นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว กล่าวถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นก็มีหน่วยงานที่จะบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเสมอภาค ส่วนอุปสรรคในการติดตามตัวก็ไม่ได้เจาะจงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ถ้าย้อนไปดู ในอดีตเวลาที่มีคนทำผิดแล้วหนีไปต่างประเทศเป็นเรื่องยากที่จะนำตัวมาดำเนินคดี ไม่ต้องเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีหรอก แม้แต่นักธุรกิจหลายคนที่หนีคดีไปก็ตามกลับมาไม่ง่าย เพราะต้องประสานความร่วมมือกับองค์กรระดับสากล ต้องดูข้อกฎหมาย ถามว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการรักษากฎหมายหรือไม่ ต้องบอกว่า ตนสังเกตเห็นว่าระยะหลังบุคคลดังกล่าวเดินทางไปยังประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญา และเริ่มเดินทางไปยังประเทศที่เราไม่มีสถานทูตมากขึ้น เป็นตัวบ่งบอกชัดเจนว่ารัฐบาลรักษากฎหมายและจะทำอย่างพอดีที่จะรักษากฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ถือว่าคนไทยทุกคน มีความเสมอภาคทางกฎหมายเหมือนกัน
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า มติ ครม.เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ให้ความเห็นชอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไม่เกี่ยวกับการประสานติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนิน เรื่องนี้ต้นเรื่องนี้มาจากทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือทางด้านข่าวกรอง ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่เจาะจงเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนผลจากความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยกับยูเออีครั้งนี้ จะเป็นความคืบหน้าในการเปิดความร่วมมือการขอตัวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น นายกษิต ปฏิเสธอีกครั้งว่า ไม่ใช่ เป็นเพียงความร่วมมือทางด้าน ข่าวกรองและกระบวนการยุติธรรมที่อาณาประเทศเขาก็ทำกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเป็นความริเริ่มมาจากฝ่ายยูเออีด้วย อย่าไปโยงกับพ.ต.ท.ทักษิณ การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษหรือผู้ต้องหาในคดีต่างๆนั้นมีกระบวนการของ สำนักงานอัยการสูงสุด และมีองค์กรที่เขาจะจัดการ และได้ดำเนินการไปประมาณ 7-8 เดือนทำเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยต้องการเปิดความสัมพันธ์ และลงนามความร่วมมือ ข้อตกลงกับประเทศในตะวันออกกลางในหลายประเทศ นอกจากข้อตกลงด้านการค้า การลงทุน การพลังงานแล้ว ปัจจุบันโลกต้องเจอกับภัยคุกคามรูปแบบ ที่ต้องมีภาคีประเทศที่ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาเราก็ได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมร่วมสมัชชาสหประชาชาติแล้ว ประมาณเดือนก.ย.ก็จะเดินทางไปเยือนประเทศในตะวันออกลาง 3- 4 ประเทศเพื่อสานต่อความร่วมมือและข้อตกลงที่มีระหว่างกัน โดยหนึ่งในนั้นคือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตร์ (ยูเออี)และ ซาอุดิอาระเบีย
นายปณิธาน กล่าวว่าการเดินทางไปยูเออีของนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับการดำเนินการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า มติ ครม.เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ให้ความเห็นชอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไม่เกี่ยวกับการประสานติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนิน เรื่องนี้ต้นเรื่องนี้มาจากทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือทางด้านข่าวกรอง ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่เจาะจงเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนผลจากความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยกับยูเออีครั้งนี้ จะเป็นความคืบหน้าในการเปิดความร่วมมือการขอตัวพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น นายกษิต ปฏิเสธอีกครั้งว่า ไม่ใช่ เป็นเพียงความร่วมมือทางด้าน ข่าวกรองและกระบวนการยุติธรรมที่อาณาประเทศเขาก็ทำกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเป็นความริเริ่มมาจากฝ่ายยูเออีด้วย อย่าไปโยงกับพ.ต.ท.ทักษิณ การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษหรือผู้ต้องหาในคดีต่างๆนั้นมีกระบวนการของ สำนักงานอัยการสูงสุด และมีองค์กรที่เขาจะจัดการ และได้ดำเนินการไปประมาณ 7-8 เดือนทำเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยต้องการเปิดความสัมพันธ์ และลงนามความร่วมมือ ข้อตกลงกับประเทศในตะวันออกกลางในหลายประเทศ นอกจากข้อตกลงด้านการค้า การลงทุน การพลังงานแล้ว ปัจจุบันโลกต้องเจอกับภัยคุกคามรูปแบบ ที่ต้องมีภาคีประเทศที่ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาเราก็ได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมร่วมสมัชชาสหประชาชาติแล้ว ประมาณเดือนก.ย.ก็จะเดินทางไปเยือนประเทศในตะวันออกลาง 3- 4 ประเทศเพื่อสานต่อความร่วมมือและข้อตกลงที่มีระหว่างกัน โดยหนึ่งในนั้นคือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตร์ (ยูเออี)และ ซาอุดิอาระเบีย
นายปณิธาน กล่าวว่าการเดินทางไปยูเออีของนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับการดำเนินการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี