ใครจะอยู่ค้ำฟ้า..ใครหนีความตายได้?
คำตอบนี้..อย่าว่าแต่เด็กอมมือจะตอบได้เลย “หลินปิง” ลูกหมีแพนด้าเชียงใหม่พูดภาษามนุษย์ได้ ก็คงจะตอบว่า..ไม่มีหมา..เอ๊ย..หมีหรือมนุษย์ หนีพ้นความตายไปได้หรอกเฟ้ย!
ขนาดนักโทษชายหนีคุกไปซุกดูไบ มีเงินโกงชาติซุกซ่อนไว้มากมายในหลายประเทศ ยังไม่มีปัญญาจะใช้เงินล้นฟ้าเหล่านั้น..ซื้อมะเร็ง..เอ๊ย..ซื้อชีวิตหนีความตาย จากเงื้อมมือพญามัจจุราชได้..จริงไหม “สมเด็จมูลเมืองหน้าเหลี่ยม”?
แน่นอน..พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นพดล ปัทมะ วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ฯลฯ รวมทั้งมนุษย์ “ปากสุนัข-จมูกชมพู่” ที่กำลังจะเดินทางล่วงหน้า ไปท่องเที่ยวในนรกเร็วๆ นี้
อ้อ..รวมทั้งบรรดาตะกวดและหมาขี้เรื้อน แถวสภาและทำเนียบฯ บางคน ก็อยู่ในข่ายเวรกรรมตามสนอง ชนิดค้ำถ่อหลุดรอดบัญชียมบาลไม่ได้เช่นกัน..จริงไหมคร๊าบ?
คนเราเลือกเกิดนั้น-เลือกไม่ได้ แต่เลือกทำคุณงามความดี-แทนทำชั่วนั้น เลือกได้และควรต้องเลือกครับ
วันนี้..หากมีใครคนหนึ่งตะโกนถามผู้คนว่า..
“คนหน้าเหลี่ยม” เป็นคนชั่วไหม..อืม..คงยกมือกันพรึ่บ!
“หน้าเหลี่ยม” โกงชาติหรือเปล่า..อืม..ยังยกมือพรึ่บอีกครั้ง!!
“หน้าเหลี่ยม” จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์หรือไม่..โอ้โห้..ยังยกมือกันพรึ่บอยู่!!!
“หน้าเหลี่ยม” ขายชาติ-ทรยศชาติ..ยังถามไม่จบ..ก็ยกมือกันทั้งชาติเลย!!!!
“หน้าเหลี่ยม-ฮุนเซน” เป็นทรราชสองแผ่นดินอ๊ะป่าว..เฮ้อ..ยกมือทั้งชาติกันอีกแล้ว!!!!!
นั่นเป็นคำถาม-คำตอบและความรู้สึกทั่วไปของคนไทยในขณะนี้ แต่ความรู้สึกนั้น..ยังมิใช่คำตอบทางวิทยาศาตร์ หรือความรู้ที่แท้จริงอันเต็มไปด้วยเหตุผลครับ
ที่สำคัญ..ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้ “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค มีทั้งทีวีผ่านดาวเทียม เคเบิลทีวี สถานีวิทยุชุมชนทั้งในกทม.และท้องถิ่น เว็บไซต์ในเครือข่าย “คนหน้าเหลี่ยม” ฯลฯ เผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์กันแบบผิดๆ บิดเบือนความจริงจากขาวให้กลายเป็นดำอย่างโจ๋งครึ่ม
ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งในเมืองและชนบท ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารผิดๆ ที่ไม่ถูกต้องเสมอมา ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของชาติไทย
ทฤษฎีความจริงแห่งสังคมมนุษย์นั้น การต่อสู้เอาชนะผู้ไม่หวังดีหรือเหล่าคนชั่ว ที่ชอบให้ข่าวผิดๆ หรือการปล่อยข่าวลือที่ไม่จริงทั้งหลาย หนทางแก้ไขที่ดีและได้ผลมากที่สุดในทางบวก คือ ต้องใช้สื่อของรัฐทั้งหมดทำให้คนทั้งชาติสว่างด้วยปัญญา รู้ว่าอะไร คือ เรื่องจริงและอะไร คือ เรื่องไม่จริง ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจปัญหาด้วยเหตุผล มากกว่าความรู้สึกครับ!
ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน เหมา เจ๋อ ตุง เคยพูดถึงเรื่องทำนองนี้ว่า ต้องทำลายหรือใช้ความจริงเอาชนะข่าวลือและข่าวโกหก ต้องทำลายวิทยุใต้ดินที่เป็นเท็จ..ด้วยวิทยุบนดินที่เป็นความจริง..
แหม..งานนี้ไม่ยากและซับซ้อนหรอกครับ แค่รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้วิทยุ-ทีวี-สื่อรัฐทุกชนิด นำเสนอข่าวสาร “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคอย่างพร้อมเพรียงและต่อเนื่องว่า
“คนหน้าเหลี่ยม” เคยทำชั่วอะไรกับชาติบ้านเมืองของเรามาแล้วบ้าง?
“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคโกงชาติ-ขายชาติ-ทรยศชาติอะไรบ้าง?
“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคทิ้งหลักฐาน และร่องรอยการโกงไว้มากมาย พอจะให้จับเข้าซังเตได้อยู่แล้วครับ
ที่สำคัญรัฐบาลอภิสิทธิ์คิดหรือไม่ว่า “คนหน้าเหลี่ยม” คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่มีฤทธิ์เดชทำลายล้างบ้านเมือง ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างใหญ่หลวง
อภิสิทธิ์มองปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” หนัก-เบาแค่ไหน นั่นคือ หัวใจปัญหาชาติครับ
หากมอง “คนหน้าเหลี่ยม” ไร้อำนาจแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงกังวลแล้ว รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็จะใช้วิธีจัดการปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” แบบเฉื่อยชา-เช้าชามเย็นชาม-ทำทองไม่รู้ร้อน-หลงทิศผิดทาง ฯลฯ ทำให้ปัญหาชาติบานปลายจนบ้านเมืองไร้ความสงบ และสิ้นสันติสุขดั่งเช่นทุกวันนี้
แต่หากรัฐบาลรูปหล่ออภิสิทธิ์ เห็นว่า “คนหน้าเหลี่ยม” เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-สถาบันสูงสุด นายกฯ รูปหล่อก็ต้องใช้ความเด็ดขาด จัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” และพลพรรคป่วนชาติ โดยไม่มีความคิดที่จะซูเอี๋ยหรือแอบไปสมานฉันท์กัน ชนิดไม่แยแสถึงผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี ซึ่งใครบางคนในคณะรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้แอบติดต่อกับ “คนหน้าเหลี่ยม” แบบลับๆ ล่อๆ ในขณะนี้
วันนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังจมน้ำกลางทะเลกว้าง เพราะเขาสิ้นคิดถึงขนาดหันไปสมคบกับเขมร “ฮุนเซน” มาย่ำยีทำร้ายทำลายสถาบันสูงสุดและชาติไทยทั้งลับและเปิดเผย
ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงเลือกเขมร เป็นฐานที่มั่นกองทัพ “ส้นตีนแดง” น่ะหรือ?
