้รับปากจะไม่ ยอมให้ บุคคลใดเข้าไปใช้ประเทศเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งทางการยูเออี รับปากแล้วว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวดังกล่าว และแจ้งให้ ทักษิณทราบถึงขอบเขตที่สามารถดำเนินการได้ในระหว่างที่อยู่ยูเออี เพราะนายพนิชได้แจ้งรายละเอียดถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ รวมถึงการโฟนอินของ ทักษิณไปด้วย