xs
xsm
sm
md
lg

Commodities:ดอลลาร์ถูก หรือ คอมโมดิตีแพงกันแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวเศรษฐกิจพาดหัวในช่วงนี้ ยังคงเป็นเรื่องราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง จนหลายคนเกิดคำถามว่า ราคาทองคำแพงเกินไปหรือไม่ หรือเป็นเพราะดอลลาร์ถูกเกินไป แล้วนักลงทุนอย่างเราควรจะกระโดดเข้าร่วมกระแสลงทุนยอดฮิตนี้ด้วยดีไหม ก่อนจะตอบคำถามข้างต้น เรามานั่งค้นข้อมูลดอลลาร์และทองคำกันก่อนดีกว่าค่ะ

เริ่มต้นด้วย "ดอลลาร์สหรัฐ "ที่ถูกลดอันดับความนิยมหลังวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ แม้สื่อมวลชน รัฐบาล และนักเศรษฐศาสตร์ฝั่งตะวันตกหลายท่านให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่ยังมีสัญญาณบางอย่างที่สะท้อนว่าการฟื้นตัวดังกล่าวอาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากการว่างงานในสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง ปัญหาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดยังไม่ได้รับการแก้ไข และตัวเลขทางการเงินที่เหมือนจะดีขึ้นนั้นอาจไม่ได้เกิดจากการผลิตและการลงทุนที่แท้จริง แต่เป็นเพราะเงินอัดฉีดมหาศาลของรัฐบาล โดยล่าสุดยอดหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ (18 พ.ย. 2552) ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 12.031 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการทะลุหลัก 12 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ปริมาณเงินดอลลาร์จำนวนมากที่ถูกอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อภายหลัง นอกจากนี้ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ก็มองเห็นความเสี่ยงในการพึ่งพาเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากเกินไป จนทำให้เกิดกระแสความคิดในการปรับทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยถือครองเงินดอลลาร์น้อยลง แล้วหันไปถือสกุลเงินอื่นๆ และทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงมากขึ้น จากเหตุผลข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงในระยะยาว

หันมาดูราคาทองคำกันบ้าง หลังจากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นทำลายสถิติแทบทุกวัน จนหลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่ เนื่องจากราคาทองคำในปัจจุบันได้ปรับตัวสูงขึ้นตามแรงเก็งกำไรมากกว่าความต้องการจริง โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำของสหรัฐ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกกู้ยืมเงินดอลลาร์ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปลงทุนในหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่ให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า (Carry Trade) อย่างไรก็ตามนักลงทุนทั่วโลกยังมองทองคำว่าเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ปลอดภัยในยามเกิดภาวะเงินเฟ้อ และยังมีความเป็นไปได้ว่าทองคำอาจจะกลับมาเป็นส่วนสำคัญในทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลกอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากการที่ประเทศจีน อินเดีย รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ฯลฯ ก็มีการสะสมทองคำเพื่อเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอีก

เมื่อนำข้อมูลข้างต้นมาเชื่อมต่อกัน จะเห็นได้ว่า ดอลลาร์ราคาถูกลงเพราะปัจจัยพื้นฐาน ส่วนทองคำก็แพงขึ้นเพราะการเก็งกำไร และยิ่งดอลลาร์ถูกลงมากเท่าไหร่ ก็ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยิ่งแพงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่เพียงแต่เฉพาะทองคำเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) อื่นๆ ด้วย อาทิ น้ำมัน เหล็ก และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ฯลฯ จนเกิดเสียงร่ำลือว่า ปีหน้าอาจจะเป็นปีทองของคอมโมดิตี้ส์อีกครั้ง

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจมั่นใจมากขึ้น พร้อมกระโจนเข้าสู่กระแสลงทุนยอดฮิตนี้ แน่นอนดิฉันคงไม่ห้าม เพราะเดี๋ยวท่านผู้อ่านจะหาว่าขวางทางรวย เพียงแต่การลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง ย่อมมีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้รูปแบบการลงทุนในโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป โดยมีลักษณะเก็งกำไรมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป ดังนั้นหากปีหน้าจะเป็นปีทองของคอมโมดิตี้ส์ ก็อย่าลืมกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในคอมโมดิตี้ส์หลายๆ ตัวด้วยค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น