xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่า ธปท.ชี้เขมรไม่กระเทือน ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้ปัญหาไทยกับกัมพูชาป็นเรื่องระดับรัฐบาลไม่กระทบการค้าและภาคประชาชน หวังให้ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิม ส่วนโครงการแก้หนี้นอกระบบหวั่นลูกหนี้ตามเอกสารที่ฝากไว้กับเจ้าหนี้ได้ยาก แนะปรับปรุงวิธีการควบคู่กันไปให้ประชาชนเข้าสู่ระบบมากขึ้น

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มองว่าภาคประชาชนและการค้าแถบชายแดนไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่สาขาธนาคารพาณิชย์ที่เปิดให้บริการในประเทศกัมพูชาที่มีอยู่หลายแห่งก็ยังคงดำเนินการตามปกติ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องระดับรัฐบาล หรือการเมืองมากกว่าเรื่องการค้า จึงอย่างให้ปัญหาทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว

สำหรับโครงการที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบมาทะเบียนนั้นมองว่าเป็นความคิดที่ดีในการนำคนที่เคยใช้หนี้นอกระบบกลับเข้าสู่ระบบ แต่ลูกหนี้บางรายอาจเอาเอกสารไปฝากไว้กับเจ้าหนี้ ทำให้ติดตามได้ยาก จึงต้องปรับปรุงวิธีและอุปสรรคปัญหาควบคู่กันไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนที่เคยอยู่นอกระบบมาสู่ในระบบมากขึ้น ส่วนจะเป็นแนวทางประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนต้องติดตามดูต่อไป

ในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิตที่คิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 20% ไม่มีใครชี้ได้ว่าอัตราดอกเบี้ยระดับดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ แต่หากดูจากด้านดีมานส์และซับพลายเป็นตัวบ่งชี้ ซึ่งขณะนี้ด้านดีมานส์และซับพลายก็ไม่มีอะไรผิดปกติ โดยการเติบโตสินเชื่อที่ชะลอตัวลงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ด้านดีมานส์เองก็ไปในทิศทางเดียวกันกันเนื่องจากผู้ใช้บัตรเครดิตระวังตัวมากขึ้น จึงมองว่าอัตราดอกเบี้ยระดับดังกล่าวยังไม่ได้สร้างปัญหาให้แก่ธุรกิจบัตรเครดิตแต่อย่างใด

“อัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องของผู้กู้และผู้ปล่อยกู้ที่ต้องยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย โดยหากอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไปก็จะเห็นการหดตัวสินเชื่อประเภทนี้ หรือถ้าต่ำเกินไปผู้ใช้บริการมีจำนวนมาก แต่ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่ผิดสังเกตหรือสร้างปัญหาอะไร” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

ส่วนเงินบาทช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันแข็งค่า 4% ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในแถบภูมิภาคเอเชียที่เฉลี่ยประมาณ 3-4% ถือว่ายังเกาะกลุ่มภูมิภาค ซึ่งมีเพียงค่าเงินวอนเกาหลีใต้เท่านั้นที่แข็งค่าถึง 10-20% ทำให้ในขณะนี้ไทย ยังสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าคู่ขายได้อยู่

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่อยู่ที่ 38 บาทต่อดอลลาร์ฯ จนถึงขณะนี้อยู่ที่ 33 บาทนั้น ยืนยันว่าไม่กระทบต่อผู้ส่งออกมากนัก เพราะผู้ส่งออกยังมีความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง เนื่องจากที่ผ่านมา ธปท. เข้าไปดูแลรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท โดยการแทรกแซงค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับภูมิภาคเพื่อไม่ให้ผันผวน ซึ่งแม้ว่าการแทรกแซงจะมีต้นทุนในด้านภาระดอกเบี้ย แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

“การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น ธปท. ดูแลเหมาะสมหรือไม่ ผลลัพธ์ก็อยู่ที่การส่งออกขยายตัวสะท้อนได้จากตัวเลขการส่งออกในเดือนตุลาคมขยายตัวดีขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังก็ได้มีการหารือกับตัวแทน ธปท. บ่อยครั้งอยู่แล้ว ซึ่งต้องวิเคราะห์ต่อไปว่าจะถึงจุดสุดท้ายเมื่อไหร่ที่ไม่มีการแทรกแซงค่าเงินบาทและปล่อยให้แข็งค่าต่อไป แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนผิดแผกไปจากภูมิภาคเท่าใดนัก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องดูว่าณ เวลาดังกล่าวคุ้มหรือไม่ที่ต้องเข้าไปแบกรับภาระนั้น” รมว.คลังกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น