นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งที่อยู่ที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายว่า ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้ให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แต่เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่พบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าอยู่ที่ใด เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดในห้องมาจากที่ใดที่หนึ่ง แต่ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับปากว่าหากพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีการขับเคลื่อนทางการเมือง ก็จะไม่ยอมให้ใช้ประเทศเป็นฐานเคลื่อนไหว แต่ต้องยอมรับว่าการตรวจสอบของยูเออี เป็นการตรวจสอบตามชื่อพาสปอร์ตไทย ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะใช้ชื่ออื่น หรือพาสปอร์ตประเทศอื่นในการเดินทาง
นายพนิช ยังกล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้ว่า ไม่น่าส่งผลกระทบกับการทำงานของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยพูดว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงออกเรื่องงานวันเกิดก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าเป็นการยุยงให้เกิดความแตกแยก รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะแยกออกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไร ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำได้ ถ้าหากทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่อยากให้กลับมาในประเทศ มาสู้คดีให้จบก่อน ค่อยดำเนินการเรื่องต่าง ๆ
นายพนิช ยังกล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้ว่า ไม่น่าส่งผลกระทบกับการทำงานของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเคยพูดว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงออกเรื่องงานวันเกิดก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าเป็นการยุยงให้เกิดความแตกแยก รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะแยกออกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอะไร ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำได้ ถ้าหากทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่อยากให้กลับมาในประเทศ มาสู้คดีให้จบก่อน ค่อยดำเนินการเรื่องต่าง ๆ