xs
xsm
sm
md
lg

GBX แนะเก็บทองช่วงปรับฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โกลเบล็กฯ มองราคาทองคำมีโอกาสวิ่งต่อ ตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ยังอ่อนค่าไม่หยุด แนะนักลงทุน รอซื้อช่วงราคาปรับฐานช่วงกลางปีหน้า คาดการณ์กรอบการเก็งกำไรที่1,150 -1,250 เหรียญสหรัฐฯ/ทรอยออนซ์

นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% มาอยู่ที่ 1,194 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองในประเทศ ประมาณ 18,800 บาท/บาททอง เมื่อเทียบกับราคาทองคำโลกปิดในช่วงปลายปี 2551ที่ 878 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำโลกสามารถปรับตัวขึ้นมาจนทุบสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกในปีที่แล้ว ที่ฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว

โดยแนวโน้มและทิศทางราคาทองคำโลกในช่วงโค้งสุดท้ายของปลายปี 2552 มองว่า ราคาทองคำโลกยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,250 เหรียญสหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองในประเทศประมาณ19,800 บาท/บาททอง เนื่องจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยการถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำที่จูงใจให้เกิดธุรกรรม Carry Trade หรือการกู้เงินจากสกุลที่อัตราดอกเบี้ยต่ำไปลงทุนในสกุล/สินทรัพย์อื่นที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า

นายภาคภูมิกล่าวต่อว่า ปัจจุบันรูปแบบการลงทุนในทองคำช่วงนี้เป็นเพียงแค่เก็งกำไร หรือซื้อขายเล่นสั้นในฝั่งซื้อ โดยให้น้ำหนักประมาณ 20-30% ของพอร์ตการลงทุนเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดอยู่บนพื้นฐานของการเก็งกำไร โดยสังเกตได้จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่สนว่าจะมีการประกาศข่าวดีหรือข่าวร้ายออกมา และความสัมพันธ์กับปัจจัยที่กระทบราคาทองคำที่ค่อนข้างแตกต่างจากในอดีต เช่น ราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งที่ควรจะตรงข้ามกัน หรือการที่ราคาทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทั้งที่ควรจะปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจของสหรัฐฟื้นตัวล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ ประกอบกับกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯพอใจกับปรากฏการณ์ดังกล่าวในข้างต้น เพื่อหวังลดปัญหาการขาดดุลการค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งหลังจากที่มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนมาก ทำให้สหรัฐฯเผชิญกับภาวะขาดดุลงบประมาณอย่างมหาศาล และหากยังปล่อยให้ขาดดุลการค้าเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดดุลบัญชีแฝดหรือขาดดุลบัญชีเดินสะพัดพร้อมกับขาดดุลงบประมาณ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากนี้ ราคาทองคำโลกยังได้แรงเสริมจากคุณสมบัติที่เป็นแหล่งพักเงินในยามที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงด้วย

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการจะซื้อทองคำเพื่อการลงทุนระยะยาว นายภาคภูมิกล่าวว่า ควรที่จะรอจังหวะในการเข้าซื้อให้เหมาะสม โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวในช่วงที่ตลาดพักฐาน ซึ่งจากการประเมินคาดว่าตลาดอาจจะมีการพักฐานในช่วงกลางปี 2553 จึงคาดการณ์กรอบการเก็งกำไรที่1,150 -1,250 เหรียญสหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองในประเทศประมาณ 18,100 – 19,800 บาท/บาททอง

ทั้งนี้ จากข้อมูลทางสถิติในช่วง 10 ปีย้อนหลัง ราคาทองคำในช่วงเดือนพ.ย.- ม.ค. ของทุกปีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยประมาณ 3% ต่อเดือน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาล (High Season) ของ Demand Jewelry และงานเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่องไปถึงตรุษจีนในต้นปี2553
กำลังโหลดความคิดเห็น