บอกกันตรงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของชาติ และเพื่อให้ทุกคนที่อ่านได้ตั้งสติพิจารณา เพื่อร่วมกันแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ หากพวกเราได้พิจารณา แนวทางการเมืองของประเทศ นับแต่รัชกาลที่ 5 ได้สร้างชาติใหม่แบบสากลเรียกว่ารัฐชาติ (Nation State) เป็นต้นมา
องค์ประกอบทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ 2475- ปัจจุบัน
การเมืองชนิดนี้ อุปมา ดาวเคราะห์ ปราศจากดวงอาทิตย์ จึงตั้งอยู่ ดำรงอยู่ไม่ได้
ในสถานการณ์ปัจจุบัน พรรคการเมืองภายใต้แนวคิดเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ แตกออกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายทักษิณ เสื้อแดง ยึดรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามาอิงแอบทำแนวร่วม มีจุดหมายเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ ยุทธวิธีคือ โค่นรัฐบาลและกองทัพ ฯลฯ
อีกฝ่ายหนึ่ง ยึดรัฐธรรมนูญ ฉบับ 50 โดยมีพรรคการเมืองเข้าไปอิงแอบกองทัพ ฝ่ายนี้พยายามรักษาอำนาจเอาไว้ให้ยาวนานที่สุด
ทั้งสองฝ่ายต่างก็หลงผิดว่า (1) รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย (2) เห็นรูปการครองคือระบบรัฐสภาว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (3) เห็นการเลือกตั้งว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (4) เห็นประมุขของชาติเป็นประมุขระบอบ พวกเขาชอบพูด ชอบเขียนกันเหลือเกินว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นี่คือคิดผิดและเขียนผิด กลายเป็นทำลายพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์ โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ก็ตาม การเมืองเลว ผู้คนก็เลยโทษพระมหากษัตริย์เพราะเป็นประมุขระบอบ ความถูกต้องคือพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขประเทศ และประเทศนั้นอาจจะปกครอง ทุกฝ่ายอ้างประชาธิปไตย อ้างประชาชน แต่ผลออกมาคอร์รัปชัน ทำลายชาติให้ทรุดโทรม ล้าหลัง อ่อนแอลงๆ จนไม่อยากจะเชื่อว่าประเทศต่างๆ ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น มาเลเซีย เกาหลี เวียดนาม ก้าวหน้า แซงหน้าไปหมดแล้ว ทั้งนี้เพราะการเมืองเราผิด เป็นการเมืองมิจฉาทิฐิมาโดยตลอด 77 ปี นั้นเอง ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมองเห็นไหมหนอ
องค์ประกอบทางการเมืองโดยสืบทอดบูรพกษัตริย์และการพัฒนาสู่ธรรมาธิปไตย
หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 มาจากไหน กล่าวโดยย่อ ดังนี้
1. มาจากแก่นแท้ หรือรากฐาน อันเป็นลักษณะพิเศษของชนชาติไทย อันยาวนานมาตามบรรพกาลคือ ชาติ 1) หลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน) ศาสนา 2) หลักธรรมาธิปไตย) 3) หลักพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำและประมุขของประเทศ
2. ลักษณะของกฎธรรมชาติ เช่น 1) หลักเสรีภาพเพื่อการสร้างสรรค์ 2) หลักความเสมอภาคทางโอกาส 3) หลักภราดรภาพ 4) หลักเอกภาพ 5) หลักดุลยภาพ 6) หลักนิติธรรม รวมเป็นหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
3. จัดความสัมพันธ์สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ ใน 2 ลักษณะ อันเป็นลักษณะของพระธรรมจักร คือ
1) เอกภาพกับความแตกต่างหลากหลาย เช่น สภาวะนิพพาน ธรรมาธิปไตย เป็นด้านเอกภาพ รูปสังขาร จิตตสังขาร เป็นด้านแตกต่างหลากหลาย อสังขตธรรมเป็นด้านเอกภาพ สังขตธรรม เป็นด้านความแตกต่างหลากหลายก่อให้เกิดดุลยภาพ ดวงอาทิตย์ เป็นด้านเอกภาพ ดาวเคราะห์ เป็นด้านความแตกต่างหลากหลาย เป็นต้น
2) ด้านเอกภาพแผ่กระจายกับด้านความแตกต่างหลากหลายรวมศูนย์ มุ่งตรงต่อองค์เอกภาพ ก่อให้เกิดดุลยภาพ มั่นคง เป็นหนึ่งเดียวกับกฎธรรมชาติ
4. ประสาน 3 ลักษณะเป็นหนึ่งเดียว คือ 1) ความเป็นจริงของชีวิต (ขันธ์ 5) 2) กฎธรรมชาติ ทั้งข้อ 1 และ 2 เป็นหนึ่งเดียวกัน จากนั้นประยุกต์สู่การเมืองใหม่ เป็นธรรมาธิปไตย “ภูเขายังตั้ง ตะวันยังฉาย ธรรมาธิปไตย ไม่สลายจากใจมนุษยชาติ” รูป กลัว โลภ โกรธ หลง เกิดแล้วสลาย เกิดมาเท่าไหร่ ก็ดับไปเท่านั้น ไร้แก่นสารแห่งความเป็นตัวตน ส่วนสภาวะธรรมาธิปไตยในใจมนุษย์ ไม่สลาย
แนวทางสู่การแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ หยุดการเมืองเถื่อนซึ่งเป็นกรรมร่วมกันของปวงชนในชาติ ขอให้ทุกฝ่ายเชิดชูหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 คือการเชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างถูกต้องยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมทั้งเป็นการแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ แก้ไขความเห็นผิดทางการเมืองอย่างร้ายแรงมายาวนาน 77 ปี ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างสันติ
วิธีการสร้างสรรค์อย่างสันติ คือ ทุกคนต้องศึกษา หลักธรรมาธิปไตยให้เข้าใจถ่องแท้ ด้วยการเรียนรู้ ด้วยการวิปัสสนา เพื่อให้รู้จริงในกฎธรรมชาติ และที่มาของธรรมาธิปไตย จากนั้นนำไปพูด นำไปประกาศ “ทรงพระเจริญ สถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย” ทั่วทั้งแผ่นดิน มันจะเป็นการไล่ หยุดยั้งการเมืองเถื่อน การเมืองผีเปรต ที่ครอบงำทำลายประเทศชาติของเรา
สัจธรรมนำแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ ความเป็นไปได้เหนือกว่าพรรค และกลุ่มอื่นๆ คือผู้นำโดยธรรมชาติ จะต้องตระหนักและมีความรับผิดชอบสูงสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ประกาศ “การเมืองใหม่คือธรรมาธิปไตย” และแกนนำพันธมิตรฯ เป็นกองหน้าฝ่ายประชาชน กรรมกร นักศึกษา เพื่อผลักดัน เชิดชูการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตยโดยพระเจ้าแผ่นดิน
รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประสานความร่วมมือทุกพรรคการเมืองที่เห็นด้วยกับหลักการปกครองธรรมาธิปไตย
กองทัพ ทหาร ตำรวจ รักษาความสงบเรียบร้อยป้องการการกระทำที่เป็นความผิดทางอาญา
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ สถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย”
องค์ประกอบทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ 2475- ปัจจุบัน
การเมืองชนิดนี้ อุปมา ดาวเคราะห์ ปราศจากดวงอาทิตย์ จึงตั้งอยู่ ดำรงอยู่ไม่ได้
ในสถานการณ์ปัจจุบัน พรรคการเมืองภายใต้แนวคิดเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ แตกออกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายทักษิณ เสื้อแดง ยึดรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 โดยมีพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามาอิงแอบทำแนวร่วม มีจุดหมายเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ ยุทธวิธีคือ โค่นรัฐบาลและกองทัพ ฯลฯ
อีกฝ่ายหนึ่ง ยึดรัฐธรรมนูญ ฉบับ 50 โดยมีพรรคการเมืองเข้าไปอิงแอบกองทัพ ฝ่ายนี้พยายามรักษาอำนาจเอาไว้ให้ยาวนานที่สุด
ทั้งสองฝ่ายต่างก็หลงผิดว่า (1) รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย (2) เห็นรูปการครองคือระบบรัฐสภาว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (3) เห็นการเลือกตั้งว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (4) เห็นประมุขของชาติเป็นประมุขระบอบ พวกเขาชอบพูด ชอบเขียนกันเหลือเกินว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” นี่คือคิดผิดและเขียนผิด กลายเป็นทำลายพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์ โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ก็ตาม การเมืองเลว ผู้คนก็เลยโทษพระมหากษัตริย์เพราะเป็นประมุขระบอบ ความถูกต้องคือพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขประเทศ และประเทศนั้นอาจจะปกครอง ทุกฝ่ายอ้างประชาธิปไตย อ้างประชาชน แต่ผลออกมาคอร์รัปชัน ทำลายชาติให้ทรุดโทรม ล้าหลัง อ่อนแอลงๆ จนไม่อยากจะเชื่อว่าประเทศต่างๆ ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น มาเลเซีย เกาหลี เวียดนาม ก้าวหน้า แซงหน้าไปหมดแล้ว ทั้งนี้เพราะการเมืองเราผิด เป็นการเมืองมิจฉาทิฐิมาโดยตลอด 77 ปี นั้นเอง ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมองเห็นไหมหนอ