ตอบตรงๆ ก็คือ เขมรมีชายแดนติดกับประเทศไทย แถมฮุนเซน-ยังเป็นผู้นำเผด็จการสมบูรณ์แบบ ที่คุมทั้งกลไกรัฐ ศาล รัฐสภา และกษัตริย์กัมพูชาไว้ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จนั่นเอง
“คนหน้าเหลี่ยม” รู้ดีว่าสำหรับประเทศกัมพูชาแล้ว ตกลงกับฮุนเซนในเรื่องผลประโยชน์ที่ลงตัวได้ ทุกเรื่องไม่ว่าง่ายหรือยาก..ก็จะได้สมใจนึกบางลำพูครับ
ดังนั้น..จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงยกแผ่นดินไทย ไปประเคนให้กับเขมรฮุนเซน ด้วยการเซ็นสนธิสัญญาและคำแถลงการณ์ร่วม รวมทั้งอีกสารพัดเอกสารที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ไปเซ็นไว้กับฮุนเซนในฐานะนายกฯ 2 ประเทศ
ซึ่งยังผลให้แผ่นดินไทยที่ไม่เคยทับซ้อนกับเขมร กลับกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับเขมรขึ้นมาดื้อๆ ที่สำคัญเป็นการทับซ้อนในลักษณะประเทศไทยเสียเปรียบ ต้องเสียทรัพย์ในดินสินในน้ำให้กับเขมรเพิ่มขึ้นครับ
บัดนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวไปเป็นขี้ข้ารับใช้ฮุนเซนแห่งเขมร เป็นทั้งที่ปรึกษาส่วนตัวและทางด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลฮุนเซน โดยมีกษัตริย์สีหมุนีเซ็นคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
แน่นอน..ผลประโยชน์เบื้องต้นที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ก็คือ คำสั่งที่แต่งตั้งโดยกษัตริย์เขมรนั้น จะทำให้ “คนหน้าเหลี่ยม” อาศัยช่องโหว่รอดพ้นจากการถูกส่งตัว ในฐานะนักโทษหนีคุกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่รัฐบาลเขมรทำไว้กับรัฐบาลไทยนั่นเอง
ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์อ่อนแอในการจัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ปล่อยให้ระบอบทักษิณยังมีอิทธิพลอยู่ทุกหัวระแหง ทำให้ทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการ-คนไทยที่เห็นแก่เงินและอำนาจจำนวนหนึ่ง ยังคงเคลื่อนไหวสนับสนุน “คนหน้าเหลี่ยม” ทั้งลับและเปิดเผยได้ตลอดเวลา
นั่นทำให้ฮุนเซนเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ “คนหน้าเหลี่ยม” จะกลับมายึดครองประเทศไทยได้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ฮุนเซนจึงตีตั๋วยืนข้าง “คนหน้าเหลี่ยม” เต็มตัว ถึงขนาดให้เช่าเกาะกง 99 ปี เพื่อให้ “คนหน้าเหลี่ยม” ใช้แผ่นดินเขมร เป็นฐานที่มั่นสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ล้มล้างรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งลับและเปิดเผยอย่างเต็มที่ดังมีข่าวต่างประเทศรายงานว่า
มีอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลที่ “คนหน้าเหลี่ยม” บงการชี้นิ้ว เป็นหญิงก็ไม่ใช่-เป็นชายก็ไม่เชิง เอ๊ะ..แล้วเป็นอะไรหว่า? ได้เผยกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศบางคนว่า ขณะนี้กองกำลังสร้างรัฐไทยใหม่ได้ลักลอบนำอาวุธ ทั้งหนักและเบาเข้ามาทางภาคอีสานของไทยบางจุดแล้ว
เรียกว่า..พลพรรค “คนหน้าเหลี่ยม” พร้อมเป่านกหวีด เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เต็มทุกรูปแบบแล้วครับ
นอกสภา-กองกำลังคนเสื้อแดงพร้อมเขย่าเก้าอี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยการลุกฮือทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองบางแห่ง ในสภาฯ-ส.ส.เสื้อแดงก็จะป่วนระบอบรัฐสภาจนหมดสภาพ ถึงขนาดการประชุมสภาฯ ล่มแล้วล่มอีก นอกระบบ- “คนมีสี” ส่วนหนึ่งจะป่วนชาติทุกวิธีการ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง ลอบสังหารผู้คนฝ่ายตรงข้ามกับ “คนหน้าเหลี่ยม” รวมทั้งอาจมีรายการวี๊ด..บึ้ม..เป็นระลอกตามมาด้วย...
หากพลาดพลั้งรัฐบาลไทย ก็มีฐานที่มั่นไว้หลบภัยและตั้งกองกำลังอาวุธ “รัฐบาลส้นตีนแดงผลัดถิ่น” อีกด้วย
เรียกว่า “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค “ส้นตีนแดง” จะป่วนชาติทุกวิธีการ-ทุกรูปแบบ-ทั้งลับและเปิดเผย จนรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนแอและไม่เท่าทันเล่ห์กลเหล่าคนชั่ว ตกอยู่ในสภาพจะล้มมิล้มแหล่..จนในที่สุด..ทุกอย่างอาจจะจบลงตรง..
นายกฯ รูปหล่ออภิสิทธิ์ลากยาวรัฐบาลหน่อมแน้มต่อไปไม่ไหว จำต้อง..ยุบสภาฯ-ลาออกเพื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” จะได้ใช้เงินซื้อเสียงโกงการเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้งหนึ่งไงล่ะครับ
ทว่า..หากรัฐบาลอภิสิทธิ์พลาดท่ายุบสภาฯ-ลาออกไม่ทัน “คนหน้าเหลี่ยม” อาจใช้วิธีชำเรายึดเอาอำนาจมาไว้ในกำมือแบบเขมรก็ได้นะครับ
ก็แหม..ตอนนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังคลั่งไคล้หลงใหลฮุนเซนโมเดลมั๊กมาก ทำให้คนทั้งโลกเห็น “ทรราชหน้าเหลี่ยม” โคจรไปกอดกับ “ทรราชหน้าเขมร” เหมือน “เฮี้ย” สองตัวกอดกันกลมหน้าทำเนียบฯ “ตึกไทยคู่ฟ้า” ไงล่ะครับ
โอ้..พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ดูสิ..“ทรราชหน้าเหลี่ยม” กำลังเดินทับรอยเท้าบนผืนทราย..เอ๊ย..รอยตีน “ทรราชหน้าเขมร” อย่างกระชั้นชิดแล้วคร๊าบ..!!!
คำตอบนี้..อย่าว่าแต่เด็กอมมือจะตอบได้เลย “หลินปิง” ลูกหมีแพนด้าเชียงใหม่พูดภาษามนุษย์ได้ ก็คงจะตอบว่า..ไม่มีหมา..เอ๊ย..หมีหรือมนุษย์ หนีพ้นความตายไปได้หรอกเฟ้ย!
ขนาดนักโทษชายหนีคุกไปซุกดูไบ มีเงินโกงชาติซุกซ่อนไว้มากมายในหลายประเทศ ยังไม่มีปัญญาจะใช้เงินล้นฟ้าเหล่านั้น..ซื้อมะเร็ง..เอ๊ย..ซื้อชีวิตหนีความตาย จากเงื้อมมือพญามัจจุราชได้..จริงไหม “สมเด็จมูลเมืองหน้าเหลี่ยม”?
แน่นอน..พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นพดล ปัทมะ วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ฯลฯ รวมทั้งมนุษย์ “ปากสุนัข-จมูกชมพู่” ที่กำลังจะเดินทางล่วงหน้า ไปท่องเที่ยวในนรกเร็วๆ นี้
อ้อ..รวมทั้งบรรดาตะกวดและหมาขี้เรื้อน แถวสภาและทำเนียบฯ บางคน ก็อยู่ในข่ายเวรกรรมตามสนอง ชนิดค้ำถ่อหลุดรอดบัญชียมบาลไม่ได้เช่นกัน..จริงไหมคร๊าบ?
คนเราเลือกเกิดนั้น-เลือกไม่ได้ แต่เลือกทำคุณงามความดี-แทนทำชั่วนั้น เลือกได้และควรต้องเลือกครับ
วันนี้..หากมีใครคนหนึ่งตะโกนถามผู้คนว่า..
“คนหน้าเหลี่ยม” เป็นคนชั่วไหม..อืม..คงยกมือกันพรึ่บ!
“หน้าเหลี่ยม” โกงชาติหรือเปล่า..อืม..ยังยกมือพรึ่บอีกครั้ง!!
“หน้าเหลี่ยม” จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์หรือไม่..โอ้โห้..ยังยกมือกันพรึ่บอยู่!!!
“หน้าเหลี่ยม” ขายชาติ-ทรยศชาติ..ยังถามไม่จบ..ก็ยกมือกันทั้งชาติเลย!!!!
“หน้าเหลี่ยม-ฮุนเซน” เป็นทรราชสองแผ่นดินอ๊ะป่าว..เฮ้อ..ยกมือทั้งชาติกันอีกแล้ว!!!!!
นั่นเป็นคำถาม-คำตอบและความรู้สึกทั่วไปของคนไทยในขณะนี้ แต่ความรู้สึกนั้น..ยังมิใช่คำตอบทางวิทยาศาตร์ หรือความรู้ที่แท้จริงอันเต็มไปด้วยเหตุผลครับ
ที่สำคัญ..ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยังคงปล่อยให้ “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค มีทั้งทีวีผ่านดาวเทียม เคเบิลทีวี สถานีวิทยุชุมชนทั้งในกทม.และท้องถิ่น เว็บไซต์ในเครือข่าย “คนหน้าเหลี่ยม” ฯลฯ เผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์กันแบบผิดๆ บิดเบือนความจริงจากขาวให้กลายเป็นดำอย่างโจ๋งครึ่ม
ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งในเมืองและชนบท ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารผิดๆ ที่ไม่ถูกต้องเสมอมา ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของชาติไทย
ทฤษฎีความจริงแห่งสังคมมนุษย์นั้น การต่อสู้เอาชนะผู้ไม่หวังดีหรือเหล่าคนชั่ว ที่ชอบให้ข่าวผิดๆ หรือการปล่อยข่าวลือที่ไม่จริงทั้งหลาย หนทางแก้ไขที่ดีและได้ผลมากที่สุดในทางบวก คือ ต้องใช้สื่อของรัฐทั้งหมดทำให้คนทั้งชาติสว่างด้วยปัญญา รู้ว่าอะไร คือ เรื่องจริงและอะไร คือ เรื่องไม่จริง ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจปัญหาด้วยเหตุผล มากกว่าความรู้สึกครับ!
ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน เหมา เจ๋อ ตุง เคยพูดถึงเรื่องทำนองนี้ว่า ต้องทำลายหรือใช้ความจริงเอาชนะข่าวลือและข่าวโกหก ต้องทำลายวิทยุใต้ดินที่เป็นเท็จ..ด้วยวิทยุบนดินที่เป็นความจริง..
แหม..งานนี้ไม่ยากและซับซ้อนหรอกครับ แค่รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้วิทยุ-ทีวี-สื่อรัฐทุกชนิด นำเสนอข่าวสาร “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคอย่างพร้อมเพรียงและต่อเนื่องว่า
“คนหน้าเหลี่ยม” เคยทำชั่วอะไรกับชาติบ้านเมืองของเรามาแล้วบ้าง?
“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคโกงชาติ-ขายชาติ-ทรยศชาติอะไรบ้าง?
“คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคทิ้งหลักฐาน และร่องรอยการโกงไว้มากมาย พอจะให้จับเข้าซังเตได้อยู่แล้วครับ
ที่สำคัญรัฐบาลอภิสิทธิ์คิดหรือไม่ว่า “คนหน้าเหลี่ยม” คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่มีฤทธิ์เดชทำลายล้างบ้านเมือง ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างใหญ่หลวง
อภิสิทธิ์มองปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” หนัก-เบาแค่ไหน นั่นคือ หัวใจปัญหาชาติครับ
หากมอง “คนหน้าเหลี่ยม” ไร้อำนาจแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงกังวลแล้ว รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็จะใช้วิธีจัดการปัญหา “คนหน้าเหลี่ยม” แบบเฉื่อยชา-เช้าชามเย็นชาม-ทำทองไม่รู้ร้อน-หลงทิศผิดทาง ฯลฯ ทำให้ปัญหาชาติบานปลายจนบ้านเมืองไร้ความสงบ และสิ้นสันติสุขดั่งเช่นทุกวันนี้
แต่หากรัฐบาลรูปหล่ออภิสิทธิ์ เห็นว่า “คนหน้าเหลี่ยม” เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง-สถาบันสูงสุด นายกฯ รูปหล่อก็ต้องใช้ความเด็ดขาด จัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” และพลพรรคป่วนชาติ โดยไม่มีความคิดที่จะซูเอี๋ยหรือแอบไปสมานฉันท์กัน ชนิดไม่แยแสถึงผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี ซึ่งใครบางคนในคณะรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้แอบติดต่อกับ “คนหน้าเหลี่ยม” แบบลับๆ ล่อๆ ในขณะนี้
วันนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังจมน้ำกลางทะเลกว้าง เพราะเขาสิ้นคิดถึงขนาดหันไปสมคบกับเขมร “ฮุนเซน” มาย่ำยีทำร้ายทำลายสถาบันสูงสุดและชาติไทยทั้งลับและเปิดเผย
ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงเลือกเขมร เป็นฐานที่มั่นกองทัพ “ส้นตีนแดง” น่ะหรือ?
ตอบตรงๆ ก็คือ เขมรมีชายแดนติดกับประเทศไทย แถมฮุนเซน-ยังเป็นผู้นำเผด็จการสมบูรณ์แบบ ที่คุมทั้งกลไกรัฐ ศาล รัฐสภา และกษัตริย์กัมพูชาไว้ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จนั่นเอง
“คนหน้าเหลี่ยม” รู้ดีว่าสำหรับประเทศกัมพูชาแล้ว ตกลงกับฮุนเซนในเรื่องผลประโยชน์ที่ลงตัวได้ ทุกเรื่องไม่ว่าง่ายหรือยาก..ก็จะได้สมใจนึกบางลำพูครับ
ดังนั้น..จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่า ทำไม “คนหน้าเหลี่ยม” จึงยกแผ่นดินไทย ไปประเคนให้กับเขมรฮุนเซน ด้วยการเซ็นสนธิสัญญาและคำแถลงการณ์ร่วม รวมทั้งอีกสารพัดเอกสารที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ไปเซ็นไว้กับฮุนเซนในฐานะนายกฯ 2 ประเทศ
ซึ่งยังผลให้แผ่นดินไทยที่ไม่เคยทับซ้อนกับเขมร กลับกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับเขมรขึ้นมาดื้อๆ ที่สำคัญเป็นการทับซ้อนในลักษณะประเทศไทยเสียเปรียบ ต้องเสียทรัพย์ในดินสินในน้ำให้กับเขมรเพิ่มขึ้นครับ
บัดนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวไปเป็นขี้ข้ารับใช้ฮุนเซนแห่งเขมร เป็นทั้งที่ปรึกษาส่วนตัวและทางด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาลฮุนเซน โดยมีกษัตริย์สีหมุนีเซ็นคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
แน่นอน..ผลประโยชน์เบื้องต้นที่ “คนหน้าเหลี่ยม” ได้ก็คือ คำสั่งที่แต่งตั้งโดยกษัตริย์เขมรนั้น จะทำให้ “คนหน้าเหลี่ยม” อาศัยช่องโหว่รอดพ้นจากการถูกส่งตัว ในฐานะนักโทษหนีคุกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่รัฐบาลเขมรทำไว้กับรัฐบาลไทยนั่นเอง
ด้วยรัฐบาลอภิสิทธิ์อ่อนแอในการจัดการกับ “คนหน้าเหลี่ยม” ปล่อยให้ระบอบทักษิณยังมีอิทธิพลอยู่ทุกหัวระแหง ทำให้ทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการ-คนไทยที่เห็นแก่เงินและอำนาจจำนวนหนึ่ง ยังคงเคลื่อนไหวสนับสนุน “คนหน้าเหลี่ยม” ทั้งลับและเปิดเผยได้ตลอดเวลา
นั่นทำให้ฮุนเซนเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ “คนหน้าเหลี่ยม” จะกลับมายึดครองประเทศไทยได้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน
ฮุนเซนจึงตีตั๋วยืนข้าง “คนหน้าเหลี่ยม” เต็มตัว ถึงขนาดให้เช่าเกาะกง 99 ปี เพื่อให้ “คนหน้าเหลี่ยม” ใช้แผ่นดินเขมร เป็นฐานที่มั่นสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ล้มล้างรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งลับและเปิดเผยอย่างเต็มที่ดังมีข่าวต่างประเทศรายงานว่า
มีอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลที่ “คนหน้าเหลี่ยม” บงการชี้นิ้ว เป็นหญิงก็ไม่ใช่-เป็นชายก็ไม่เชิง เอ๊ะ..แล้วเป็นอะไรหว่า? ได้เผยกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศบางคนว่า ขณะนี้กองกำลังสร้างรัฐไทยใหม่ได้ลักลอบนำอาวุธ ทั้งหนักและเบาเข้ามาทางภาคอีสานของไทยบางจุดแล้ว
เรียกว่า..พลพรรค “คนหน้าเหลี่ยม” พร้อมเป่านกหวีด เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เต็มทุกรูปแบบแล้วครับ
นอกสภา-กองกำลังคนเสื้อแดงพร้อมเขย่าเก้าอี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยการลุกฮือทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองบางแห่ง ในสภาฯ-ส.ส.เสื้อแดงก็จะป่วนระบอบรัฐสภาจนหมดสภาพ ถึงขนาดการประชุมสภาฯ ล่มแล้วล่มอีก นอกระบบ- “คนมีสี” ส่วนหนึ่งจะป่วนชาติทุกวิธีการ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง ลอบสังหารผู้คนฝ่ายตรงข้ามกับ “คนหน้าเหลี่ยม” รวมทั้งอาจมีรายการวี๊ด..บึ้ม..เป็นระลอกตามมาด้วย...
หากพลาดพลั้งรัฐบาลไทย ก็มีฐานที่มั่นไว้หลบภัยและตั้งกองกำลังอาวุธ “รัฐบาลส้นตีนแดงผลัดถิ่น” อีกด้วย
เรียกว่า “คนหน้าเหลี่ยม” กับพลพรรค “ส้นตีนแดง” จะป่วนชาติทุกวิธีการ-ทุกรูปแบบ-ทั้งลับและเปิดเผย จนรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนแอและไม่เท่าทันเล่ห์กลเหล่าคนชั่ว ตกอยู่ในสภาพจะล้มมิล้มแหล่..จนในที่สุด..ทุกอย่างอาจจะจบลงตรง..
นายกฯ รูปหล่ออภิสิทธิ์ลากยาวรัฐบาลหน่อมแน้มต่อไปไม่ไหว จำต้อง..ยุบสภาฯ-ลาออกเพื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” จะได้ใช้เงินซื้อเสียงโกงการเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้งหนึ่งไงล่ะครับ
ทว่า..หากรัฐบาลอภิสิทธิ์พลาดท่ายุบสภาฯ-ลาออกไม่ทัน “คนหน้าเหลี่ยม” อาจใช้วิธีชำเรายึดเอาอำนาจมาไว้ในกำมือแบบเขมรก็ได้นะครับ
ก็แหม..ตอนนี้ “คนหน้าเหลี่ยม” กำลังคลั่งไคล้หลงใหลฮุนเซนโมเดลมั๊กมาก ทำให้คนทั้งโลกเห็น “ทรราชหน้าเหลี่ยม” โคจรไปกอดกับ “ทรราชหน้าเขมร” เหมือน “เฮี้ย” สองตัวกอดกันกลมหน้าทำเนียบฯ “ตึกไทยคู่ฟ้า” ไงล่ะครับ
โอ้..พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ดูสิ..“ทรราชหน้าเหลี่ยม” กำลังเดินทับรอยเท้าบนผืนทราย..เอ๊ย..รอยตีน “ทรราชหน้าเขมร” อย่างกระชั้นชิดแล้วคร๊าบ..!!!