นาย ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธินายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย.นี้ โดยนายกฯ จะเดินทางไปในวันอังคารที่ 24 พ.ย. เวลา 15.00 น. และเดินทางกลับในเวลา 06.30 น.เช้าของวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือเรื่องการขยายการค้าการลงทุน เรื่องการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มประเทศพันธมิตรในตะวันออกกลาง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเยือนตะวันออกกลางครั้งแรกของนายอภิสิทธิ์
นายปณิธานกล่าวอีกว่า การเยือนการ์ต้าครั้งนี้ เป็นการเปิดประตูสู่ประเทศตะวันออกกลางซึ่งการ์ต้ามีบทบทอยู่มากในแถบนั้น และเป็นโอกาสดีที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งคิดว่าจะประสานความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต หรือ ยูเออี ให้ดีขึ้น เนื่องจากผู้นำรัฐการ์ต้า มีความสนิทกับพระราชวงศ์ของยูเออี จึงเป็นโอกาสที่เราจะทำความเข้าใจกับผู้นำและนักลงทุนของยูเออีด้วย
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ยูเออี เคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นก็อาจจะได้รับประโยชน์ตรงนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้โอกาสที่นายอภิสิทธิ์เดินทางไปการ์ต้า มาดิสเครดิตรัฐบาลอีกระลอกนั้น นายปณิธาน กล่าวว่านายกฯเดินทางไปทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นถ้าอดีตผู้นำประเทศที่เป็นไทยทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอีก ก็ไม่สมควร ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ในช่วงที่นายกฯ เดินทางไปการ์ต้า คาดว่าคณะทำงานที่จับตาความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ จะรายงานให้ทราบอยู่เช่นกัน
นายปณิธานกล่าวอีกว่า การเยือนการ์ต้าครั้งนี้ เป็นการเปิดประตูสู่ประเทศตะวันออกกลางซึ่งการ์ต้ามีบทบทอยู่มากในแถบนั้น และเป็นโอกาสดีที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งคิดว่าจะประสานความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต หรือ ยูเออี ให้ดีขึ้น เนื่องจากผู้นำรัฐการ์ต้า มีความสนิทกับพระราชวงศ์ของยูเออี จึงเป็นโอกาสที่เราจะทำความเข้าใจกับผู้นำและนักลงทุนของยูเออีด้วย
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ยูเออี เคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นก็อาจจะได้รับประโยชน์ตรงนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หากพ.ต.ท.ทักษิณ ใช้โอกาสที่นายอภิสิทธิ์เดินทางไปการ์ต้า มาดิสเครดิตรัฐบาลอีกระลอกนั้น นายปณิธาน กล่าวว่านายกฯเดินทางไปทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นถ้าอดีตผู้นำประเทศที่เป็นไทยทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอีก ก็ไม่สมควร ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ในช่วงที่นายกฯ เดินทางไปการ์ต้า คาดว่าคณะทำงานที่จับตาความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ จะรายงานให้ทราบอยู่เช่นกัน