องค์ประกอบทางการเมืองโดยสืบทอดบูรพกษัตริย์และการพัฒนาสู่ธรรมาธิปไตย
หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 มาจากไหน กล่าวโดยย่อ ดังนี้
1. มาจากแก่นแท้ หรือรากฐาน อันเป็นลักษณะพิเศษของชนชาติไทย อันยาวนานมาตามบรรพกาลคือ ชาติ 1) หลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน) ศาสนา 2) หลักธรรมาธิปไตย) 3) หลักพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำและประมุขของประเทศ
2. ลักษณะของกฎธรรมชาติ เช่น 1) หลักเสรีภาพเพื่อการสร้างสรรค์ 2) หลักความเสมอภาคทางโอกาส 3) หลักภราดรภาพ 4) หลักเอกภาพ 5) หลักดุลยภาพ 6) หลักนิติธรรม รวมเป็นหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9
3. จัดความสัมพันธ์สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ ใน 2 ลักษณะ อันเป็นลักษณะของพระธรรมจักร คือ
1) เอกภาพกับความแตกต่างหลากหลาย เช่น สภาวะนิพพาน ธรรมาธิปไตย เป็นด้านเอกภาพ รูปสังขาร จิตตสังขาร เป็นด้านแตกต่างหลากหลาย อสังขตธรรมเป็นด้านเอกภาพ สังขตธรรม เป็นด้านความแตกต่างหลากหลายก่อให้เกิดดุลยภาพ ดวงอาทิตย์ เป็นด้านเอกภาพ ดาวเคราะห์ เป็นด้านความแตกต่างหลากหลาย เป็นต้น
2) ด้านเอกภาพแผ่กระจายกับด้านความแตกต่างหลากหลายรวมศูนย์ มุ่งตรงต่อองค์เอกภาพ ก่อให้เกิดดุลยภาพ มั่นคง เป็นหนึ่งเดียวกับกฎธรรมชาติ
4. ประสาน 3 ลักษณะเป็นหนึ่งเดียว คือ 1) ความเป็นจริงของชีวิต (ขันธ์ 5) 2) กฎธรรมชาติ ทั้งข้อ 1 และ 2 เป็นหนึ่งเดียวกัน จากนั้นประยุกต์สู่การเมืองใหม่ เป็นธรรมาธิปไตย “ภูเขายังตั้ง ตะวันยังฉาย ธรรมาธิปไตย ไม่สลายจากใจมนุษยชาติ” รูป กลัว โลภ โกรธ หลง เกิดแล้วสลาย เกิดมาเท่าไหร่ ก็ดับไปเท่านั้น ไร้แก่นสารแห่งความเป็นตัวตน ส่วนสภาวะธรรมาธิปไตยในใจมนุษย์ ไม่สลาย
แนวทางสู่การแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ หยุดการเมืองเถื่อนซึ่งเป็นกรรมร่วมกันของปวงชนในชาติ ขอให้ทุกฝ่ายเชิดชูหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 คือการเชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างถูกต้องยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมทั้งเป็นการแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ แก้ไขความเห็นผิดทางการเมืองอย่างร้ายแรงมายาวนาน 77 ปี ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างสันติ
วิธีการสร้างสรรค์อย่างสันติ คือ ทุกคนต้องศึกษา หลักธรรมาธิปไตยให้เข้าใจถ่องแท้ ด้วยการเรียนรู้ ด้วยการวิปัสสนา เพื่อให้รู้จริงในกฎธรรมชาติ และที่มาของธรรมาธิปไตย จากนั้นนำไปพูด นำไปประกาศ “ทรงพระเจริญ สถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย” ทั่วทั้งแผ่นดิน มันจะเป็นการไล่ หยุดยั้งการเมืองเถื่อน การเมืองผีเปรต ที่ครอบงำทำลายประเทศชาติของเรา
สัจธรรมนำแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ ความเป็นไปได้เหนือกว่าพรรค และกลุ่มอื่นๆ คือผู้นำโดยธรรมชาติ จะต้องตระหนักและมีความรับผิดชอบสูงสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ประกาศ “การเมืองใหม่คือธรรมาธิปไตย” และแกนนำพันธมิตรฯ เป็นกองหน้าฝ่ายประชาชน กรรมกร นักศึกษา เพื่อผลักดัน เชิดชูการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตยโดยพระเจ้าแผ่นดิน
รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประสานความร่วมมือทุกพรรคการเมืองที่เห็นด้วยกับหลักการปกครองธรรมาธิปไตย
กองทัพ ทหาร ตำรวจ รักษาความสงบเรียบร้อยป้องการการกระทำที่เป็นความผิดทางอาญา
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ สถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย”